- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 September 2017 16:19
- Hits: 2514
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักฐาน
คาดหุ้นไทยพักฐานตามตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เปิดเช้านี้ไม่ไปไหนหลังจากหุ้นพุ่งแรงมาแล้วต้นสัปดาห์ นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะระมัดระวังก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญจากจีนและสหรัฐในวันนี้ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นกลางถึงบวกเล็กน้อยโครงการทางด่วน มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาทเป็นไปตามกำหนดรัสเซียแสดงความสนใจที่จะลงทุนใน EEC และแนะนำไทยร่วมมือในสหภาพเศรษฐกิจยุโรป-เอเชีย (EEU) การเข้าตลาดของกองทุน TFF ต้องชะลอไปจนเดือนมี.ค.ปีหน้า
หุ้นเด่นวันนี้ GUNKUL (Bt4.02; NR; Bloomberg,s TP Bt5.06)
เราเลือก GUNKUL เป็น Pick of the day จากแนวโน้มผลประกอบการสดใส GUNKUL บริษัทรายงานผลประกอบการรอบ 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 2,194 ล้านบาท 46.7%YoY และมีกำไรสำหรับงวด 6 เดือนแรก จำนวน 313 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.0%YoY อัตรากำไรขั้นต้นงวด 1H60 ของ GUNKUL เท่ากับ 33% ธุรกิจผลิตไฟฟ้าสร้างอัตรากำไรขั้นต้นถึง 67% ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 172 เมกะวัตต์ คาดว่าสิ้นปี 2560 จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 232 เมกะวัตต์ และกลางปี 2561 จะเพิ่มเป็น 282 เมกะวัตต์ และปลายปี 2561 คาดว่าเพิ่มเป็น 350-390 เมกะวัตต์ และมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งของพลังงานไฟฟ้าทดแทนเป็น 1,190 เมกะวัตต์ภายในปี 2563 แยกเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น 46% เวียดนาม 24% ไทย 17% และมาเลเซีย 13%
ส่วนงานรับเหมาก่อสร้างนั้นบริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เช่น โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน งานก่อสร้างเคเบิ้ลใต้น้ำระบบ 33 KV ไปยังเกาะพระทอง จังหวัดพังงา ปัจจุบัน BackIog ในมือ 1 พันล้านบาท และคาดว่าจะได้งานประมูลเพิ่มอีกราว 2.6 พันล้านบาทภายในปีนี้ ช่วยให้งานในมือเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 พันล้านบาท เพียงพอกับการรับรู้รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างไปอีก 2 ปี BIoomberg Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2560 เพิ่มขึ้น 64.8%YoY เป็น 886 ล้านบาท และปี 2561 เพิ่มขึ้น 89.4% เป็น 1,678 ล้านบาท ราคาเป้าหมาย 5.06 บาท ยังมี Upside 25% ทั้งนี้ Price Pattern ของ GUNKUL
แม้ว่าจะยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด MonthIy SeII SignaI แต่ Price Pattern ของ GUNKUL ทั้งในระยะสั้นและระยะกลางยังคงมีความแข็งแกร่งจากการเกิดทั้ง DaiIy & WeekIy Buy SignaI เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ GUNKUL มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 4.20 บาท ซึ่งหาก Price Pattern ของ GUNKUL มีความแข็งแกร่งที่มากพอโดยสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 4.20 บาท ก็จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 4.46 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 4.72 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ GUNKUL มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 3.96 บาท (แนวต้าน: 4.06, 4.10, 4.14; แนวรับ: 4.00, 3.96, 3.92)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ:
โครงการทางด่วนพิเศษยังเป็นไปตามกำหนด การทางพิเศษแห่งประเทศไทยคาดว่าจะจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการทางด่วนที่เชื่อมระหว่างถนนพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก มูลค่า 32,000 ล้านบาทภายในปีนี้และคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมปีหน้า ในขณะที่ทางด่วนที่เชื่อมต่อระหว่างกะทู้และป่าตองในจังหวัดภูเก็ตอยู่ในขั้นตอนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยมีการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มปลายปี 2561 (ไทยโพสต์)
Thailand Futures Fund จะออกขายในเดือนมีนาคมปีหน้า นายสมชาย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่าหากกระบวนการขายหลักทรัพย์ครั้งแรกของกองทุน ThaiIand Futures Fund ไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีนี้ยังคงมีเวลาดำเนินการจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาการใช้เงินทุนในการก่อสร้างโครงการเร่งด่วนต่างๆ (บางกอกโพสต์)
รัสเซียแสดงความสนในลงทุนใน EEC รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รัสเซีย นาย Apiradi Tantraporn กล่าวว่ารัสเซียได้แสดงความสนใจที่จะลงทุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และแนะนำว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียน (EEU).
ต่างประเทศ:
ประเด็นที่จับตามองในวันนี้: ข้อมูลเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ จีนจะเผยแพร่ตัวเลขเศรษฐกิจหลายรายการในวันนี้ (0200 GMT) รวมทั้งตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และยอดค้าปลีก ซึ่งจะแสดงถึงความแข็งแกร่งของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ในขณะที่สหรัฐจะประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (รอยเตอร์)
จะมีการเปิดเผยกรอบเวลาการปฏิรูปภาษีในวันที่ 25 ก.ย.นี้ นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่าจะมีการเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษีในสัปดาห์หน้า โดยคณะกรรมการร่างแผนปฏิรูปภาษีจะนำไปพิจารณาเพื่อเสนอร่างกฎหมายในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่าภาษีที่เก็บจากชาวอเมริกันที่ร่ำรวยอาจเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองพันธบัตรเพื่อรอการประมูลพันธบัตรในสัปดาห์นี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่งสู่ระดับ 2.195% เพิ่มขึ้นกว่า 2 bps ในวันพุธ (รอยเตอร์)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อวันพุธ หลังมีรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนส.ค. ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.6% สู่ระดับ 92.435 หลังจากที่ปรับตัวขึ้นถึงระดับ 92.53 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ (รอยเตอร์)
สหรัฐ:
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่เมื่อวันพุธ หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งชดเชยหุ้นบริษัทแอปเปิลที่ร่วงลงหนัก โดยร่วงลง 0.8% เนื่องจากนักลงทุนมองว่าไอโฟน X ที่เพิ่งเปิดตัวมีราคาแพงเกินไป (รอยเตอร์)
ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค. แต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากขยับลง 0.1% ในเดือนก.ค. ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือนส.ค. ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.4% หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 1.9% เช่นกันในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และหลังจากที่ลดลง 1.4% ในเดือนก.ค. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี (รอยเตอร์)
ยุโรป:
ตลาดหุ้นยุโรปปิดคงที่วานนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มหยุดวิ่ง หนึ่งในนั้นคือหุ้น AppIe ที่ดิ่งลงหลังจากที่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ แต่กลับเปิดจองให้ซื้อช้ากว่าคาด (รอยเตอร์)
เอเชีย:
หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้งเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันโดยทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่ค่าเงินญี่ปุ่นอ่อนค่า ภาคหลักทรัพย์และธนาคารเป็นกลุ่มนำตลาด ผู้ส่งออกรวมถึง ผู้ผลิตเครื่องจักร, สินค้าอิเล็กทรอนิค และรถยนต์นั้นเป็นกลุ่มที่นักลงทุนสนใจเช่นกัน (รอยเตอร์)
หุ้นจีนปรับสูงขึ้นในวันพุธ โดยอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน จากสภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และความหวังจากนักลงทุนในเรื่องการปฏิรูปในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องทางการจีนสั่งชะลอหนี้ที่มีความเสี่ยง ทั้งนี้นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าทางการจีนจะปฏิรูปเรื่องมลภาวะสิ่งแวดล้อม และ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น (รอยเตอร์)
สินค้าโภคภัณฑ์:
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบที่ล้นตลาดโลกเริ่มปรับลดลง ถึงแม้สหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐพุ่งขึ้นครั้งใหญ่เนื่องจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันของสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาด ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ (2.2%) อยู่ที่ 49.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ (+1.6%) อยู่ที่ 55.16 ดอลลาร์ (รอยเตอร์)
ราคาทองลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบสัปดาห์ครึ่ง เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.65% อยู่ที่ 1,322.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่ปรับตัวลงสู่จุดต่ำสุดที่ 1,320.51 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ราคาทองล่วงหน้าปรับตัวลง 0.4% อยู่ที่ 1,328 ดอลลาร์ (รอยเตอร์)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No. 14543) Tel: 0-2680-5056
