- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 September 2017 16:00
- Hits: 2651
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
มีแกว่งบ้างหลังขึ้นแรง และปัจจัยต่างประเทศเป็นลบเล็กน้อย
KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์/ชะลอความร้อนแรง หลังวานนี้พุ่งแรงกว่าคาดทำจุดสูงสุดใหม่หลังวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 และปัจจัยภายนอกยังคงเป็นลบเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปพักสร้างฐานเมื่อคืนนี้ หลังสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐาน ส.ค. +1.9% YoY เร่งขึ้นจาก +1.7% YoY ใน ก.ค. กระตุ้นให้ตลาดเพิ่มน้ำหนักของการขึ้นดอกเบี้ยเฟดเล็กน้อย (แต่สัญญาณเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ยังให้น้ำหนักเฟดขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 1/2561 มากกว่าเดือน ธ.ค. นี้ อยู่ดี) ผนวกกับเช้ามืดวันนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธตกนอกชายฝั่งญี่ปุ่นอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเหนือเปิดมาปรับลงเล็กน้อย ทั้งนี้ KGI คงมุมมองเดิมว่า SET Index จะกลับมาโดดเด่น (ขึ้นมากกว่า / ลงน้อยกว่า) ตลาดหุ้นในเอเชีย หลังมีสัญญาณฟื้นตัวของปัจจัยในประเทศชัดเจน และสถานะของนักงทุนต่างชาติในหุ้นไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้เมื่อวาน SET ขึ้นทะลุเป้าไตรมาส 3/2560 ของเราที่ 1,645 แต่เรายังคงมองเชิงบวก และกำลังปรับเพิ่มเป้าดัชนีฯ สิ้นปี 2560 ขึ้นเหนือ 1,700 ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าปัจจัยสำคัญได้แก่ผลประชุมเฟดในวันที่ 20 ก.ย. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยระยะสั้น และอาจให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายลดงบดุล (balance sheet normalization)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TPOLY, SEAFCO, TKN*
TPOLY (ยังไม่มีเป้าใน Consensus) 1) ประเด็นการรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 แห่ง ของ TPCH มูลค่ารวม ±3 พันล้านบาท ซึ่ง TPCH จะนำเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการลงทุนวันที่ 29 ก.ย.นี้ (ล่าสุดที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นให้อนุมัติการลงทุน) 2) หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TPCH อนุมัติฯ Backlog สิ้นปีนี้ ของ TPOLY จะรวม 3.3 – 3.4 พันล้านบาท 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร TPCH ปี 2561 – 62 จะเติบโต 55.6% YoY และ 82% YoY ตามลำดับ จากการทยอย COD โรงไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของ TPOLY ที่ถือหุ้น TPCH อยู่ 41.26% (ข้อมูล www.settrade.com) 4) ประเมินแนวรับ 5.2 บาท แนวต้าน 6.1 บาท และ 6.5 บาท ตามลำดับ (Stop loss 5 บาท)
SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) 1) แนะนำพิจารณาแนวต้าน 15.5 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 17.5 บาท แต่หากยังไม่พ้น แนะนำ “ซื้ออ่อนตัว” แนวรับ 15 บาท (Stop loss 14.5 บาท) 2) ปัจจุบัน SAEFCO มี backlog ในมือ (1.5 พันล้านบาท) และสัญญา Subcontract โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจาก CK* ทำให้ downside จำกัด และจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กับ SEAFCO (คาดงานก่อสร้างจะเริ่มได้ในเดือน พ.ย.นี้)
TKN* (เป้าพื้นฐาน 24 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคา Breakout แนวต้าน 22.6 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 23.8 บาท และ 25.0 บาท ตามลำดับ แนวรับ 22 บาท (Stop loss 21.3 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดใน 2Q60 โดยประเมินว่าประเด็นกดดันเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายจะลดลงใน 3Q60 จากการเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต การออกสินค้าใหม่ และการเร่งส่งออก
หุ้นในกระแส
Apple เปิดตัว iPhone ใหม่ (COM7*, JMART*) จากบทวิเคราะห์ Apple insight ล่าสุด เป็นมุมมองจากนักลงทุนต่างประเทศต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ประเด็นสำคัญคือ ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ไต้หวัน ประเมิน ตลาดฯอาจจะยังสับสนต่อดีมานด์ iPhone X จนถึงวัน Pre-order วันที่ 27 ต.ค. ซึ่งอาจทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องอาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น อย่างไรก็ดีประเมินว่าเป็นโอกาสในการเข้าสะสม เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงประเมินมุมมองบวกดีมานด์ iPhone X และ iPhone8 และ 8 Plus เนื่องจากสเปกเครื่องและราคาอยู่ในกรอบที่ประเมินไว้แล้ว ทั้งนี้สำหรับในกรณีประเทศไทย เราประเมินผู้ประกอบการมือถือจะนำ iPhone ตกรุ่นมาอัดฉีดโปรโมชั่นผ่านทางร้านค้าปลีกอย่าง COM7* และ JMART* ซึ่งจะทำให้ยอดขายใน 3Q60 โตเด่น กรณีหุ้น COM7* และ JMART* ถูกขายทำกำไร แนะนำ “อ่อนตัวสะสม”
หุ้นมีข่าว
(-) รัฐมนตรีพลังงาน รับเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมสัมปทานเอราวัณ-บงกชล้า คาดว่าจะรู้ผลผู้ชนะการประมูลเป็นเดือนเม.ย. 2561 (ไทยโพสต์) Comment การเลื่อนการประมูลทางรัฐมนตรีให้ข้อมูลว่าเนื่องจากกฤษฎีกาเข้าตรวจโครงการเอราวัณ-บงกช อย่างละเอียด ก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในเดือนต.ค. นี้ พร้อมกับการออก TOR ให้เอกชนยื่นประมูลทันที โดยทำให้มีการล่าช้าในกระบวนการประมาณ 2 เดือน ส่งผลให้คาดว่าจะรู้ผลผู้ชนะการประมูลเลื่อนจากเดือนก.พ. 2561 เป็นเม.ย. 2561 เราเชื่อว่าข่าวนี้จะส่งผลเชิงลบต่อ PTTEP จากการล่าช้าในการประมูล แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า TOR จะออกมาให้เห็นภายในเดือนต.ค. นี้ ซึ่งล้าช่าแค่ประมาณ 2 เดือนจากแผนเดิม และเรายังเชื่อว่าการประมูลปิโตรเลียมสัมปทานเอราวัณ-บงกช เป็นตัวกระตุ้นสำคัญสำหรับ PTTEP อยู่ ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลง 100 บาท
(+) BEM* คาดกำไรปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% ตามจำนวนผู้โดยสารพุ่ง-เร่งเปิดเดินรถน้ำเงินต่อขยายช่วง 2 เร็วขึ้นเป็น ก.ค.62 (อีไฟแนนซ์ไทย) เราเห็นพัฒนาการบวกของ BEM หลังจากที่การดำเนินงานของธุรกิจรถไฟใต้ดินฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กำไรสุทธิของ BEM ในช่วง 1H60 เทียบเท่า 40% ของประมาณการทั้งปีที่คาดไว้เท่ากับ 3.59 พันล้านบาท (+38% YoY) อีกทั้งยังคาดการณ์กำไรสุทธิที่โตต่อเนื่องเป็น 4.38 พันล้านบาท (+22% YoY) ในปี 2561 เมื่อมองไปข้างหน้า เรายังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อโอกาสการเติบโตของบริษัทจากจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นจากรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่เชื่อมเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งน่าจะส่งผลบวกจากสถานีศูนย์วัฒนธรรม เรายังแนะนำซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 6.86 บาท
(+ ERW*, CENTEL*) เมืองพัทยาคึกเที่ยวเพิ่ม 5% โกย 1.1 แสนล. (โพสต์ทูเดย์) นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวพัทยา 6 เดือนแรกของปีนี้พุ่ง 8 ล้านคน โกยรายได้กว่า 1.1 แสนล้าน หรือเพิ่มขึ้น 5% น.ส.สุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเมืองพัทยาเริ่มฟื้นตัวโดยในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ มียอดนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 8 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.1 แสนล้านบาท
(+) TPCH ซื้อที่ดินแพง ที่ปรึกษาอิสระรับได้ลงทุนมีกำไรแนะผู้ถือหุ้นโหวต ลุย 4 โครงการ (โพสต์ทูเดย์) ที่ปรึกษาการเงินอิสระแนะผู้ถือหุ้น TPCH อนุมัติลุย 4 โครงการ 3,957 ล้าน แม้รายการขายที่ดินจะสูงแต่สมเหตุผล บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) แจ้งให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้น TPCH ที่จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 29 ก.ย.นี้ ว่า ควรอนุมัติเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 โครงการ คือ TPCH1 TPCH2 TPCH5 และบริษัท พัทลุง กรีนเพาเวอร์ (PTG) มูลค่าก่อสร้าง 3,957 ล้านบาท
(+) TPOLY ลั่นแบ็กล็อก 3.4 พันล้าน TPCH เตรียมชงผู้ถือหุ้นสร้างโรงไฟฟ้า 4 แห่ง (ข่าวหุ้น) TPOLY ตุนแบ็กล็อกแน่น คาดสิ้นปี 60 รวมแบ็กล็อก 3,300-3,400 ล้านบาท ล่าสุดคว้าก่อสร้างโรงไฟฟ้า TPCH 4 แห่ง ฟาก TPCH เตรียมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 29 ก.ย. ขออนุมัติก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 แห่ง มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
(+) SPALI* รับทรัพย์ 1,620 ล้านเปโซ ขายอาคารสำนักงานที่ฟิลิปปินส์ (ข่าวหุ้น) “ศุภาลัย” ขายอาคารสำนักงานในฟิลิปปินส์ มูลค่า 1,620 ล้านเปโซ หลังถือครอง 4 ปี 2 เดือน โชว์อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่า 19.7% จ่อบันทึกรายการวันที่ 30 ก.ย.นี้
(+) TWPC จ่อปิดดีลซื้อกิจการ CLMV ครึ่งปีหลังเข้าไฮซีซั่น หนุนงบเติบโตแกร่ง (ข่าวหุ้น) TWPC เล็งปิดดีลซื้อกิจการใน CLMV หวังช่วยต่อยอดธุรกิจ ลั่นครึ่งปีหลังเข้าไฮซีซั่นหนุนผลการดำเนินงานโดดเด่น มั่นใจรายได้ปี 60 เติบโตขึ้น 9% ตามเป้าหมาย
(+) AU ครึ่งปีหลังแจ่ม (โพสต์ทูเดย์) AU คาดครึ่งปีหลังผลงานดีกว่าครึ่งปีแรกหลังออกเมนูใหม่-ลุยขยายสาขาปีนี้ยืนเป้าเดิมรายได้โต 30% นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู (AU) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้และกำไรสุทธิครึ่งปีหลัง สูงกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 333.94 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 53.20 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทออกเมนูใหม่ในไตรมาส 3 อีก 1 เมนู และมีการตอบรับดีมาก ทำให้รายได้และกำไรไตรมาส 3 ออกมาดี และไตรมาส 4 มีแผนจะออกเมนูใหม่เพิ่มอีก 2 เมนู
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BBL* (เป้าพื้นฐาน 220 บาท) ประเมินหากยืนเหนือแนวต้าน 190 บาท ได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 203 บาท (หากยังไม่พ้นแนวต้าน 190 บาท แนะนำซื้อแนวรับ 185 บาท)
BEM* (เป้าพื้นฐาน 8.68 บาท) พิจารณาแนวราคา 8.10 บาท หากผ่านได้ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไป 8.20 บาท แต่หากไม่พ้น 8.10 บาท แนะนำ “ขายล๊อกกำไร”
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 78 บาท) ประเมินแนวต้าน 78.75 บาท และถัดไปที่ 82 บาท แนวรับ 77 บาท (Trailing stop 76 บาท) ... ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ประเทศจีน ออกบทวิเคราะห์กลุ่มปิโตรเคมี เผยการเข้าตรวจสอบประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมโรงงานปิโตรเคมีที่จีนโดยภาครัฐฯ ส่งผลให้อุปทานปิโตรเคมีลดลงตั้งแต่ ส.ค.ที่ผ่านมา
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) วันนี้หุ้นใหม่ (จากการใช้สิทธิ Warrant เข้าเทรด 125 ล้านหุ้น) หากมีการย่อตัวลงมาเป็นโอกาสซื้อ แนวรับ 3.42 บาท แนวต้าน 3.90 บาท และถัดไป 4.3 บาท
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) ประเมินแนวต้าน 16.5 บาท แนวรับ 15.3 บาท (Stop loss 14.8 บาท)
MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) พิจารณาแนวต้าน 7.15 บาท หากผ่านได้ ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.5 – 7.7 บาท แนวรับ 6.9 บาท (Stop loss 6.8 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) ประเมินแนวรับ 13.5 บาท และถัดไป 13.0 บาท แนวต้าน 14.5 บาท และถัดไป 14.8 บาท
ANAN* (เป้าพื้นฐาน 5.8 บาท) ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 5.6 บาท โดยมีแนวรับ 5.2 บาท (Stop loss 5.05 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
GUNKUL* แนะนำ 'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 4.9 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโครงการ WED จะเพิ่มขึ้นใน 2H60 ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทดีขึ้นทั้ง YoY และ HoH ขณะที่กำไรปี FY61 ก็มีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มพลังงานหมุนเวียน
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยรับ 1656 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1656 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1656-1647 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1656 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1656-1672 จุด
แนวรับวันนี้: 1656/1647 แนวต้านวันนี้: 1662/1672
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]