- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 September 2017 17:07
- Hits: 3387
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Sideways
เมื่อวาน ดัชนีฯพัก และหุ้นกลาง-เล็กขึ้นตามคาด (แต่หุ้นที่เราแนะนำเมื่อวานยังไม่ขึ้น ควรถือลุ้นต่อ) โดยกลุ่มเด่นเมื่อวาน ได้แก่ หุ้นได้ประโยชน์จาก Theme ดอกเบี้ยต่ำ ไฟแนนซ์+อสังหาฯ...
"วันนี้ นอกเหนือจากเฟดจะคง ดอกเบี้ย 1-1.25% คาดเฟด จะปรับลดเป้าหมายดอกเบี้ยระยะยาวลงเหลือต่ำกว่า 3% และ ผลประชุม กนง. 27 กย. คาดคงดอกเบี้ย 1.5% Theme ดอกเบี้ยต่ำ เป็นบวกต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์...TISCO KKP TCAP SAWAD MTLS ECL JMT COM7 ASAP และ อสังหาฯ (เน้นตัวที่ Laggard)
วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways ในกรอบ 1,664-1,678 จุด
สัปดาห์นี้ดัชนีฯปรับขึ้นทดสอบ แนวต้าน 1,680 รับ 1,650 จุด จาก จิตวิทยาบวก (1) Window dressing (2) ปัจจัยต่างประเทศคาดผลการประชุมเฟด จะ ลดงบดุล (Balance sheet roll out) ในเดือน ตค., คงดอกเบี้ยกรอบ 1-1.25% และให้มุมมอง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย คาดเป็นบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นโลก
ระยะเดือน คาดว่าจากบริเวณ 1,680 จุด ขึ้นไป ดัชนีฯ จะเริ่มมีแรงขายมากขึ้น เพราะดัชนีฯเริ่มเข้าโซน Super Overbought จาก Indicator Modified stochastic ที่เกิน 90%K ขึ้นไปทั้ง กราฟรายวัน รายสัปดาห์ และ รายเดือน เป็นสัญญาณเตือนของการปรับฐาน คาดจะเริ่มเห็นการปรับฐานเมื่อเข้าสู่ เดือน ตค.v แต่แรงขายจะไม่รุนแรง จากคาด Wealth effect ช่วยพยุงตลาด และ หุ้นกลาง-เล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานรอสนับสนุนจะขึ้นแทน
กลยุทธ์แนะ ขึ้นมารอบนี้ ควรล็อกกำไร หุ้นที่ราคาแรลรี่ จนเกินราคาเหมาะสมพื้นฐาน และสะสมหุ้นกลางเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน ซึ่ง Under perform ไว้รอเล่นรอบหน้า
หุ้นแนะนำวันนี้
KKP แนวรับ 68 บ. ต้าน 71.25 Stop loss 67
TISCO แนวรับ 74 ต้าน 75.75 Stop loss 73
ECL แนวรับ 3.64 ต้าน 3.9 Stop loss 3.3 ปัจจัยหนุนราคาหุ้น Positive catalyst จะมาจาก (1) ภายในสัปดาห์หน้า Bond Rating จะจัดทำเสร็จ โดยการออก Bond ที่มี เรตติ้ง ได้ภายในปีนี้ จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินลงได้อย่างมีนัยะ และหนุนให้ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ, กำไร มีโอกาสดีกว่าคาด นำไปสู่การปรับประมาณการณ์กำไรขึ้น (2) คาดกำไร 3Q17 เบื้องต้นที่ราว 30 ลบ. Trialing PE จะลดลงจาก 30 เท่า เหลือ 25 เท่า
WHA แนวรับ 3.44 ต้าน 3.7 Stop loss 3.4 เมื่อวาน ครม.เห็นชอบร่าง พรบ.EEC แล้ว คาดบังคับใช้ ภายใน 5 เดือน ขณะที่ ยอดโอนที่ดินถึงตอนนี้คาดทำได้ 700 ไร่แล้ว ซึ่งครึ่งปีหลัง คาดจะถึงตามเป้าทั้งปีที่ 1-1.1 พันไร่ dโดยล่าสุดได้โอนที่ดินเพิ่มให้กลุ่มเหล็กสยามยามาโตะอีก 77 ไร่ และ จะปิดดีลขายที่ดินให้กลุ่มชิ้นส่วนเครื่องบินในปีนี้อีกราว 50-100 ไร่"
รายงานวันนี้
กลุ่มค้าปลีก (Sector Update): Get ready for the recovery
เราปรับน้ำหนักการลงทุนเพิ่มถึง 2 ระดับ เป็น dมากกว่าตลาดv (เดิม น้อยกว่าตลาด) เพราะเราเชื่อว่าการบริโภคในประเทศได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดกำลังจะฟื้นตัว ตั้งแต่เดือน ส.ค. เป็นต้นไป ในขณะที่เดือน ต.ค. ปีที่แล้วมีฐานที่ต่ำมาก เราคาดใน 4Q17 จะเห็น SSS ที่กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง และคาดกำไรจะเติบโตแข็งแกร่ง เรา roll over ราคาเป้าหมายของบริษัทในกลุ่มไปอิงฐานปี 2018 โดยเราแนะเลือกซื้อ BEAUTY CPALL HMPRO
Investors' feedback from ACD
BBL: Feedback จากงาน Asian Corporate Day โดยรวมนักลงทุนมีความกังวลต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากทางภาครัฐซึ่งมีความพยายามจากทางภาครัฐมาตลอดในช่วงที่ผ่านมาแต่ยังมีความล่าช้า ในขณะที่การคาดการณ์การเติบโตของการปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับภาครัฐบาล จากประเด็นดังกล่าวคาดนักลงทุนจะยังรอจนกว่าจะมีความชัดเจนจากโครงการภาครัฐก่อนที่จะเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารอีกครั้ง หากพิจารณาในกลุ่มธนาคารไทยดูเหมือนว่านักลงทุนยัง Underweight BBL เนื่องจากการเติบโตที่ไม่โดดเด่นและ ROE ที่ต่ำ อย่างไรก็ตามมีจุดเด่นในด้านของ Valuation ที่ถูกและการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอ อีกประเด็นที่ยังเป็นความกังวลคือ NPLs ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาด NPLs จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับปานกลางใน 2H17 และคาดจะทำจุดสูงสุดในช่วงปลายปี ก่อนที่จะปรับตัวลดลง
PTTEP: Feedback จากงาน Asian Corporate Day โดยรวมคาดนักลงทุนยัง Underweight PTTEP โดยส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ US shale oil ในขณะที่ PTTEP ก็ขาดประเด็นในการเติบโตในระยะสั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรม oil&gas upstream ทั่วโลก เนื่อจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ส่งผลให้ชะลอการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต สำหรับประเด็นกาปรระมูลสัมประทานก็อยู่ในความสนใจ แต่ก็ยังมีประเด็นความล่าช้ากดดันอยู่ ซึ่งคาดนักลงทุนจะรอจนกว่าจะเห็นความชัดเจนจากโครงการดังกล่าว ในด้านของจุดเด่นนักลงทุนมอง PTTEP เป็น Cash Rich ซึ่งทำให้อยู่ในจุดที่ได้เปรียบสำหรับการประมูลในอนาคตข้างหน้า อีกทั้งยังมี Unit-cost structure ที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะแข่งขัน
TOP: Feedback จากงาน Asian Corporate Day ที่ London นักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวกต่อ GRM ในปี 2018 เพราะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาน้อย แต่จากผลตอบรับเราคาดนักลงทุนจะยังไม่เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นตัวนี้เร็วนัก เพราะ GRM ที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้เกิดจาก event-driven เราคาดนักลงทุนอาจรอให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาก่อนจึงจะหาจังหวะเข้าซื้ออีกครั้ง ดังนั้นเราคาดราคาหุ้น TOP จะแกว่ง rangebound ต่อจากนี้
Weekly (Tactical) Portfolio
เราปรับพอร์ตลงทุนระยะสั้น โดยเพิ่มหุ้น WHA เข้าพอร์ต และล็อกกำไร UTP ส่วน TKN ตัดขาดทุน
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(*) ASIAN CPF TU CFRESH JWD ตลาดกุ้งส่งออกสะเทือน กรมประมงหวั่นโรคระบาดใหม่ IMNV ระบาดเข้าไทย จ่อออกประกาศ "โรงงานแปรรูป-ห้องเย็น" ห้ามนำเข้ากุ้ง 5 ชนิดจากต่างประเทศ ขณะที่พ่อแม่พันธุ์ต้องถูกตรวจสอบเข้ม 100% หวั่นซ้ำรอยโรคกุ้งตายด่วน EMS เผยตัวเลขยอดนำเข้ากุ้งสด 6 เดือนแรกพุ่งสูงกว่าปี 2559 เกือบเท่าตัว (ที่มา ประชาชาติธุรกิจ)
(+) STEC CK ITD UNIQ SEAFCO PYLON รฟม.ชงรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 1.09 แสนล้านบาท รูปแบบ PPP เข้า ครม. พย.-ธค. นี้ (ที่มา อินโฟเควส)
(+) WHA AMATA TICON เมื่อวาน ครม.ลงมติเห็นชอบ ร่าง พรบ. EEC ส่ง สนช.พิจารณาต่อ ก่อนเป็น กม.บังคับใช้ (ที่มา ASPEN)
(+) WHA เมื่อวาน 19 กย. เซ็นสัญญาขายที่ดิน 77 ไร่ กับ บ.เหล็กสยามยามาโตะ และเมื่อเดือน สค.17 เพิ่งได้โครงการใหญ่ 2.3 หมื่นล้านบาท จากงาน JV ระหว่าง PTTGC กับ Sanyo Chemical ตั้ง รง.โพลีออล ที่ระยอง (ที่มา อินโฟเควส)
(+) ITEL วันที่ 20 นี้ คาดเซ็นสัญญาอินเตอร์เน็ตชายขอบ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) NOK การบินไทยเตรียมเพิ่มทุน นกแอร์ บอร์ดเคาะ 20 กย.นี้ ทุ่ม 380 ล้านบาท เผยเพราะแผนฟื้นฟูชัดเจน จับตานกแอร์ หาพันธมิตรใหม่ (คาดว่าจะเป็น สายการบินจีน) (ที่มา มติขน)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) พฤหัสนี้ ปธน.สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ และนายกญี่ปุ่น ประชุมนอกรอบก่อน UN หารือแนวทางแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ (คาดความเสี่ยงปัญหาเกาหลีเหนือ ส่งผลต่อหุ้นสหรัฐ และ เอเชียเหนือ แต่มองเป็นบวกต่อหุ้น S.E Asia โดยเฉพาะไทยที่ Laggard ภูมิภาค)
(+) การประชุมธนาคารกลาง เช่น FOMC, BOJ, ธนาคารกลางอินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ในสัปดาห์นี้คาดส่งสัญญาณนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย โดยตลาดคาดเฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และ มีโอกาสไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธค.โดย 53% คาดคงดอกเบี้ย และ 45% คาดขึ้นดอกเบี้ย
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
Technical Analysis
TU
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:21.5
Stop loss:<19.8
เหตุผล: หุ้นสร้างฐานกินเวลาหลายสัปดาห์ ปัจจุบันเริ่มขยับขึ้น ขณะที่รูปแบบ Head $ shoulder bottom และ MACD บ่งชี้รูปแบบขาขึ้น
WHA
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:3.7
Stop loss:<3.3
เหตุผล: ภายหลังจากทะลุแนวต้านสำคัญ 3.3 บ. พร้อมกับวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้แนวต้านเดิมกลับกลาย เป็นแนวรับ ยืนยันสัญญาณฟื้นตัวหรือการเปลี่ยนเป็นขาขึ้นรอบใหม่
LPN
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:12.5
Stop loss:<11.3
เหตุผล: เครื่องมือ Bollinger band และ RSI บ่งชี้โมเมนตัมขาขึ้นระยะสั้น หนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์
ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค