- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 September 2017 16:43
- Hits: 1994
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Laggard Play
Smart Pick
1. สะสม TRUE : ราคาปิด 6.35 บาท ราคาเหมาะสม 7.80 บาท
a) มีมติขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF เพิ่มเติมอีก 6.5-7.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นขายสินทรัพย์ไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาทภายในปี 2560 และไม่ต่ำกว่า 5.1 หมื่นล้านบาทในปี 2561
b) เรามีมุมมองบวกจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนในรอบนี้ เนื่องจากหากคิดที่มูลค่าขั้นต่ำคือ 6.5 หมื่นล้านบาท จะส่งผลให้ TRUE มีกำไรพิเศษ 7 พันล้านบาท ใน 4Q60 และสูงถึง 25,000 ล้านบาท ในปี 2561
c) คาดว่าจะได้เงินสด (หลังหักสัดส่วนที่ต้องใส่เพิ่มใน DIF แล้ว) ถึง 40,000 ล้านบาท หรือ 1.20 บาทต่อหุ้น และส่งผลให้ Net D/E ลดลงจาก 0.7 เท่า เหลือ 0.4 เท่า โดยคาดว่าจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง และเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว
2. สะสม ERW : ราคาปิด 5.80 บาท ราคาเหมาะสม 6.40 บาท
a) คาดกำไรปกติ 3Q60 จะเติบโต YoY และ QoQ เนื่องจาก REVPAR ของทุกกลุ่มโรงแรมเติบโตราว 5% จากการปรับเพิ่มราคาห้องพักเฉลี่ย และอัตราการเข้าพักทรงตัว QoQ ที่ 72-74%
b) แผนการเปิดโรงแรงใหม่อีก 7 แห่งใน 2H60 จะช่วยหนุนจำนวนห้องพักใหม่ให้เพิ่มขึ้นอีก 618 ห้อง เป็น 7,315 ห้อง เทียบกับ 1H60 ที่มีจำนวนห้องใหม่ 312 ห้อง และการขยายตัวเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคจะเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อผลักดันการเติบโตในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพ
c) คาดกำไรปกติปี 2560 เติบโต +40% YoY เป็น 504 ล้านบาท และต่อเนื่อง +11% YoY เป็น 559 ล้านบาท ในปี 2561 และซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2560 ระดับ 12.2 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงแรมที่ 14.5 เท่า
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 9.67 จุด ปิดที่ 1670.20 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6.8 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT PTT SCC และ BJC ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติ สถาบันในประเทศ และบัญชี บล. ซื้อสุทธิทั้ง 3 กลุ่ม ราว 2 พันล้านบาท 1.2 พันล้านบาท และ 532 ล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 1.3 หมื่นสัญญา รวมกว่า 3.5 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการราว 7.9 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 7.2 หมื่นสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เงินเฟ้อในยูโรโซน เดือน ส.ค. ขยายตัว 1.5% YoY เท่ากับที่ตลาดคาดไว้
สหรัฐฯและจีนมีความเห็นตรงกันที่จะกดดันขั้นรุนแรงต่อเกาหลีเหนือและอิหร่าน ในประเด็นการทดสอบยิงขีปนาวุธ
ประธาน BoE คงมุมมองต่อทิศทางอัตราเงินเฟ้อในอังกฤษเพิ่มขึ้นจากผลของ Brexit ส่งผลให้อาจจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเร็วๆนี้
ผู้ว่าการ ธปท. เผยนโยบายการเงินและกรอบเงินเฟ้อในปัจจุบันยังเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจไทย แต่อาจจะต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ติดตามการรายงานยอดค้าปลีกอังกฤษ และการประชุม FED วันที่ 20 ก.ย.
ติดตามการประชุม BoJ วันที่ 21 ก.ย.
ติดตามการรายงาน นำเข้า-ส่งออกไทย วันที่ 22-25 ก.ย.
กลยุทธ์วันนี้
คาดวันนี้ SET INDEX แกว่งตัวออกข้างเพื่อลดความร้อนแรง กรอบ 1665-1675 จุด หลังขึ้นทดสอบแนวต้านใหญ่ 1680 จุดวานนี้ จุดที่น่าสังเกตคือ สถานะของนักลงทุนต่างชาติในตลาดฟิวเจอร์ส Short สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีก 1.3 หมื่นสัญญา ดันยอด Short สุทธิสะสมใน QTD พุ่งแตะ 7.2 หมื่นสัญญาแล้ว
การประชุมเฟด (19-20 ก.ย.) ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต้องติดตาม คือ นโยบายลดขนาดงบดุล, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ให้ระวัง Negative surprise เพราะล่าสุด ความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.60 ดีดตัวขึ้นเป็น 50.6% เทียบกับระดับ 34.5% ช่วงต้นเดือนนี้, ประมาณการเศรษฐกิจและแนวโน้มดอกเบี้ยในปีหน้า (Dot plot) ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางค่าเงินดอลล่าร์, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล และทิศทางกระแสเงินทุนในตลาดทุนโลก
ภาวการณ์ลงทุนที่มี Upside ของ SET INDEX จำกัด นักลงทุนควรพิจารณาการขายทำกำไร หรือหากจะเก็งกำไร ก็ควรเป็นไปอย่างจำกัดและระมัดระวัง กลยุทธ์เลือกซื้อหุ้น (Selective Buy) เน้นหุ้นที่ Valuation มีส่วนลดจากกลุ่ม และ/หรือ ผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่ง หรือมีโอกาส Turnaround
Fund Flow Analysis
Foreign Investors Action in Thailand
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยหนาแน่นต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 มากถึง 1,985 ล้านบาท ส่งผลให้ 5 วันทำการซื้อสุทธิ 10,389 ล้านบาท ทำให้ YTD ของนักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 16,293 ล้านบาท
SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 13,100 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิมากถึง 35,255 สัญญา ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิขยับขึ้นเป็น 71,720 สัญญา ขณะที่ S50U17 ปิดสูงกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 6 กว้างถึง 5.24 จุด จากวันก่อนหน้า +0.73 จุด
แต่นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 4,586 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 6,952 ล้านบาท เทียบกับ 11 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 122,074 ล้านบาท YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยทะลุ 300,000 ล้านบาท เป็นวันที่ 5 เท่ากับ 311,276 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ฟื้นตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรดังกล่าว -0.55bps จากวันก่อนหน้า +0.28bps ปิดที่ 2.44%
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 เน้นกลุ่มพลังงานอย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิ 2,792 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 4,483 ล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิ 27,864 ล้านบาท โดย NVDR สะสมกลุ่มพลังงานสูงสุด 1,176 ล้านบาท ตามมาด้วยกุ่มค้าปลีก 362 ล้านบาท และกลุ่ม ICT 306 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มอาหารสูงสุด 165 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงิน - การลงทุน
ราคาบ้านในจีนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว: ราคาบ้านใน 70 เมืองหลักของจีนเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.2% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.4% YoY และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ทั้งนี้ตลาดประเมินว่า ทางการจีนจะไม่ออกมาตรการควบคุมตลาดอสังหาฯ เพิ่มเติมจาก ณ ปัจจุบัน หลังราคาบ้านเริ่มอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
จีนเริ่มกังวลต่ออียูที่อาจควบคุมการซื้อกิจการของนักลงทุนต่างชาติ: European Commission Chief นาย Juncker เสนอแผนที่จะควบคุมการเปิดให้ต่างชาติเข้าซื้อกิจการในอุตฯ โครงสร้างพื้นฐาน, อุตฯ ไฮ-เทค และอุตฯ พลังงาน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สมาชิกอียูมีเครื่องมือในการเข้าห้าม/แทรกแซงการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในอุตฯ ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทในเครือรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงินของรัฐ ทำให้ทางการจีนเริ่มกังวลต่อมาตรการดังกล่าว
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยร่างการให้ต่างชาติเข้าถึงตลาดการเงินของจีนได้มากขึ้น: ธนาคารกลางจีน เปิดเผยร่างการปรับโครงสร้างสถาบันการเงิน โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้าถึงตลาดการเงินของจีนได้มากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณากรอบเวลาที่จะเปิดตลาดการเงิน และผลที่ได้จากการร่วมมือกับสถาบันการเงินข้ามชาติในช่วงที่ผ่านมา เพื่อนำมาปรับใช้ในการวางกรอบการปฎิรูป เช่น การอนุญาตให้สถาบันการเงินเข้ามาควบคุม JV ทางการเงินที่ร่วมทุนกับสถาบันการเงินในจีน, การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในสถาบันการเงินจากปัจจุบันที่ 25%, การเปิดให้บริการระบบเคลียร์ริ่งในสกุลเงินหยวนสำหรับบริษัทเอกชนต่างชาติ เป็นต้น
ราคาบ้านในอังกฤษเติบโตต่ำสุดในรอบ 5 ปี: ราคาบ้านในอังกฤษเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.1% YoY เดือนก.ย. ชะลอตัวจากเดือนส.ค.ที่ขยับขึ้น 3.1% YoY เป็นระดับการเติบโตที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2555 ทั้งนี้ราคาเสนอซื้อในกรุงลอนดอนลดลง 3.2% YoY
S&P ปรับอันดับความน่าเชื่อถือโปรตุเกส: โดยโปรตุเกสขยับขึ้น 1 ขั้นเป็น BBB- ทำให้ระดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสกลับมาที่ Investment Grade
BoE มอง Brexit ทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: ประธาน BoE นาย Carney ประเมินว่า Brexit มีส่วนที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษเพิ่มขึ้น แต่ลดประสิทธิภาพการผลิตลง และส่งผลให้ธนาคารกลางต้องเริ่มพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นใน 2-3 เดือนข้างหน้า
Strategist Team
Mayuree Chowvikran
Head of Research
662-009-8050
Padon Vannarat
Strategist
662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol
Strategist
662-009-8062
Nutt Treepoonsuk
Assistant Strategist