WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 

แกว่งแคบ รอลุ้นแผนเลือกตั้ง – ขายเพิ่ม หากหลุด 1370 จุด

Highlight

      ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดคละ หลังวานนี้ปรับขึ้นแรงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ผลประกอบการออกมาดี รอลุ้น MSCI รายงานทบทวนรายไตรมาส คืนนี้

     ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ สหรัฐ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน เม.ย. (คาด 0.2%m-m Vs มี.ค. 0.5%m-m) ญี่ปุ่น จีดีพีไตรมาส 1/57 คาด 1.0% qoq (0.2% ไตรมาส 4/56)

            -วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติขายต่อ -1.25 พันลบ (ขายสะสม 2 วันรวม -3.13 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อ +1.24 พันลบ. (ซื้อสะสม 2 วัน รวม +1.80 พันลบ.)

           -การเมือง วันนี้กกต. และรัฐบาล หารือประเด็นการเลือกตั้ง อาจเป็นข่าวบวกต่อตลาดฯ หากเลือกตั้งเลื่อนไม่ไกลจากเดิม เพราะตลาดเริ่มให้น้ำหนักของการเลือกตั้งอาจไม่ทันสิ้นปีนี้ไปบ้างแล้ว

           คาดดัชนีฯ สัปดาห์นี้ ยังอยู่ในช่วงขาลง แนวรับหลัก 1370จุด แนวรับย่อย 1350 จุด ประเด็นการเมือง วิตกเหตุปะทะ เลื่อนการเลือกตั้ง หรือ เกิดสุญญากาศ จะเป็นปัจจัยถ่วงตลาด

           กลยุทธ์: รายเดือน แนะนำ ทยอยขายลดพอร์ต (ถือเงินสด 60%) ส่วนระยะสั้น แนะนำ รอซื้อเล่นรีบาวด์ บริเวณแนวรับ 1350 จุด เลือกหุ้นปันผลดี

หุ้นในกระแส:

           หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 4.0%) ได้แก่ SAWAD SUPER PAF SITHAI KTIS BWG SYNTEC CENTEL หุ้นที่ลงกว่า 3% SGP AJD MAJOR VGI PSL NOK

           NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ BBL+156 IVL+75 ด้านขาย ADVANC-220 CPALL-218 SCB-140 BTS-121 DTAC-110

          หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ ADVANC 66 BBL 60 PTT 54

          หลักทรัพย์ที่ขึ้นเครื่องหมาย XD วันพุธ QHPF

Market Outlook

    คาดดัชนีฯ วันนี้ แกว่งแคบ เพื่อรอลุ้นเจรจาผ่าทางออกเลือกตั้ง (เลื่อนใกล้หรือไกล หรือต้องรอศาลฯตัดสินอำนาจของรองนายกฯ) และรายงาน MSCI Quarterly Review คืนนี้ สัญญาณขายเพิ่มจะเกิดขึ้น หากหลุด 1370 จุด คงคำแนะนำเลือกเก็งกำไรหุ้นปันผลดี

    คาดดัชนีฯ วันนี้ มีลุ้นรีบาวด์ แนวต้าน 1386 จุด จากการสร้างสถิติสูงสุดใหม่ของสหรัฐฯ และอีซีบีอาจออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเร็วๆ นี้ รวมถึง ลุ้นการเจรจาเลือกตั้งในประเทศ ที่เริ่มมีข่าวออกมาว่า อาจล่าช้าออกไปเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น จากกำหนดการเดิม 20 ก.ค. จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดระยะสั้น อย่างไรก็ดี เราแนะนำขาย หากหลุด 1370 จุด จากโอกาสเลือกตั้งอาจล่าช้ากว่าคาด หรืออาจไม่ทันปีนี้ ซึ่งจะกระทบต่อ Downward Revision เศรษฐกิจและกำไรบจ.รอบใหม่ เราคงคำแนะนำ เลือกลงทุนหุ้นกลุ่มปันผลดี ยิลด์เฉลี่ยมากกว่า 4% ส่วนหุ้นรายตัว จับตา Earnings Results (ขึ้น หากกำไรดีกว่าคาด) และรายงานทบทวน Index รอบครึ่งปีของ MSCI(ประกาศคืนนี้) 

   การเมืองในประเทศ ยังไร้ข้อสรุป หลังการหารือของสมาชิกวุฒิสภานอกรอบ 2 วัน ประเด็นการแต่งตั้งนายกฯ มาตรา 7 ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มกปปส. โดยจะตั้งคณะทำงาน 3 ชุด เพื่อประสานองค์กรอื่น โดยประเด็นการหานายกฯ คนใหม่ยังร้อนแรง และมีข้อเสนอจากหลายฝ่าย ด้านคณะรัฐบุคคลเสนอให้กองทัพเป็นผู้ทูลเกล้าฯ ในการหาทางออกประเทศ โดยให้ข้าราชการเป็นผู้ทำหน้าที่แทนรัฐบาลในการบริหารไปก่อนขณะกองทัพยังไม่ตอบรับ

   วันนี้ประเด็นหลักจะมีการหารือระหว่างกกต. และรัฐบาลเรื่องประเด็นการเลือกตั้ง หลังรัฐบาลแถลงกฤษฎีกาให้ความเห็นว่านายนิวัฒน์ธำรงสามารถปฏิบัติหน้าที่ออก พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง แทนนายกฯ ได้ แต่ยังมีความเห็นแย้งในประเด็นที่กกต. อยากให้ พ.ร.ฎ. ให้อำนาจกกต. ในการเลื่อนวันเลือกตั้งในกรณีสุดวิสัยได้ จึงเริ่มมีการคาดการณ์จากตลาดว่าการเลือกตั้งอาจไม่ทันวันที่ 20 ก.ค. ตามที่กำหนดไว้เบื้องต้น และอาจไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งภายในปีนี้

    ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้นโลกกลับมาสดใส หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปต่างปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการบจ. สหรัฐฯ ดี และมีการคาดการณ์ว่าอีซีบีอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเป็นปัจจัยหนุน ด้านยูเครนลดความตึงเครียดลงหลังรัสเซียกล่าวไม่รับผลการลงประชามติแบ่งแยกดินแดนของ 2 เมืองในยูเครน

    คืนนี้ MSCI จะมีการประกาศทบทวนรอบครึ่งปี สำหรับหุ้นที่ใช้ในการคำนวณดัชนีฯ โดยหุ้นไทยอาจถูกปรับลดน้ำหนักลง จากดัชนี MSCI Qatar และ MSCI UAE จะถูกย้ายจากกลุ่ม Frontier Markets มาอยู่กลุ่ม Emerging Markets

    กลยุทธ์ลงทุน: ทยอยขายทำกำไร สำหรับการลงทุนระยะ 2 เดือน(ความเสี่ยงขาลงอยู่ที่ 1314/1300 จุด) ส่วนการลงทุนระยะสั้น ระยะสั้น แนะนำทยอยซื้อบริเวณแนวรับ 1350 จุด เน้นหุ้นปันผลดี ยิลด์เฉลี่ยสูงกว่า 4% จากการคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงขาลงจำกัด แนะนำ BTS INTUCH ADVANC

   *ระยะเดือน (ดูรายงาน Monthly เดือนพค) ถือเงินสด 60% ของพอร์ต เน้นเลือกลงทุนหุ้นปันผลสูง มีประเด็นบวก แนะนำลงทุน BTS INTUCH (Dividend Play) GFPT PSL BANPU IVL (Global play) STPI TTCL JAS RS (ประเด็นบวกระยะสั้น)

    ทางเทคนิค : โอกาสปรับฐานต่อเนื่องหากหลุด 1370 จุด

    ภาพใหญ่ระยะ 2 ปี ของทิศทางดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใน Downtrend Channel กรอบ 1150-1400 จุด ส่วนระยะสั้น ดัชนีฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากหลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง-ยาว (SMA 50/200 วัน) ที่บริเวณ 1370-1375 จุด โดยมีแนวร้บย่อยลุ้นรีบาวด์บริเวณ 1350 จุด ขณะที่แนวรับหลักอยู่ที่ 1314/1300 จุด

ประเด็นจับตา

 -1. ประเด็นการเมือง: วันนี้วุฒิสภาหารือทางออกประเทศ, กปปส. เรียกร้องนายกฯ มาตรา 7

          ประเด็นการเมือง (Update):

          "สุรชัย"เผย ประชุมวุฒิฯคงยังไม่ได้ทางออกปท.,ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัยว่าที่ประธานวุฒิสภา ระบุว่า การประชุมสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)นอกรอบ ในวันจันทร์ เปิดโอกาสให้ส.ว.แสดงความคิดเห็น และเสนอแนวทางแก้ไข ปัญหาให้กับประเทศ จากนั้นจะไปหารือกับฝ่ายอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะจัดทำข้อเสนอหรือโรดแม็พ เสนอต่อสังคม ว่าเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนข้อเสนอของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลนั้น จะนำมาหารือในที่ประชุมวุฒิสภาด้วย 

          ผบ.ทบ.ชมคณะบุคคลจงรักภักดีชี้ต้องดูกติกา จากกรณีที่ พล.อ.สายหยุด เกิดผล ประธานคณะรัฐบุคคลเรียกร้องให้ ผบ.สส.และผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ เป็นคณะผู้ทูลเกล้าฯ ถวาย และรับสนองพระบรมราชโองการในการหาทางออกประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดของคณะรัฐบุคคล คือเสนอมาให้พิจารณาเท่านั้น และขอร้องสังคมอย่าเพิ่งตำหนิ ควรปล่อยให้ทุกคนที่เป็นคนไทยได้คิด ได้พยายามในการหาทางออก เพราะทุกคนคงต้องการให้บ้านเมืองสงบกันทั้งนั้น

2. การประกาศผลประกอบการ 1Q57F ของบจ. คาดว่าจะส่งผลต่อหลักทรัพย์รายบริษัทฯ ในสัปดาห์นี้

            Thai-บจ. จะสิ้นสุดฤดูประกาศผลประกอบการภายในสัปดาห์นี้ (15 พ.ค.)

USA: การประกาศผลประกอบการ 1Q57 ของบจ. สหรัฐฯ

           บจ. สหรัฐฯ ประกาศผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาแล้ว โดยรายงาน 453 บจ.ที่คำนวณในดัชนี S&P 500ที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวน 76% ที่รายงานกำไรดีกว่าคาด และ 53% รายงานรายได้ดีกว่าคาด โดยรายงานกำไรโดยเฉลี่ยดีขึ้น 5.5% yoy และรายได้ดีขึ้น 3.0% yoy ทั้งนี้ บริษัทฯ ใหญ่ที่จะทยอยประกาศผลประกอบการในช่วงสัปดาห์นี้ เช่น, CISCO, WAL-MART ฯลฯ

3. รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้

           ภายในสัปดาห์นี้: จีน ยอดสินเชื่อสกุลหยวน เดือน เม.ย. 8 แสนล้านหยวน (Vs 1.05 ล้านล้านหยวน ในมี.ค.)

          วันพุธ : สหรัฐ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน เม.ย. (คาด 0.2%m-m Vs มี.ค. 0.5%m-m) หรือ 1.6%y-y Vs 1.4%y-y ญี่ปุ่น จีดีพีไตรมาส 1/57 คาด 1.0% qoq (0.2% ไตรมาส 4/56)

          วันพฤหัสบดี : สหรัฐ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย. (คาด +0.3%m-m Vs มี.ค. 0.2%) หรือ 2.0%y-y Vs มีค 1.5%y-y) ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ค. (คาด 5.5 Vs เม.ย. 1.29) การผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือน เม.ย. (คาด +0.2%m-m Vs มีค +0.7% การใช้กำลังการผลิตคงที่ที่ 79.2%) เฟด สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือน พ.ค. (คาด 15.4 Vs เม.ย. 16.6) รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยุโรป จีดีพีไตรมาส 1/57 คาด 0.4% qoq (0.2% ไตรมาส 4/56) อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. คาด 0.3% qoq (0.2% มี.ค.)

          วันศุกร์ : สหรัฐ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน (คาด +1.015 ล้านยูนิต มี.ค. +0.997 ล้านยูนิต) และการอนุญาตก่อสร้างเดือน เม.ย. รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือน พ.ค. ยุโรป ดุลการค้าเดือนมี.ค. คาด เกินดุล 1.6 หมื่นล้านยูโร (1.36 หมื่นล้านยูโร ก.พ.)

Economic Calendar

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:

          จีน เผยรายได้ด้านการคลังพุ่งขึ้นเกือบ 10% ในเดือน เม.ย. กระทรวงการคลังของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า รายได้ทางด้านการคลังเพิ่มขึ้น 9.2% ในเดือน เม.ย.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.2 ล้านล้านหยวน (1.927 แสนล้านดอลลาร์) โดยพุ่งขึ้นจากที่เพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือน มี.ค. นอกจากนี้ รายได้ของภาครัฐในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ พุ่งขึ้น 9.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 4.8 ล้านล้านหยวน ส่วนรายจ่ายทางด้านการคลังเพิ่มขึ้น 9.6% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 4.0 ล้านล้านหยวน

           ญี่ปุ่น เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการดิ่งลงในเม.ย.หลังขึ้นภาษี VAT ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคบริการญี่ปุ่นร่วงลงสู่ระดับ 41.6 ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่มีผลบังคับใช้ในเดือน เม.ย. ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง

          สหรัฐ เผยสต๊อคสินค้าภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นตามคาดในเดือน มี.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขสต๊อคสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นตามคาด 0.4% ในเดือน มี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน ก.พ. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า สต๊อคสินค้าคงคลังภาคธุรกิจจะเพิ่มขึ้น

0.4% ในเดือน มี.ค.

          สหรัฐ เผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 0.1% ในเดือน เม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือน มี.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน เม.ย.

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

Global Momentum

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้น S&P500, DJIA เดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่

           วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้น ด้วยปริมาณลดลง โดยดัชนี DJIA ปิดบวก 19.97 จุด หรือ 0.12% สู่ระดับ 16,715.44 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.8 จุดหรือ 0.04% สู่ระดับ 1,897.45 จุด และ Nasdaq ปิดลดลง 13.69 จุด หรือ -0.33% สู่ระดับ 4,130.17 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงตามหุ้นซิสโกก่อนการรายงานผลประกอบการในวันพุธนี้ ดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่งปรับตัวขึ้น 0.5% ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่สดใสสำหรับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ยอดค้าปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือน เม.ย. ซึ่งแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเร็วขึ้นในไตรมาสสอง

+ ตลาดหุ้นยุโรป ปรับขึ้น หลังเยอรมนีส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลงใกล้เกิดขึ้น

           วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปปิดสูงขึ้น FTSE ปิดเพิ่ม 21.33 จุด หรือ +0.31% สู่ 6,873.08 จุด ดัชนี CAC40 ปิดปรับขึ้น 11.37 จุด หรือ 0.25 % สู่ 4,505.02 จุด และ DAX ปิดบวกขึ้น 51.97 จุด หรือ 0.54 % สู่ 9,754.43 จุด เป็นผลจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางเยอรมนีเห็นชอบต่อ Negative real deposit rate และการซื้อ Loans ของ ECB ทำให้มีโอกาสสูงที่อีซีบีจะประกาศมาตรการผ่อนคลายการเงินในการประชุมครั้งหน้า

+ราคาน้ำมันดิบ ปิดสูงขึ้นคาดสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง

           วันพุธ Brent ส่งมอบมิ.ย. ปรับขึ้น 0.89 ดอลลาร์ สู่ 109.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้รับแรงหนุนจาก ความแข็งแกร่งของราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินสหรัฐ ถึงแม้มีแนวโน้มว่า ลิเบียอาจปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน สต๊อคน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิงดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008 ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค. และนักวิเคราะห์คาดว่า สต๊อคน้ำมันดิบอาจดิ่งลงไปอีกในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่สหรัฐกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน

           ส่วน Nymex ส่งมอบ มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 101.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันอังคาร ในขณะที่ เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจรายงานในวันพุธว่า สต๊อคน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันตามสัญญาในตลาด NYMEX ได้ดิ่งลงสู่สถิติต่ำสุดใหม่ในสัปดาห์ที่แล้ว

-ราคาทองคำ ปิดลงเล็กน้อย หลังตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯไม่ดีกว่าคา

           วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือนมิถุนายน ปิดตลาดลดลง 1 ดอลล์ หรือ -0.08 % สู่ 1,294.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังขึ้นแรงวันจันทร์ จากคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวแรงใน 2Q57F ส่วนวานนี้ รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ออกมาทรงตัว ส่งผลลบต่อตลาดทองคำจำกัด

- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดลดลงเป็นวันที่ 4

            วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลง 5 จุด หรือ – 0.51% เป็น 982 จุด หลังจาก ปี 56 เพิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)

ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. [email protected]

ธิดารัตน์ ผโลดม, no. [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!