WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASIAwealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

หุ้นขึ้นทั้งโลก
      คาดหุ้นไทยปรับขึ้นวันนี้ต่อ ตามหุ้นสหรัฐที่พุ่งแรงเมื่อคืน นักลงทุนคลายความวิตกหลังจากเกาหลีเหนือไม่ได้ยิงขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และพายุเฮอริเคนเออร์มาอ่อนตัวลง ซึ่งหมายความว่าความเสียหายจะน้อยกว่าที่ประเมินกันไว้ก่อน ภายในประเทศเมื่อวานนายกประยุทธ กล่าวต่อนักลงทุนญี่ปุ่น 570 คนว่าโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกมูลค่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์เดินหน้าแน่นอนไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งราวปลายปีหน้า ตัวโครงการจัดทำเป็นกฎหมาย และแผน 20 ปีรองรับ ซึ่งจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยสูงขึ้นไปเป็น 5% ต่อปี จาก 3-4% ในปัจจุบัน

 

หุ้นเด่นวันนี้: SCB (ราคาปิด 150.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 185.00 บาท)


       บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากการที่ธนาคารจะได้รับประโยชน์จากช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น โดย GDP ไทยไตรมาส 2/60 เติบโต 3.7% YoY ซึ่งเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 17 ไตรมาส ขณะที่ส่งออกเติบโตสองหลักมา 5 เดือนติดต่อกันแล้ว ถ้าแนวโน้มดังกล่าวยังดำเนินต่อไป เรามองว่าระดับหนี้เสียของกลุ่มธนาคารจะลดลงตามลำดับ นั่นเป็นเพราะว่า NPL มีความสัมพันธ์กันอย่างมากกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่ SME ส่วนใหญ่ในไทยจะพึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก อีกทั้ง เราคาดปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่ออีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว แผนโครงการโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ยังเป็นไปตามกำหนดในการนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจาก ครม. ตัวอย่างโครงการเหล่านี้ได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่เฟส 2 จำนวน 9 โครงการ มูลค่า 3.95 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะถูกเสนอต่อที่ประชุม ครม. ภายในปีนี้ เราคาดสินเชื่อ SCB จะเติบโต 8% ในปี 60 และ 10% ในปี 61 ในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage ratio) ณ ไตรมาส 2/60 ยังอยู่ในระดับที่ 133.5% สูงกว่าเป้าของธนาคารที่ 130% เราคาดกำไรจะเติบโต 8.1% ในปี 60 และ 8.4% ในปี 61

 

       นอกจากนั้นแล้ว เราคาดหุ้นดังกล่าวจะให้อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ปี 60 ที่ 14.6% ซึ่งสูงเป็นอันดับสองในกลุ่มธนาคาร และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนค่อนข้างดีที่ 4.0% Price Pattern ของ SCB แม้ว่าจะมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิดทั้ง WeekIy & MonthIy SeII SignaI แต่ในภาพระยะสั้น Price Pattern ของ SCB ได้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งอีกครั้งจากการกลับมาเกิด DaiIy Buy SignaI และหาก Price Pattern ของ SCB สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 151 บาท ก็จะทำให้มีความแข็งแกร่งระยะกลางเพิ่มเข้ามาจากการกลับมาเกิด WeekIy Buy SignaI ครั้งใหม่ เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SCB มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 155 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 165 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ SCB มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 146.50 บาท (Resistance: 151.00, 152.00, 153.00; Support: 149.00, 148.00, 147.00)


ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ:
      ธปท. มองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันอยู่ในระดับเหมาะสมแม้ว่ากระทรวงการคลังจะเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อลดการเก็งกำไรค่าเงินบาทและควบคุมเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่ ธปท.มองว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันยังคงเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้เสถียรภาพทางการเงินมีความเสี่ยง (บางกอกโพสต์)
คาดจัดการเลือกตั้งได้ในไตรมาส 4/61 การเลือกตั้งทั่วไปน่าจะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมปีหน้าในช่วงที่เร็วที่สุดหรืออย่างช้าที่สุดในเดือนธันวาคมปีหน้า เนื่องจากใช้เวลาในการออกกฎหมายลูกประมาณ 240 วัน (บางกอกโพสต์)
นายกรัฐมนตรีร้องขอให้ญี่ปุ่นให้เพิ่มการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในระหว่างการประชุมร่วมกับนักลงทุน 570 รายจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งนำโดยนาย Hiroshige Seko รมว.กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ (บางกอกโพสต์)


ต่างประเทศ:
      คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเมื่อวันจันทร์ เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือที่ทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 โดยระงับการส่งออกสิ่งทอและจำกัดการนำเข้าน้ำมันดิบ มาตรการดังกล่าวมีความรุนแรงน้อยกว่าข้อเสนอเบื้องต้นของสหรัฐต่อยูเอ็น นางนิกกี้ ฮาร์ลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นเผยว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการทำสงครามกับเกาหลีเหนือและเกาหลีเหนือก็ยังไม่ได้ถึงขั้นที่ปรับตัวไม่ได้ (รอยเตอร์)
       อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ หลังจากเกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาอย่างที่วิตกกังวลกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.123% จากที่ระดับ 2.061% เมื่อวันศุกร์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.134% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในช่วง 1 สัปดาห์ (รอยเตอร์)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลจากการที่พายุเฮอริเคนเออร์มาได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและสถานการณ์ตึงเครียดจากเกาหลีเหนือได้ผ่อนคลายลง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.66% สู่ระดับ 91.957 (รอยเตอร์)


สหรัฐ:
      ดัชนี ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งเมื่อวันจันทร์ โดยดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากพายุโซนร้อนเออร์มาสร้างความเสียหายให้แก่รัฐฟลอริดาน้อยกว่าที่คาด และเกาหลีเหนือไม่ได้ยิงขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มการเงินเป็นตัวนำตลาดโดยกลุ่มประกันภัยปรับตัวขึ้นหลังพายุเฮอริเคนเออร์มาอ่อนกำลังลง (รอยเตอร์)


ยุโรป:
      หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ นำโดยกลุ่มประกันภัย เนื่องจากค่าเสียหายจากเหตุการณ์เฮอริเคนเออร์มาในสหรัฐอาจต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า (รอยเตอร์)


เอเชีย:
      ดัชนีนิเคอิญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นกว่าจุดสูงสุดในสัปดาห์ก่อนในวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ทั้งนี้ช่วงก่อนหน้าดัชนีได้รับแรงกดดันจากภาคส่งออกของญี่ปุ่นที่ย่ำแย่ และหุ้นของภาคการเงินที่ไม่ดีนักอันเนื่องมากจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี (รอยเตอร์)
      ทางการจีนอาจห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล ตลาดซื้อขาย bitcoin ในจีนกำลังรอความชัดเจนจากรัฐบาล หลังจากสื่อหลายๆสำนักออกข่าวทางการจีนกำลังเตรียมแผนที่จะห้ามการซื้อขายเงินดิจิตอลกับสกุลเงินแลกเปลี่ยนในประเทศ (รอยเตอร์)
ทางการจีนกำลังศึกษาถึงโอกาสในอนาคตว่าช่วงเวลาใดที่จะห้ามการผลิตและการใช้รถเครื่องยนต์น้ำมัน ทางสำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (ซินหัว)


สินค้าโภคภัณฑ์:
       ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นวานนี้ เนื่องจากโรงกลั่นที่สำคัญในสหรัฐหลายๆ แห่งเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังโดนกระทบจากเหตุการณ์พายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ทำให้ช่วยหนุนกระบวนการแปรรูปน้ำมันดิบ ขณะที่ราคาเชื้อเพลิงดิ่งลง เพราะอุปสงค์น้ำมันเบนซินและดีเซลอาจถูกกระทบจากเหตุการณ์เฮอริเคนเออร์มา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ (+0.1%) อยู่ที่ 53.84 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 59 เซนต์ (+1.2%) อยู่ที่ 48.07 ดอลลาร์ (รอยเตอร์)
        ทองปรับตัวลงมากกว่า 1% หลังจากที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนในวันก่อน เนื่องจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีผ่อนคลายลง ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ราคาทองคำตลาดจรลดลง 1.2% อยู่ที่ 1,330.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองล่วงหน้าลดลง 1.2% อยู่ที่ 1,335.70 ดอลลาร์ (รอยเตอร์)


Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No. 14543) Tel: 0-2680-5056

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!