- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 September 2017 17:16
- Hits: 2722
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'Laggard & Mid-Small Cap'
CNS Daily Strategy : คาดตลาด 'Sideway' แนวต้าน 1675/1678จุด แนวรับ 1660/1650จุด คาดตลาดแกว่งตัวรอผลการประชุม FOMC 19-20 กย นี้ ขณะที่กระแสเงิน Fund Flow ยังเป็นบวกตามตลาดเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว แต่ SET ขึ้นมาไว ทำให้ Current Forward PER2017F 16.6เท่า ใกล้ระดับ 17เท่า(1670-1700จุด) ซึ่งเป็น Heat Zone ของ SET ที่มักปรับฐานตลอด 2 ครั้งในรอบ 7ปีหลังสุด จึงเริ่มแนะนำให้ลดน้ำหนักหุ้นจาก 70% สู่ 60%-50% วันนี้เน้น “Laggard & Mid-Small Cap Play” : * MINT, TNR, NYT *
Nomura : Key Factors
(+) TH : Fund Flows ไหลเข้าไทย 13 วัน จาก 15วันทำการ กว่า 632 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
(*) CB : การประชุม FOMC 19-20กย. คาด FED จะส่งสัญญาณปรับลด Balance Sheet
(*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +0.04% สู่ $49.91/bbl / BRT -0.25% สู่ $55.48/bbl
(*) Ex Factor: Trump แถลงที่ UN ถึงเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้ากับเกาหลีเหนือ
(*) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น+19847ลบ.,Short Future-13,100สัญญา,ขายBond+4,585ลบ.
Nomura Daily Top Picks: MINT, TNR, NYT
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ในกรอบแนวต้าน 1675/1678จุด แนวรับ 1660/1650จุด การประชุม FOMC 19-20นี้ Nomura คาด FED จะส่งสัญญาณในการปรับลด Balance Sheet ซึ่งจะมีผลในเดือนต.ค.นี้ แต่คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม โดยให้น้ำหนักที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ตลาดซึมซับกับโอกาสดังกล่าวอยู่แล้ว โดยในการประชุมครั้งนี้ จับตา Dot Plot ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยในระยะกลาง-ยาว ขณะที่ตลาดเริ่มหันไปให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เติบโตค่อนข้างดี ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจโลกให้โตตามไปด้วยได้ หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้นตัว กระตุ้นสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวต่อ นอกจากนี้ทิศทาง Fund Flows ยังคงไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ต่างชาติซื้อสุทธิในไทย 13 วัน จาก 15วันทำการ เป็นมูลค่ากว่า 632 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นปัจจัยผลักดัน SET ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่า ณ บริเวณ 1670 - 1700 จุด เป็นระดับที่มีความเสี่ยงที่ตลาดจะเริ่มปรับฐาน หลัง SET ทดสอบ PE Forward Current Year ที่ระดับ 16.6 เท่า (Max ในช่วง 7ปีหลังคือ 17เท่า ขึ้นมาแล้วปรับฐานตลาด 2 ครั้งหลังสุด) หรือถ้าดู SET PE 12M Forward ที่ระดับ 15.059 เท่า เป็นจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งโดยปกติ SET มักจะปรับฐาน ณ ระดับ 14.7 เท่า ดังนั้นระดับ SET ปัจจุบัน เริ่มเล่นนำผลประกอบการมาพอสมควรให้เริ่มระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Daily Strategy : 9 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Laggard & Mid-Small Cap Play” เป็นหลัก
1. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว เน้นหุ้น BDMS, MINT Laggard และเด่นรับช่วงฤดูกาลที่แข็งแกร่ง
2. Initial Coverage BUY TNR(TP24) : ราคาหุ้นที่ลดลง 36%YTD เนื่องจากผิดหวังในกำไรสุทธิ 1H17 ที่ลดลง 37%y-y อันเป็นผลจากยอดขายลดลงในตลาดส่งออก แต่สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับแล้ว นยอดขายและส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มขึ้นใน 2H17 เราคาดการส่งออกและการขายในประเทศจะดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2018-19F
3. Property Sentiment : SIRI(TP2.5) : โครงการ Taka Haus Ekamai 12 (มูลค่า 2.0 พันลบ; 269 ยูนิต) เปิด official launch 16-17 ก.ย. ทำยอดขายได้ 1.65 พันลบ หรือราว 82% สูงกว่าเป้าบริษัทที่ 70%, SPALI(TP32 ) Soft launch Supalai Premier CharoenNakorn นำมาเปิดขายราว 50% ของโครงการและขายได้ทั้งหมด หนุน SIRI, SPALI ตอบรับเชิงบวก
4. Fund Flow ไหลเข้าหนุนหุ้นในประเทศ กลุ่มธนาคาร(KBANK, KTB, BBL, SCB, TMB) การลงทุน(SCC, CK, STEC, ITD) วันนี้เน้น BBL, , CK, ITD, SCC
5. Energy Rotation : คาดราคาน้ำมัน BRENT ระยะสั้นขึ้นสู่ USD57-60/bbl หลังล่าสุดยืนเหนือ 55.99เหรียญฯ จากแรงกดดันของอุปทานส่วนเกินลดลง ตามกำลังการผลิต US ต่ำ 77 และต้องใช้เวลาในการกลับมาดำเนินการผลิตเหมือนปี 2005 ที่กินระยะเวลากว่า 6-7เดือน หนุน PTTEP, PTT เด่น และ Laggard PTTGC, IRPC เด่น
6. Tax Reform : สหรัฐฯจะเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษีในวันที่ 25 กย.นี้ บวกต่อ IVL
7. EEC Play : คาด EEC จะเข้าครม.วันที่ 19 ก.ย.นี้ หนุน Leader AMATA, WHA และกลุ่มที่ได้ประโยชน์แต่ราคายังไม่ตอบรับบวก NYT, ROJNA
8. สศก. คาด Farm Income ในปี 2560-61 เพิ่ม หนุน ROBINS, CPALL, BJC, HMPRO
9. วันนี้ Mid-Small Cap เด่น : BLAND, BWG, KAMART, JUBILE, PM, NYT
*Take Profit เล่นรอบ MONO, AOT, SCB ออกจาก Stock Monitors
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
MINT (TP18F 50*): Support: 38.5/37.0 Resistant: 40.0/41.5
Theme : Earnings Play
Earnings outlook : คาดกำไรปกติ 2017F จะกลับมาเติบโต 15% จากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนทุกธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดี ทั้งโรงแรม, ร้านอาหารและ AVC โดยระยะสั้น งวด 3Q17F คาดกำไรอยู่ในทิศทางที่ดี เพิ่มขึ้นทั้ง y-y, q-q
Valuation : ราคาหุ้นที่พักฐานลงมา 5.09% จากจุดสูงสุดเมื่อต้นเดือนส.ค. มองเป็นจุดเข้าลงทุนรอบใหม่ ตาม ERW ที่ outperform ก่อนหน้านี้ โดยซื้อขายที่ PER18F ระดับ 28x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 27.4%
Catalyst : ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเหนือ 50 เหรียญ/บาร์เรล หนุนตัวเลขนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้าไทยฟื้นตัวเด่น + ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น เป็นอานิสงส์บวกเชิงจิตวิทยา ต่อคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเลือกมาไทยมากขึ้น
TNR (TP18F 24*): Support: 19.3/19.0 Resistant: 21.2/23.2
Theme : Bottom play
Earning Outlook : แนวโน้มผลประกอบการ 2H17 1) สถานการณ์ในประเทศดีขึ้น ส่งเสริมการตลาดได้มากขึ้น 2) ตลาดจีนเริ่มดีขึ้น 3) ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในเม็กซิโก 4) ตลาดเพื่อนบ้าน CLMV มีความต้องการเพิ่มขึ้นจากยอมรับแบรนด์สินค้า OnetouchTM มากขึ้น ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิเติบโต +32.5%/+16.2% ในปี 2018F/19F
Valuation : ออกบทวิเคราะห์แนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 24 บาท พีอี 29.5 เท่าเป็นค่าเฉลี่ยในอดีต ราคาหุ้นที่ลดลง 36%YTD laggard ตลาด โดยแนวโน้มส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นใน 2H17 ประกอบกับ คาดการณ์ส่งออกและยอดขายในประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2018-19F
Catalyst : ผลประกอบการใน 2H17 จะฟื้นตัวเด่นเทียบ h-h จากกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัวและยอดขายใน CLMV คาดเติบโตเฉลี่ยปี 10% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ประกอบกับ เตรียมลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในสื่อที่มีราคาแพง ควบคุมอัตรากำไรภายในได้ดีขึ้น ส่งผลให้ คาดรายได้รวมที่ฟื้นตัวและอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง
NYT (TP18F TP7.65*): Support: 5.55/5.25 Resistant: 6.5/7.0
Theme : Bottom Play
Earnings Outlook : คาดกำไร 2H17F ฟื้นตัวดีขึ้นเทียบ h-h จากยอดส่งออกรถยนต์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และใน 1Q18F เริ่มบันทึกรายได้จากพื้นที่เช่าบนท่าเรือ 1.2 แสนตร.ม. หนุนคาดกำไรสุทธิ18F เติบโต +17.4% y-y และมี upside risk จากค่าเช่าที่สูงขึ้น 30% จากสมมติฐานเดิมจากปัจจัยบวก พรบ. EEC จะเพิ่มฐานกำไรสุทธิปี18F/19F/20F ที่ระดับ +4.3%/+5.7%/+6.4% ตามลำดับ
Valuation : ภาพรวมตลาดที่มี sentiment ดี หนุนความน่าสนใจใน Mid-small cap โดย NYT เป็นหุ้น Defensive ที่มีรายได้และกระแสเงินสดมั่นคง + ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมามากและเริ่มยืนได้อีกครั้ง มี Downside ต่ำ โดยซื้อขาย PER ปี 2018F เพียง 15.3x เท่าต่ำกว่ากลุ่มขนส่งฯที่ 29.1x + Dividend yield 18F คาดจ่าย 0.35 บาท/หุ้นหรือสูงถึง 6.0%
Catalyst : มี Hidden value จากที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 75 ไร่บริเวณที่ดินแหลมฉบังซึ่งคาดมีค่าเช่าสูงขึ้นจากปัจจัยบวกพรบ. EEC ที่คาดประกาศแล้วเสร็จใน 4Q17F + BOI อนุมัติให้ผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ เฟส 1 สามารถนำยอดรถยนต์ไฮบริด-รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (HEV) รวมยอดผลิตให้ถึง 100,000 คันต่อปีได้ หนุนภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ผลิตเพื่อส่งออก เติบโตได้ในระยะยาว NYT เด่น
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
Fundamental Investment Analyst on Securities and Technical
[email protected] 0-2287-6871
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783