- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 September 2017 16:09
- Hits: 1765
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กและหุ้นที่ยัง Laggard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวบวกได้พอสมควรในช่วงครึ่งเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายจะเริ่มมีแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวโดยเฉพาะ BANPU และทำให้ดัชนีปิดเพียงแค่ทรงตัว อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์สต่อเนื่องรวมกันอีกราว 1,800 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น ขณะที่เช้านี้ต้องจับตาดูตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ส.ค. 17 ของจีน อย่างไรก็ตามหุ้นในกลุ่มพลังงานน่าจะยังพอนำตลาดได้จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น 2.2% เมื่อคืนที่ผ่านมา เรามองว่าระยะนี้เม็ดเงินยังคงไหลเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง โดยน่าจะเห็นการ Rotation ไปยังกลุ่มหรือหุ้นที่ยัง Laggard รวมถึงหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กและหุ้นที่ยัง Laggard
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BCH, CPALL, IRPC, SCC, TMB
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$237ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$286ล้าน ขณะที่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$66ล้าน และไทย US$29ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงตามสภาพคล่องในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อไป (Fed น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยตลอดปี และ ECB คง QE)
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> LH <<
ราคาหุ้นที่ปรับลงมาหลังจากขึ้น XD (23 ส.ค.) ทำให้ราคาปัจจุบัน laggard ที่สุดในกลุ่มทั้งในรอบ 1 เดือนและ 2017YTD
แนวโน้มกำไรยังเติบโตดีจาก Backlog ที่แกร่ง 1.47 หมื่นลบ. โอนปีนี้ 8 พันลบ. ที่เหลือโอนปี 2018-19 สำหรับ 3Q17 จะมีกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่าเงินลงทุนใน LHBANK ขณะที่กำไรหลักก็ดีขึ้นตามยอดโอน
กำไรสุทธิปี 2017 ที่คาดโตถึง 11% Y-Y เพราะรายการพิเศษซึ่งทำให้กำไรปี 2018 -7% Y-Y เป็น 8.9 พันลบ. แต่ก็เป็นระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ ปัจจุบัน PE ที่ 12 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 14-15 เท่า และราคาหุ้นยังมี upside กว่า 15% ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท แนะนำซื้อ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ADVANC เสนอซื้อหุ้น CSL จาก THCOM และ Singtel ในสัดส่วนรวม 56.21% (334.1 ล้านหุ้น) ราคาเสนอซื้อเบื้องต้น 7.80 บาท เรามีมมุมองเชิงบวกจาก Synergy ที่เกิดขึ้นในธุรกิจ Broadband และ Data Center ที่จะช่วยกันประหยัดต้นทุนและทำให้ ADVANC บรรลุเป้า Digital Life Service Provider แต่ผลกระทบต่อกำไรจำกัดเพราะคิดเป็นเพียง 0.6%-1% ของกำไร ADVANC ส่วนราคาเสนอซื้อคิดเป็น PE ราว 14-15 เท่า ถือว่าไม่แพง เรายังคงประมาณการและราคาเป้าหมายของ ADVANC ที่ 195 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร จากผลประกอบการ 2H17 ที่จะกลับมาโต Y-Y ส่วน THCOM อาจมีการบันทึกกำไรขายเงินลงทุน แต่เพราะธุรกิจดาวเทียมยังแย่ และราคาเกินเป้าหมายของเราที่ 17 บาท จึงแนะนำขาย
(0) BEC ตัวเลขเม็ดเงินโฆษณา TV ช่องหลักเดิม ในช่วง 2 เดือนแรกของ 3Q17 ลดลง 21.9% Y-Y เป็นสัญญานลบต่อรายได้ค่าโฆษณาของช่องหลัก คือ Ch 3 Analog ตาม Rating ที่ยังอยู่ในช่วงขาลง เราปรับประมาณการกำไรปกติทั้งปีลงเป็น -26.4% จากกำไร 2Q17 ที่อ่อนแอกว่าคาดมาก ราคาหุ้นฟื้นจากประเด็นการคืนช่องทีวีดิจิตอลโดยไม่ต้องชำระส่วนที่เหลือ ซึ่ง กสทช.ให้ความเห็นว่าไม่มีอำนาจทำได้ ขณะที่การเปลี่ยนทีมบริหารและการรุกสื่อ On-line ยังต้องใช้เวลา ราคาปัจจุบันสูงกว่าราคาเป้าหมายที่ปรับใปใช้ปี 2018 ที่ 16 บาท และคิดเป็น PE ปี 17-18 สูงถึง 41- 36 เท่า คงคำแนะนำ ขาย
(0) PRM เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 8.00 บาท โดยเสนอขายทั้งสิ้น 650 ล้านหุ้น เป็นหุ้นใหม่ 500 ล้านหุ้นและหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม 150 ล้านหุ้น ได้เงิน 4,000 ล้านบาท นำไปชำระคืนเงินกู้และขยายกองเรือทั้งในธุรกิจขนส่งน้ำมันและจัดเก็บน้ำมันกลางทะล ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ 40% และ 50% ตามลำดับ โดย PRM ถือเป็นผู้นำในธุรกิจขนส่งและจัดเก็บน้ำมันที่มีกลุ่มลูกค้ามั่นคง เช่น PTT TOP PTTGC BCP ESSO ขณะที่ ภาวะอุตสาหกรรมขยายตัวตามปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศที่เพิ่มเฉลี่ย 5% ต่อปี เราคาดกำไรสุทธิปี 2017-2020 โตเฉลี่ย 24% ต่อปี จากการขยายกองเรือจัดเก็บน้ำมันอีก 3 เท่าตัวซึ่งมีรายได้มั่นคงและอัตรากำไรสูง ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมตามวิธี DCF ได้เท่ากับ 11.50 บาท
(+) COMAN การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ทำให้เรามั่นใจกับการเติบโตในระยะยาวมากขึ้น จากการรวมสินค้าและบริการของ COMAN และ Synature ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลบวกจากสินค้าใหม่และเจาะตลาดสปาในปีหน้า ส่วนภาพระยะสั้นแม้ยังมีความเสี่ยงจากการตัดค่าความนิยมใน MSL ที่เป็นบริษัทย่อย แต่ถ้าพิจารณาจากกำไรที่ทำได้ใน 1H17 และงานในมือที่ยังสูง รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการลดขนาดธุรกิจตั้งแต่ พ.ค. 17 เราคาดว่ายังไม่มีการตัดรายการดังกล่าวในปีนี้ หรือถ้ามีก็จะเป็นเพียงรายการทางบัญชีไม่ใช่เงินสด เพราะฉะนั้น กำไร 2H17 มีโอกาสฟื้นกลับเร็ว 90% H-H ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2017 ตามวิธี DCF เท่ากับ 8.10 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14 ก.ย. - ไทย: Opp Day –FVC TWPC AU TACC UPOIC LST
- ไทย: PRM เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 8 บาท
- จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ส.ค.)
- อังกฤษ: ประชุมธนาคารกลาง (คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.25%)
- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
15 ก.ย. - ไทย: EA และ WORK เริ่มเข้าคำนวณใน FTSE ส่วนหุ้นที่ถูกนำออกคือ MBKET
- ไทย: ICN เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.84 บาท
- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
19 ก.ย. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ส.ค.)
19-20ก.ย. - สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
20-ก.ย. - สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านมือสอง (ส.ค.)
21-ก.ย. - ญี่ปุ่น: ประชุมธนาคารกลาง (คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.1%)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อยจากแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังต่อมาตราการปฏิรูปภาษีของทรัมป์ซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นต่อเนื่อง
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรจากกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาโลหะปรับลง
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมตามตลาดโลกที่ยังไร้ทิศทาง ขณะที่นักลงทุนเฝ้าจับตาตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่จะประกาศวันนี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งตัว sideway โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.10-33.13 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดบวก 1.07 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.30 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีแรงหนุนจากการปรับเพิ่มคาดการณ์ demand น้ำมันโลกปีนี้จากขยายตัว 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เป็น 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน และ ตัวเลขสต๊อกน้ำมันเบนซินที่ปรับลดลง 8.4 ล้านบาร์เรล มากที่สุดตั้งแต่ปี 1990
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 4.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,328.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีปัจจัยกดดันจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research