- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 September 2017 15:56
- Hits: 2588
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1700 และ 1720
SET Index: 1675.94 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องหลังจากทะลุผ่านแนวต้านที่ 1650 และ 1660 จุดขึ้นไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1700 และ 1720 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีแนวรับสำคัญที่ 1650 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1640 จุดเป็นจังหวะในการซื้อเพิ่ม
แนวต้าน : 1680 และ 1684
แนวรับ : 1672 และ 1670
PTT = 414 / 420, AOT = 58.00 / 59.00, PTTEP = 90.00 / 91.00, KTB = 19.20 / 19.50, KBANK = 215 / 220
The Siam Cement (SCC TB; THB 514.00) -ซื้อ
แนวต้าน : 520 และ 526
แนวรับ : 514 และ 512
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SCC โดยมีแนวรับที่ 514 และ 512 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 520 และ 526 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 504 ลงไป
True Corporation (TRUE TB; THB 6.35) -ซื้อ
แนวต้าน : 6.70 และ 6.80
แนวรับ : 6.30 และ 6.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ TRUE โดยมีแนวรับที่ 6.30 และ 6.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.70 และ 6.80 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.00 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…หุ้นท่องเที่ยว-สื่อสาร
ช่วงที่ดัชนี SET ขึ้น 30 จุด พบว่าเกือบทุกอุตสาหกรรมต่างดีดตัวขึ้นหมดเพียงแต่จะมากหรือน้อย โดยกลุ่มที่ขึ้นได้น้อยสุด คือกลุ่มโรงแรม ดังนั้นในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังควานหาหุ้นเล่น และไม่สนใจเรื่องพื้นฐานมากนัก เรามองว่ายังมีหุ้นหลายๆ ตัวที่ระดับราคายังติดลบ นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน โดยสว่นใหญ่กระจุกอยุ่ในกลุ่มหลัก 2 กลุ่ม คือ ผู้ผลิตอาหารและรับเหมา ส่วนที่ย่อยลงมาจะกระจายอยู่ในกลุ่มโรงแรม สื่อสาร โรงพยาบาล โดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตอาหารและชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิคส์ แรงกดจากค่าเงินบาทน่าจะค่อยๆ อ่อนตัวลงหลังเงินดอลลาร์ค่อยๆ แข็งขึ้น (หลังนักการเงินมองค่า Dollar index ได้ผ่านจุดต่ำสุดในระยะสั้น) ส่วนรับเหมาอาจจะยังต้องรอเวลาในงบออก เพื่อยืนยันว่างบค่อยๆ ออกมาดีขึ้น หลังบ Q2/17 สร้าง surprise เกือบทุกตัว โดยหุ้นในกลุ่มเหล่านี้น่าจะเป็นทางเลือกของการลงทุน หากดัชนีปรับฐานหรือขึ้นต่อ
ประเด็นที่ยังกดดันหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวโดยเฉพาะสายการบิน ยังเป็นความกังวลเรื่องผลการตรวจสอบของ ICAO ว่าจะผ่านหรือไม่ ส่วนภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมน่าเริ่มดีขึ้นเพราะจะเข้าสู่ช่วง High ของการท่องเที่ยว จากรูปด้านซ้าย พบว่าราคาหุ้นที่เกี่ยวโยงกับโรงแรมและท่าอากาศยาน ราคาหุ้นต่างดีดตัวขึ้นไปในแดนบวกหมดแล้ว จะเหลือก็แค่พวกสายการบินที่ยังไม่ไปไหน อย่าง BA และ THAI ดูรูปด้านขวา ในส่วนกลุ่มสื่อสารหุ้นยังติดอยู่ในแดนลบมากที่สุดคือ TRUE และ THCOM โดยหุ้นทั้ง 2 บริษัทนี้กำลังมีวิวัฒนาการในเชิงบวกมากขึ้นทั้งข่าวของบริษัท(THCOM) และ TRUE ที่คาดว่าราคาหุ้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังรองบ Q3/17
ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นผลการประชุม FOMC ที่ตลาดมองว่าทางประธาน FED น่าจะพูดเรื่องทิศทางดอกเบี้ยและการลดงบดุล แต่อย่างไรก็ตามระยะหลังดูเหมือนตลาดจะมั่นใจมากขึ้นว่าการขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้มีโอกาสน้อยลง แต่หันไปให้ความสำคัญกับรายละเอียดของแผนปฎิรูปโครงสร้างภาษี ดังนั้นผลการประชุม FOMC คาดยังไม่น่ามีผลอะไรกับตลาด โดยประเด็นที่ยังติดตาม คือ ทิศทางราคาน้ำมันและการคาดการณ์กำไรของตลาดหุ้นสหรัฐใน Q3/17 ที่ตอนนี้อยู่ที่ 6.2% ลดลงจากต้นเดือนที่ 6.5%
อาทิตย์นี้เรามองว่าความเสี่ยงที่ตลาดจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรมีสูงขึ้น หลังดัชนีในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาขึ้นมาที่ 1660+/- จุด ซึ่งเป็นค่า +2SD ในรอบ 5 ปี จากผลของความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หากเป็นอย่างที่คาด มองดัชนีน่าจะลงมาในกรอบ 1600-1610 จุด ส่วนเม็ดเงินไหลเข้าในช่วงปลายอาทิตย์ที่ผ่านมา เรามองเป็นแค่ flow ในช่วงสั้น ที่เข้ามาเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่หลังดัชนีสามารถขึ้นมาทะลุ 1650 จุดซึ่งสามารถดูได้จากเมื่อซื้อแล้วหยุด แต่อย่างไรก็ตามหากยังซื้อต่อในอาทิตย์นี้ คาดดัชนีจะขึ้นไปทดสอบ 1700+/- จุด กลยุทธ์การลงทุน หากเป็นการขึ้นต่อ ให้กลับไปดูหุ้นที่ต่างชาติเคยถือมากๆ ในอดีตแต่ยังขึ้นน้อย อย่าง รับเหมา (STEC CK) ผู้ผลิตอาหาร (TU CPF) อสังหาริมทรัพย์ใหญ่ (LH CPN) ชิ้นส่วน (KCE) โรงพยาบาล (BDMS)
แนวโน้มดัชนีในวันนี้คาดเผชิญแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มหลักมากขึ้นหลังตลาดปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรงประมาณ 85 จุดหรือ 5% ในช่วงเวลาแค่ 3 สัปดาห์ แต่จะมีแรงเก็งกำไรสลับไปในหุ้นรายตัวที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard) อย่างกลุ่มอาหาร, อิเล็กโทรนิคส์, สายการบินและวัสดุก่อสร้าง วันนี้เราให้แนวรับที่ 1653-1650 จุดและแนวต้านที่ 1665-1670 จุด BA CPF KCE TASCO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,675.94 จุด เพิ่มขึ้น 15.41 จุด (+0.93%) มูลค่าการซื้อขาย 35,969.35 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นต่อเนื่อง จากแรงหนุนของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และธนาคาร โดยมีปัจจัยจากราคาน้ำมันปรับขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล กระแส Fund Flow ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นบวก ติดตามการประชุม FOMC (19-20 ก.ย.)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งขึ้น ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินต่างชาติต่อเนื่อง หลังมีการคาดการณ์ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดน่าจะมีการเติบโตที่สูงขึ้นใน 4 ไตรมาสข้างหน้า โดยคาดว่าจะส่งให้ SET Index มีโอกาสเข้าทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1680 จุด อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ขายทำกำไรเล่นรอบออกเนื่องจากมองว่าระยะสั้นตลาดเข้าสู่ภาวะ Over bought แล้ว น่าจะมีการพักฐานในบริเวณ 1680 จุด โดยคาดว่าจะมีการอ่อนตัวลงมาที่บริเวณ 1655 จุด เพื่อสร้างฐานใหม่ในบริเวณดังกล่าว ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัว แนะนำ TRUE, PTTGC, AAV, CPF
Technical Pick (PM) ...
The Siam Cement (SCC TB; THB 514.00) - ซื้อ
True Corporation (TRUE TB; THB 6.35) - ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 - [email protected]