- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 September 2017 20:21
- Hits: 2692
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในแดนบวกได้ตามคาดจากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายหลังพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาอ่อนกำลังลงและยังไม่มีประเด็นตึงเครียดจากฝั่งเกาหลีเหนือใหม่ๆเข้ามากดดัน โดยแรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศและบัญชีบล. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยทั้งในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์ส
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET ยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways Up ต่อจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯทำ New High ต่อเนื่องหลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯกล่าวว่าการปฏิรูปภาษีว่าเป็นสิ่งที่ทรัมป์ให้ความสำคัญและจะผลักดันให้สำเร็จในปีนี้ ขณะที่สถานการณ์ของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาและเกาหลีเหนือที่ผ่อนคลาย ทำให้คาดว่าเม็ดเงินจะยังคงไหลเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง ส่วนประเด็นที่ฝั่งกระทรวงการคลังกระตุ้นให้ BoT ลดดอกเบี้ย หากเกิดขึ้นจริงเรามองเป็นบวกกับตลาดหุ้นโดยรวมและไม่กระทบกลุ่มธนาคาร
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BCH, CPALL, IRPC, SCC, TMB
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$221ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน และเกาหลีใต้ แห่งละ ~ US$97ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$6ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค สินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าสนใจมากขึ้นหลังจากมีการคาดการณ์ว่า Fed จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TMB <<
ธีมการลงทุนใน TMB ยังเป็นภาวะ Laggard โดย 1 เดือนที่ผ่านมา SETBANK +6% แต่ TMB +2% ทั้งที่กำไรรายไตรมาสและ ROE ฟื้นตัวแล้วใน 2Q17 (จากที่ชะลอตั้งแต่ 2Q16) และคาดว่าจะเข้าสู่โหมดขาขึ้นตั้งแต่ 3Q17 คาด +3% Q-Q, +30% Y-Y อยู่ที่ 2.4 พันลบ.
ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/BV เพียง 1.1 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 1.2 เท่า และถ้าอิงอดีตที่กำไรต่อหุ้นใกล้เคียง 2Q17 ราคา TMB เคยกระชากไกลถึง 3 บาท
เริ่มเห็นสัญญาณบวกใน TMBU17 จาก Basis ที่กว้างขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.84 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ดัชนี DJSI เพิ่ม 4 หุ้นไทยเข้าคำนวณในดัชนี (ความยั่งยืนดาวโจนส์) ได้แก่ CPALL HMPRO TRUE และ IVL มีผลวันที่ 18 ก.ย. นี้ โดยมีบริษัทในไทยที่ถูกคำนวณใน DJSI World อยู่แล้ว 6 บริษัท และ DJSI Emerging Market 17 บริษัท
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ฟื้นเร็ว จากพายุที่ลดความรุนแรงลง และความคาดหวังเชิงบวกในมาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ Dollar Index เริ่มฟื้นตัวกลับ เป็นลบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะทองคำที่มีความจำเป็นในการใช้เป็นแหล่งพักเงินน้อยลง ส่วนเงินบาททรงตัวเชิงอ่อนค่าเล็กน้อย เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนในกลุ่มส่งออก เช่น GFPT HANA TKN และ MBAX
(0) ASP ยังเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านการกระจายตัวของรายได้ จากการพึ่งพิงรายได้ค่านายหน้าราว 60% (VS บริษัทอื่นในกลุ่มที่ 70-80%) ที่เหลือมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมราว 20% ซึ่งในจำนวนนี้มาจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (หุ้นทุนและหุ้นกู้) และธุรกิจจัดการกองทุนรวมและส่วนบุคคล ขณะที่แนวโน้มรายได้จากเงินลงทุนน่าสนใจขึ้นจากการลงทุนในรูปแบบ Venture Capital ทำให้รายได้มีความมั่นคงและราคาหุ้นผันผวนตามมูลค่าการซื้อขายน้อยกว่าบริษัทอื่น ขณะที่ คาดการณ์ผลตอบแทนเงินปันผลยังสูงราว 7.7% ต่อปี แต่ด้วย Upside เริ่มจำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายของเราที่ 3.50 บาท จึงแนะนำถือ
(0) SAT ผู้บริหารมีการปรับลดเป้ายอดผลิตรถยนต์ของทั้งอุตสาหกรรมลง เหลือ 1.9 ล้านคันจาก 2 ล้านคัน แต่ในส่วนของ SAT เองยังเห็นการเติบโตใน 3Q17 และน่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี จากการผลิตชิ้นส่วนให้เครื่องจักรการเกษตร และยอดส่งซื้อล่วงหน้าก่อนหยุดยาวใน 4Q17 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเต็มมูลค่าเมื่อเทียบราคาเป้าหมายที่ 14.50 บาท เรายังแนะนำขาย และยังชอบ PCSGH มากที่สุดในกลุ่ม จากการเติบโตที่โดดเด่น มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี และยังปรับตัวไปผลิตชิ้นส่วน EV เร็วสุด ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13 ก.ย. - ไทย: Opp Day – ATP30 SEAFCO SNP ASIAN
11-13 ก.ย. - ไทย: องค์กรภาครัฐฯและนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าเยี่ยมชมโครงการ EEC
13 ก.ย. - สหรัฐฯ: ดัชนีราคาผู้ผลิต
14 ก.ย. - ไทย: PRM เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 8 บาท
- จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
15 ก.ย. - ไทย: EA และ WORK เริ่มเข้าคำนวณใน FTSE ส่วนหุ้นที่ถูกนำออกคือ MBKET
- ไทย: ICN เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.84 บาท
- สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
19-20ก.ย. - สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกโดยทุกดัชนีสามารถทำนิวไฮได้ จากผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐที่พุ่งขึ้น และ การให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตราการภาษีที่เป็นบวก ขณะที่สถานการณ์พายุในสหรัฐ และ ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือก็ผ่อนคลายลง
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกนำโดยกลุ่มการเงินที่ปัจจัยหนุนจากผลตอบแทนพัธบัตรระยะยาวที่เพิ่มขึ้น และ กลุ่มประกันภัยหลังพายุ Irma ไม่ได้สร้างความเสียหายอย่างที่กังวล
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลกตามความกังวลสถานการณ์ต่างๆที่ลดลง
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งตัว sideway ในกรอบแคบ โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.08-33.10 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดบวก 0.16 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.23 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขการผลิตน้ำมันเดือนส.ค.ของกลุ่มโอเปกที่ปรับลดลง ทั้งนี้ นักลงทุนเฝ้าจับตาตัวเลขสต๊อกของ EIA วันนี้ หลัง API ระบุสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่ม 6.2 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.2 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 3.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,332.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงเทขายออกมาหลังการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นโลก
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research