- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 September 2017 16:00
- Hits: 3620
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยในประเทศ แบงก์ชาติ ยำกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อยังเหมาะสมกับ
เศรษฐกิจไทย ส่วนเศรษฐกิจฐานรากยังอ่อนแอ ต้องใช้นโยบายการคลังช่วย
ปัจจัยต่างประเทศ DJIA ปิดบวก 64.86 จุดที่ 22,268 จุดหลังจากหุ้นกลุ่ม
สื่อสารและกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ น ขณะที่สัญญานน้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัวที่ 49.89$/BBL
กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ Go with the flow
เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีและปัจจัยด้าน Fund Flow โดยเมื่อวันศุกร์นัก
ลงทุนต่างชาติยังคงซื อสุทธิต่อเนื่องกว่า 4 พันล้านบาท มากสุดในช่วง 2
สัปดาห์ที่ผ่านมา มองกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1640 - 1685 แนะน้าหา
จังหวะเข้าซื อมองแนวรับแถว 1648+/- โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50
ที่น่าเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติเราชอบ (AOT CPALL PTT SCB SCC)
ขณะที่คาดว่าหุ้นกลุ่มส่งออกน่าจะกลับมาเป็นที่สนใจตามค่าเงินบาทที่มีโอกาส
อ่อนค่าลง เมื่อเข้าใกล้การประชุม FED ในวันพุธนี อาจมีการส่งสัญญาณการ
ปรับขึ นอัตราดอกเบี ยและการปรับขนาดงบดุล หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในเดือน
ส.ค.ของสหรัฐ ออกมาที่ระดับ 1.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และจะ
ส่งผลเชิงบวกต่อจิตวิทยากลุ่มส่งออก (KCE HANA DELTA CPF TU)
นอกจากนี เรามองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เองปัจจุบันมี Valuation ที่
น่าสนใจเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นปัจจุบันซื อขายเพียง 11.5x Trailing P/E
และ 1.26x Trailing P/BV กอปรปัจจุบัน L/D Ratio อยู่ในระดับต่้าสุดในรอบ 5
เดือนจากภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวดีขึ น คาดว่าจะได้เห็นการเร่งตัวขึ น
ของสินเชื่อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์หลังจากนี (BBL KBANK KTB SCB TMB)
Stock Pick by CGS
SCC (Non-Coverage) มองว่าธุรกิจปูนซีเมนต์มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจาก
สถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วมในปีนี้ ส่งผลต่อ Sentiment และกิจกรรมก่อสร้าง
ในเชิงบวกโดยคาดว่าอุปสงค์จากภาครัฐจะกลับมาเติบโตอีกครั งในช่วงครึ่งปี
หลัง หนุนโดยการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่างๆ ในส่วนธุรกิจ
เคมีนั น ผู้บริหารคงมุมมองเชิงบวกต่อราคาโอเลฟินส์ในครึ่งปีหลังเนื่องจากอุป
สงค์จากประเทศจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ นตามปัจจัยฤดูกาลรวมถึงความล่าช้าของ
อุปทานใหม่ซึ่งหากเป็นไปตามคาดจะท้าให้ก้าไรปิโตรเคมีในครึ่งปีหลังเติบโตทั ง
YoY และ HoH โดย BB Consensus ให้ราคาเหมาะสมที่ 565 บาท
KCE (Non-Coverage) ผลประกอบการครึ่งปีหลังมีแนวโน้มสูงกว่าครึ่งปีแรก
หนุนจากปัจจัยด้านฤดูกาล ขณะที่ผู้บริหารออกมาเปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังบริษัท
มีก้าลังการผลิตที่เพิ่มขึ นในเฟสที่ 3 อีก 2 แสนตารางฟุตต่อเดือน และจะส่งผล
ให้มีก้าลังการผลิตโดยรวมเพิ่มเป็น 3.1 ล้านตารางฟุตต่อเดือน กอปรราคา
ทองแดงที่เป็นต้นทุนประมาณ 15% ของ KCE ปรับตัวลงกว่า 7%จากต้นเดือน
ก.ย. จะเป็นปัจจัยเชิงบวกด้านจิตวิทยา กอปรกับที่ผ่านมาราคาค่อนข้าง
Laggard อย่างมากเมื่อเทียบกับการปรับตัวของ SET50
Analyst: สิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง
ID Registration No.017618 [email protected]
Assistant analyst: วทัญ จิตต์สมนึก