WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวต้านสำคัญ 1640-1644
  SET Index: 1643.95 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่องเหนือระดับ 1640 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เรายังคงคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1640 จุดขึ้นไป น่าจะมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร และมีโอกาสปรับฐานหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1600 จุดขึ้นมาได้ และมีแนวรับที่ 1620 จุดเป็นจังหวะในการกลับเข้าไปซื้อหุ้น
  แนวต้าน : 1644 และ 1645
  แนวรับ : 1636 และ 1634

 

TRUE = 6.10 / 6.20, PTT = 404 / 408, EA = 38.00 / 39.00, AOT = 56.00 / 57.50, CPALL = 63.50 / 64.50

Halcyon Technology (HTECH TB; THB 11.00) – ซื้อ
  แนวต้าน : 12.00 และ 12.60 / เป้าหมาย 13.20
  แนวรับ : 11.00 และ 10.80


  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีดอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
  แนะนำซื้อ HTECH โดยมีแนวรับที่ 11.00 และ 10.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.00 และ 12.60 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 10.30 ลงไป

Agripure Holdings (APURE TB; THB 2.78) – ซื้อ
  แนวต้าน : 2.94 และ 3.00
  แนวรับ : 2.78 และ 2.74


  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ APURE โดยมีแนวรับที่ 2.78 และ 2.74 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.94 และ 3.00 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.66 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET…ยังขึ้นได้แต่ไม่มาก
  เปิดขึ้นมาต้นสัปดาห์ตลาดหุ้นในเอเชียกลับพุ่งขึ้นแรงในตลาดใหญ่ๆ หลังตลาดคลายความกังวลเรื่องปัญหาเกาหลีเหนือ นอกนั้นเป็นแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น แม้ทิศทางดัชนีในต้นอาทิตย์นี้จะแจ่มใสขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าดัชนีตลาดหุ้น จะไม่ผันผวนขึ้นมาอีก เพราะตอนนี้ความกังวลใหม่เริ่มที่จะกลับไปที่ตลาดหุ้นสหรัฐหลังเผชิญกับเความสียหายจากผลของพายุ Harvey และ Irma นอกจากนั้นปกติราคาน้ำมันมักจะดีดตัวขึ้นในช่วงเกิดพายุพัดกระหน่ำ แต่รอบนี้กลับเห็นราคาน้ำมันดิบทรงๆตัว


  ดัชนีตลาดหุ้นไทยเองเรามองว่ายังน่าจะมีความพยายามที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ประมาณ 1650+/- จุด แต่คงไม่ผ่านง่ายๆ ยกเว้นราคา น้ำมันดิบเกิดส่งสัญญาณ Bullish ขึ้นมา ดังนั้นเราจะได้เห็นดัชนี SET จะยังแกว่งในกรอบที่เป็นอยู่อีกสักพัก จนกว่าจะเห็นสัญญาณในเชิงบวกและลบ เข้ามากระทบ สัญญาณในเชิงบวกของตลาดหุ้นไทยตอนนี้คือ สัดส่วน Earning momentum ratio เริ่มผงกหัวกลับ ตามภูมิภาค แต่ยังอยู่ในแดนลบ หากค่า Earning momentum ค่อยๆ ขยับตัวขึ้นสูงเรื่อย มีความเป็นไปได้ที่ดัชนี SET จะยืนหรือดีดตัวขึ้นตาม แต่จะไม่แรง เนื่องจากดูเหมือนดัชนี SET จะขึ้นมาตอบรับพอสมควรแล้วในตอนนี้


  รูปด้านซ้าย เราแสดงการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET ในแต่ละปี โดยดูว่าแต่ละปีมีอัตราการลงมากที่สุดเท่าไรโดยวัดจากจุดสูงสุดของปีมายังจุดต่ำสุดของปี พบว่าในช่วงตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2016 อัตราการลงสูงสุด อยู่ที่ -11% -25% -11% -22% -9% -22% และ-9% ตามลำดับ หากรอบนี้สมมุติว่าดัชนีที่บริเวณ 1640-1650 จุด คือ จุดสูงสุด ดังนั้นเวลาลงจากจุดสูงสุด คงลงได้ลึกเหมือนกัน หากมาดูทิศทางดัชนี SET ในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา จากรูปด้านขวา พบว่า ดัชนีกำลังจะขึ้นไปสร้างจุดสูงสุด 3 ยอด ที่ประมาณ 1650+/- จุด หากจะผ่านไปได้ เรามองว่ากำไรใน Q3/17 จะต้องดีขึ้น ที่จะหนุนให้ดัชนีขึ้นต่อ โดยตอนนี้ดัชนี SET กำลังขึ้นมาใกล้เส้น +2SD หรือที่ดัชนีประมาณ 1650-1660 จุด ดังนั้นประเด็นตอนนี้ก่อนที่งบ Q3/17 จะออก ปัจจัยชี้นำที่จะหนุนดัชนี น่าจะเหลือแค่ ราคาน้ำมันดิบหรือดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทั้ง 2 ปัจจัย จะยังไม่ส่งสัญญาณในเชิงบวกเท่าที่ควร โดยที่ผ่านมาคือปี 2013 ที่ดัชนี SET ขึ้นไปแตะ 1650+/- จุด เป็นผลจากราคาน้ำมันล้วนๆ แต่รอบนี้ราคาน้ำมันกลับนิ่งๆ


  กลุ่มอุตสาหกรรมของตลาดที่จะดันดัชนีในครั้งนี้ ยังคงเป็นหุ้นในกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ สื่อสารใหญ่ พลังงาน ปูนและ AOT ซึ่งจะสลับตัวกันเล่น นอกนั้นจะขุดหุ้นที่ยังไม่ขึ้นหรืออยู่ที่ต่ำขึ้นมาเล่น หลังจากที่ดัชนีขึ้นมาใกล้ 1650+/- จุด หุ้นที่คาดว่าจะมีความเสี่ยงแต่ไม่มาก จะเป็นหุ้นประเภท Laggard อย่างกลุ่มผู้ผลิตอาหาร หุ้นให้ Dividend yield สูง (สื่อสาร) หุ้นสาธารณูปโภค (ผลิตไฟฟ้า) และ ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์
  วันนี้คาดตลาดน่าจะได้รับอานิงสงค์จากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมัน แต่คงไม่แรง เนื่องจากเป็นเพียงการคลายความกังวลเรื่องพายุและปัญหาในเกาหลีเหนือ มากกว่าที่จะเป็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยวันนี้น่าจะเปิดสูงแล้วค่อยๆ ย่อตัวลง วันนี้มองแนวต้านที่ 1642-1646 จุดและแนวรับที่ 1634-1630 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร TMB CENTEL BDMS และ IRPC


Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)


Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,643.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.41 จุด (+0.39%) มูลค่าการซื้อขาย25,566.81 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศทั่วโลกที่เป็นบวกหลังนักลงทุนคลายกังวลสถานการณ์จากต่างประเทศ บ้านเรามีแรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีกสื่อสาร ติดตามการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า (19-20 ก.ย.)

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ ตลาดโดยรวมยังเน้นเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะ ภาพทางเทคนิคมองว่า SET พร้อมที่จะปรับฐานได้ตลอด หากมีปัจจัยลบเกิดขึ้น โดย SET Index กำลังอยู่ในเขต Over sold เรายังคงมองว่าโอกาสที่ SET จะทำ New high จะเป็นไปได้น้อย หากไม่มีการปรับฐานลงเพื่อสร้างฐานใหม่บริเวณ 1620 -1630 จุด เพราะยังไม่น่าจะเห็นเม็ดเงินก้อนใหม่เข้าสู่ตลาด ยังแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรเล่นรอบ และไปรอซื้อกลับบริเวณ 1620 จุด มองแนวต้าน1645 จุด หุ้นเก็งกำไรแนะนำ TRUE KCE IRPC

Technical Pick (PM) ...
  Halcyon Technology (HTECH TB; THB 11.00) – ซื้อ
  Agripure Holdings (APURE TB; THB 2.78) – ซื้อ


Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!