- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 August 2014 15:25
- Hits: 2665
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งกรอบแคบ ปิดที่ 1,551.41 จุด บวกเป็นวันที่ 3 เล็กน้อย 0.64 จุด มูลค่าการซื้อขายชะลอตัวเหลือ 47,958 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติเป็นกลางเป็นวันที่ 3 ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เพียง 18 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เพียง 517 สัญญา แต่กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 8,346 ล้านบาท
ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ MBKET ประเมินแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,548-1,555 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน อีกทั้งกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้นักลงทุนภายในประเทศระมัดระวังต่อการลงทุน
ปัจจัยสำคัญในวันนี้ 1) เริ่มการชำระเงินเพิ่มทุนของ TRUE จนถึงวันที่ 28 ส.ค. และ 2) ติดตามการให้ความเห็นต่อตลาดการจ้างงานของประธานเฟดที่ Jackson Hole ในคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
อย่างไรก็ตาม MBKET ยังคงมีมุมมองเป็น “กลางถึงบวก” ต่อทิศทางการลงทุนในรอบนี้ โดยให้น้ำหนักต่อกระแสเงินทุนต่างชาติต่อภาพเศรษฐกิจ และ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะมีการชี้แจงในงาน Thailand Focus วันที่ 27-29 ส.ค.นี้ และในต้นเดือนก.ย.คาดว่าจะได้เห็นโฉมหน้าของครม. ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,560 จุด +/-“ และพร้อมสะสมเพิ่ม หากราคาหุ้นเป้าหมายเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” SAMTEL / STPI
Portfolio Top Pick in 3Q14: AAV /AP/ IFEC
HOLD: SPALI/ SAMART/ SPCG/ BLAND/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO/ CK
Speculative buy: SAMTEL / STPI
Action and Stock of the Day
SET INDEX ปิดยืนเหนือ 1,550 จุดได้เป็นวันที่ 2
SET INDEX วันนี้ แกว่งในกรอบแคบ ยังไม่น่าผ่าน 1,555 จุด ได้
จับตากระแสเงินทุนต่างชาติในสัปดาห์หน้า หลังเริ่มงาน Thailand Focus ในวันที่ 27-29 ส.ค.
ดังนั้นกลยุทธ์ พิจารณาขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,560 จุด +/- พร้อมสะสมหุ้นเป้าหมายเพิ่มเติม หากราคาเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ปิดลบเป็นส่วนใหญ่ หลังจีนรายงาน Flash PMI ภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก อีกทั้งทิศทางค่าเงินในเอเชียอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งในกรอบแคบ 1,550-1,555 จุด หลังสนช.เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ คนที่ 29 ของประเทศ ตามที่ตลาดคาดการณ์ แม้ว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรสะท้อนผลดังกล่าวก็ตาม แต่ก็มีการสะสมหุ้นหลักเข้ามาตลอดชั่วโมงการซื้อขายเช่นกัน ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,551.41 จุด บวกเป็นวันที่ 3 อีก 0.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,958 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดบวกแรงสุดในวานนี้ได้แก่ กลุ่มเหมืองแร่ +5.95%, กลุ่ม Fashion +3.00% และกลุ่มโรงพยาบาล +0.82% ขณะที่กลุ่มหลัก กลุ่มธนาคาร +0.13%, กลุ่มพลังงาน +0.37% และ กลุ่มอสังหาฯ +0.31%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.35 น.) เช้านี้ Nikkei - Kospi เปิดบวกเล็กน้อย อาจเป็นผลจากวันนี้เป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน
MBKET คงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลางถึงบวก” เป็นวันที่ 8 แม้ว่า SET INDEX วานนี้จะกลับมาแกว่งในกรอบแคบ ตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้า บวกกับวันนี้ ยังมีทิศทางที่แกว่งในกรอบแคบอีกวันระหว่าง 1,548-1,555 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง
อย่างไรก็ตาม MBKET กลับมาให้น้ำหนักกับกระแสเงินทุนต่างชาติต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังเห็นพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย ตาม Roadmap ที่ คสช. เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้ง ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ได้ผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q57 ไปแล้ว แนวโน้มเศรษฐกิจจะเติบโตลักษณะ “V” shape อย่างโดดเด่นใน 2H57 และต่อเนื่องถึงปี 2558 ย่อมเป็นจุดสนใจของนักลงทุนต่างชาติ
กระแสเงินทุนต่างชาติ จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะผลักดันให้ SET INDEX ขยับขึ้นทะลุแนว 1,550-1,560 ในรอบนี้ ขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,580-1,600 จุดได้
•พัฒนาการทางการเมืองภายในประเทศจากนี้ไป
oกรอบเวลาจากนี้ไป
ภายในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ภายในสัปดาห์แรกของเดือนก.ย. จะได้เห็นรายชื่อครม. เพื่อนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ
ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนก.ย. ครม.จะเข้าถวายสัตย์ปฎิญาณ และเปิดประชุม ครม. นัดแรกได้ในกลางเดือนก.ย.
กรอบเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับ กรอบเวลาที่ คสช. เคยชี้แจงไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทันต่อการเริ่มใช้งบประมาณประจำปี 2558 ในวันที่ 1 ต.ค. 2557
oร่างงบประมาณปี 2558 ได้ผ่านวาระที่ 1 วานนี้ ขั้นตอนถัดไปตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณา และนำเสนอต่อสนช. เพื่อพิจารณาวาระที่ 2-3 ตามลำดับ วันที่ 17-18 ก.ย. คาดว่าจะสามารถนำงบประมาณปี 2558 ใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้
oการยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งกองทุนบางประเภทถูกจำกัดการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นๆ
oแผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ต้องสรุปรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แหล่งที่มาของเงินทุนที่ใช้สนับสนุนแผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อ คสช. เพื่อพิจารณาในรายละเอียด ภายในสิ้นเดือนส.ค. หลัง คสช.อนุมัติในหลักการไปตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
•การจัดงาน Thailand Focus วันที่ 27-29 ส.ค. เพื่อชี้แจงภาพเศรษฐกิจ การเมือง และบริษัทจดทะเบียน เข้าพบปะผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ของตลท. ที่จัดขึ้นทุกๆ ปี และในปีนี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับเชิงบวกจากกองทุนต่างชาติ หลังจากที่ประเทศไทย ได้มีนายกรัฐมนตรี และ ครม. แล้วในสัปดาห์นี้ จะสามารถชี้แจงภาพเศรษฐกิจ และแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนี้ไปได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อ SET INDEX ขยับขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายแรกของ MBKET ที่ 1,560 จุด นักลงทุน อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนที่บริเวณดังกล่าว และถือพอร์ตการลงทุนส่วนที่เหลือ พร้อมทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายเพิ่ม หาก ราคาหุ้นเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย หุ้นหลักที่จะได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณปี 2558 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร (KTB/BBL), กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK), กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (TPIPL), กลุ่มงานวางระบบไอที (SAMTEL / AIT) รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มจะพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก (AAV/ AOT)
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.คาดได้เห็นโฉมหน้าครม.ในต้นเดือนก.ย. ตามกรอบเวลาของคสช: หลัง สนช. มีมติเอกฉันท์ รับรอง พล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ของประเทศ
•คาดต้นเดือนก.ย. จะเห็นโฉมหน้าของ ครม.
•คาดสัปดาห์ที่ 2 ครม. ภายใต้การนำของ พล.เอก ประยุทธ์ เข้าถวายสัตย์ปฎิญาณ และเปิดประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนัดแรกได้ไม่เกิน กลางเดือนก.ย.
•การพิจารณายกเลิก กฎอัยการศึก คาดว่าจะเป็นในช่วงครึ่งหลังของเดือนก.ย.
2.การปรับดัชนี MSCI รายไตรมาสรอบนี้: สำหรับ MSCI Thailand พบว่า
•เพิ่ม: ไม่มี
•ออก: GJS, GSTEL
ทั้งนี้มีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 29 ส.ค.
3.ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของประธานเฟด: ที่ Jackson Hole ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่
•มุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ / การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ เทียบกับเป้าหมาย 2.0% ในระยะยาว
•โอกาสที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟด หลังสิ้นสุดโครงการ QE ในเดือนต.ค.นี้
4.ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า: ยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศ
•งาน Thailand Focus วันที่ 27-29 ส.ค. คาดเห็นเม็ดเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย
•การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือนก.ค. โดยธปท. วันที่ 29 ส.ค. คาดส่งสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่อง
•การชำระเงินเพิ่มทุน TRUE สำหรับผู้มีสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ระหว่างวันที่ 22-28 ส.ค. ส่วน China Mobile ชำระเงินวันที่ 28-30 ส.ค.
•การนำเสนอ รายละเอียดแผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท ระยะเวลา 8 ปี ต่อ คสช. ภายในสิ้นเดือนส.ค.
•ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ อัตราการว่างงานในญี่ปุ่น, ดัชนีชี้นำในจีน, ดัชนีความเชื่อมั่นในอียู, ดัชนีตลาดบ้านในอังกฤษ และ และ GDP ใน 2Q57 ของสหรัฐฯ
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 15.68 13.55 15.56 13.48
PSE Closed Closed 20.02 17.32
JSE 16.92 14.44 16.86 14.05
KOSPI 10.47 9.11 10.50 9.14
TAIEX 14.96 13.90 14.94 13.92
Straits Time 14.70 13.52 14.69 13.51
SHCOMP 8.80 7.82 8.85 7.85
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.SAMTEL : ราคาปิด 17.20 บาท ราคาเหมาะสม 20.20 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้น SAMTEL จะ Outperform ตลาดใน 2H57 เนื่องจากมี Catalyst รออยู่ คือโอกาสของการชนะงานประมูลขนาดใหญ่ เช่น Smart Classroom มูลค่า 2,900 ล้านบาท, โครงการ CUTE มูลค่า 2,500 ล้านบาท และงานเคเบิลใต้น้ำของ TOT ฯลฯ
b)และ 2Q57 เป็นไตรมาสที่มีกำไรต่ำสุดของปี 2557 แล้ว และจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H57 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้ Backlog เป็นจำนวนมากในครึ่งปีหลัง
c)กำไร 1H57 คิดเป็น 44.2% ของประมาณการกำไรปี 2557 ที่ 893 ล้านบาท (+4.3% yoy) และคาดว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +12.4% yoy เป็น 1,004 ล้านบาท
d)Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 11.8 เท่า ต่ำกว่า SAMART ที่ 13.4 เท่า, SIM 15.4 เท่า และกลุ่มสื่อสารที่ 14-15 เท่า และมี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรปี 2558 หากชนะงานประมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติมใน 2H57
2.STPI : ราคาปิด 20.20 บาท ราคาเหมาะสม 26.00 บาท
a)MBKET มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของ STPI ในช่วง 3 ไตรมาสที่ และคาดว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง
b)คาดกำไรสุทธิ 3Q57 จะเติบโตก้าวกระโดดทั้ง yoy และ qoq พร้อมทำระดับสูงสุดต่อเนื่องใน 4Q57 และ 1Q58 ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้โครงการ Ichthys Onshore LNG มูลค่ารวม US$738 ล้าน ตั้งแต่ 3Q57 เป็นต้นไป
c)ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2557 ที่เติบโต +57.5% yoy เป็น 3,007 ล้านบาท และ STPI อยู่ระหว่างประมูลงาน LNG ในโมซัมบิคมูลค่าโครงการ 1-1.5 หมื่นล้านบาท และแคนาดา มูลค่า 2-2.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะทราบผลประมูลงานในช่วงปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า และเป็น Catalyst ที่รออยู่
d)Valuation น่าสนใจ โดยซื้อขายระดับ PER 2557 และ 2558 เพียง 9.9 เท่า ต่ำกว่า TTCL ที่ PER 2557 สูงถึง 17.8 เท่า และ 15.5 เท่า ในปี 2558 และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4% ต่อปี
What will DJIA move tonight? คืนนี้ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของประธานเฟด
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิอีก US$120 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$ 476 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 61.0 178.8 11,552.1 9,188.0
KOSPI 11.8 232.2 8,131.1 4,875.1
JSE 35.0 44.1 4,893.3 -1,806.4
PSE 8.3 8.3 1,129.0 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 3.6 -3.1 215.2 263.2
SET INDEX 0.6 15.1 -769.8 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติเป็นกลาง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +18 +483
SET50 Index Futures (สัญญา) +517 -512
SSF (สัญญา) +1,581 +813
Metal Futures (สัญญา) -1,227 -53
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) -8,346 +3,703
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เพียง 18 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 1,367 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิ 25,751 ล้านบาท
ด้านนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาเป็น Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 517 สัญญา ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า Short สุทธิ 512 สัญญา และเทียบกับตลอด 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 5,309 สัญญา คาดว่าเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures อีกครั้ง ส่งผลให้ S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 4.60 จุด จากวันก่อนหน้า Discount 5.56 จุด
Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 7 เร่งขึ้นเป็น 1,227 สัญญา รวม 7 วันทำการ Short สุทธิ 3,567 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 2,443 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long สุทธิทั้งหมด และกลับมามีสถานะ Short สุทธิแทน เมื่อราคาทองคำในตลาดโลก ปรับฐานลงสู่แนว US$1,280/ounce เป็นแนวรับที่สำคัญของราคาทองคำ
ด้านตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ มากถึง 8,346 ล้านบาท เทียบกับตลอด 3 วันทำการก่อนหน้า ซื้อสุทธิ 6,183 ล้านบาท เมื่อทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าอย่างโดดเด่นในทุกสกุลเงิน ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงอีก 2.08bps ปิดที่ 3.584%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 615 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 309 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
TRUE 135.17 3.70% 10.86
LH 66.28 12.18% 11.24
CK 55.32 2.71% 27.63
BLAND 40.53 2.53% 2.19
SCB 37.92 10.75% 189.25
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 เน้นกลุ่ม ขนส่ง และ ICT อย่างหนาแน่น
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 1,266 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,931 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 8,170 ล้านบาท ยังคงเน้นกลุ่ม ICT พร้อมกับการกลับมา Covered short กลุ่มขนส่ง สรุปภาพการลงทุนได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มขนส่งถูกซื้อสุทธิสูงสุด 521 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 438 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 572 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 196 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า ซื้อสุทธิ 526 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 191 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า ซื้อสุทธิ 260 ล้านบาท
2.กลุ่มวัสดุก่อสร้างถูกขายสุทธิสูงสุด 145 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอาหารขายสุทธิอีก 62 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 90 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
ADVANC 689.66 31.52 INTUCH -336.53 16.83
AOT 476.52 21.45 SCC -89.40 17.75
LH 197.97 20.76 KBANK -79.61 54.40
TRUE 105.43 5.80 DTAC -72.76 19.18
BANPU 74.03 13.34 PTTGC -68.94 13.27
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong