- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 September 2017 15:58
- Hits: 2594
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ซื้อเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวบวกแรงและปิดทำจุดสูงสุดในรอบ 23 ปีด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 7 หมื่นลบ. หนุนให้หุ้น Big Cap หลายตัวปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นกว่า 3 พันลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideway พักฐานระยะสั้นหลังจากปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ โดยปัจจัยกดดันเช้านี้ได้แก่การที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโด อย่างไรก็ตามจาก Sentiment เชิงบวกหลัง SET ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,650 จุดขึ้นมาได้ทำให้เรามองว่าตลาดยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อในระยะถัดไปจากแรงหนุนทั้งกระแสเงินที่ยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว
กลยุทธ์ : ซื้อเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BCH, CPALL, IRPC, SCC, TMB
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$26 เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไทย US$92ล้าน และเกาหลีใต้ US$32ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$79ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าตามสภาพคล่องในตลาดโลกที่เข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แต่การไหลเข้าอาจชะลอหลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธในช่วงเช้าของวันนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BOL <<
เราเริ่มต้นแนะนำซื้อ BOL ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท อิง PE 22 เท่า ด้วยจุดเด่นด้านความเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการฐานข้อมูลออนไลน์ ที่มีข้อมูลเชิงธุรกิจมากสุดในประเทศและทั่วโลก
คาดกำไรปี 2017-2019 โตเฉลี่ย 20% ต่อปี จากบริการเดิมที่ยังโตได้ 8% ต่อปี และสินค้าใหม่ที่เกาะกระแส fintech ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นจะขยายตัว จากส่วนแบ่งรายได้ให้กระทรวงพาณิชย์ที่เป็นธรรมมากขึ้นและธุรกิจใหม่ที่ได้ BOI
อัตราส่วนทางการเงินโดดเด่น ทั้ง GPM NPM ROE ที่อยู่ระดับ 1st quartile ของ MAI และโครงสร้างเงินทุนมั่นคง ไม่มีหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย แถมมีเงินสดในมือสูงและคาดปันผลเด่นราว 4.4% ต่อปี
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) TACC จากประชุม Opp Day วานนี้ โทนค่อนข้างบวก แนวโน้มกำไร 2H17 สดใสต่อเนื่อง จากโดนัท ทวิสต์ ที่ขายดีมากจนผลิตไม่ทัน และในช่วง พ.ย. 17 จะมีการออกเครื่องดื่มโถกดรสชาติใหม่ที่พัฒนาร่วมกับ Global Brand ส่วนธุรกิจเดิมยังโตตาม 7-11 และ All Café และอยู่ระหว่างขยายตลาด Jump Start ในกัมพูชา และ Sawasdee ในจีน ที่ได้รับการตอบรับดีในส่วนของช่องทาง Online และจะรุกเข้าสู่ Offline เพิ่มขึ้น เรายังคาดกำไรสุทธิปี 2017 และ 2018 โต 25.3% Y-Y และ 25% Y-Y ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 9 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ
(0) ICN เริ่มซื้อขายวันแรกที่ราคา IPO 1.84 บาท 120 ล้านหุ้น ดำเนินธุรกิจออกแบบปและวางระบบไอที (SI) อย่างครบวงจรทั้งงานรับเหมา และจำหน่ายอุปกรณ์ รวมถึงบำรุงรักษา หลังสิ้น 2Q17 มีงานในมือ 600-700 ลบ. และด้วยอุตสาหกรรมที่เป็นขาขึ้น กอปรกับ ภาครัฐฯ สนับสนุนการลงทุนด้าน Digital ทำให้คาดกำไรปี 2017-2018 โตเฉลี่ยสูงถึง 97% ต่อปี ประเมินราคาที่เหมาะสมปี 2017 โดยอิงค่าเฉลี่ย PE ของกลุ่ม SI ที่ 19 เท่า ได้ 2.90 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ ICN)
(+) MBAX หลังจากที่เราได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานของ MBAX วานนี้ พบว่ากำลังการผลิตยังสูงใกล้เคียง 1H17 ขณะที่ ต้นทุนมีแนวโน้มลดลงตามราคา LDPE และแผนปรับลดค่าไฟในโรงงานที่เห็นผลเต็มที่ใน 2H17 รวมถึงการนำเงินจาก MBAX-W1 ไปชำระหนี้เพื่อลดดอกเบี้ย ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทยังไม่กระทบเพราะทำ Hedging ไว้หมด ทำให้เรายังมั่นใจกับกำไรปีนี้ที่คาด 70 ลบ. +20% Y-Y รวมถึงเงินปันผล 2H17 ที่คาด 0.24 บาท/หุ้น หรือราว 5% ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PE2017 เพียง 12.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16 เท่า ยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท
(-) KSL กำไร 3Q17 (พ.ค.-ก.ค.) เหลือเพียง 59 ลบ. -90% Q-Q, -38% Y-Y หากไม่รวมกำไรขายเงินลงทุนปีก่อน และ FX + Hedging กำไรปกติเหลือเพียง 23 ลบ. -95% Q-Q, -57% Y-Y จากการชะลอตัวของธุรกิจน้ำตาลและโรงไฟฟ้าที่หยุดซ่อม 1 เดือน ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นทรุดหนักจากผลของการปรับปรุงต้นทุนค่าอ้อย แนวโน้มกำไรปกติ 4Q17 ยังไม่ดี แต่กำไรสุทธิจะฟื้นแรงจากการบันทึกกำไรขายเงินลงทุนใน KSLGI ราว 1-2 พันลบ. เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 5.8 บาท ยังไม่ชอบหุ้นน้ำตาล แนะนำเพียงถือ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15 ก.ย. - ไทย: Opp Day– PPP ZIGA PLANB TRC BJC+BIGC
- ไทย: EA และ WORK เริ่มเข้าคำนวณใน FTSEส่วนหุ้นที่ถูกนำออกคือ MBKET
- ไทย: ICN เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.84 บาท
- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
19 ก.ย. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ส.ค.)
19-20ก.ย. - สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
20-ก.ย. - สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านมือสอง (ส.ค.)
21-ก.ย. - ญี่ปุ่น: ประชุมธนาคารกลาง (คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.1%)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกนำโดยหุ้นโบอิ้ง และ กลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การขยับบวกถูกจำกัดจากความกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หลังตัวเลข CPI ออกมาดีกว่าคาด
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยโดยแม้มีแรงหนุนในกลุ่มยานยนต์หลังยอดขายรถยนต์ในยุโรปเดือนส.ค.ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การขยับบวกถูกจำกัดจาก ECB ที่ส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ และ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ชะลอตัวกดดันกลุ่มเหมืองแร่
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.05-33.07 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดบวก 0.59 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.89 ดอลลาร์/บาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า นอกจากนี้ยังมีมีแรงหนุนจาก IEA ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ demand น้ำมันโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐและยุโรป ขณะที่อุปทานยังมีแนวโน้มลดลงจากทั้ง โอเปก และ นอกกลุ่มโอเปก ทำให้คาดว่าตลาดน้ำมันกำลังจะเข้าสมดุล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 1.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,329.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research