- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 September 2017 16:51
- Hits: 2961
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 8-9-17
Close : 1,635.61 Volume : B76,731M
Change : +2.95 P/E : 17.55
%Change : +0.18% P/BV : 1.98
หุ้นแนะนำพิเศษ
PSTC (ราคาปิด 0.77 ซื้อ ราคาเหมาะสม 0.90)
บริษัทดำเนิน 2 ธุรกิจ 1)ธุรกิจออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า (ระบบสำรองไฟฟ้า และระบบประหยัดพลังงาน) มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 72 และ 2)ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนสัดส่วนรายได้ร้อยละ 28 โดยมีกำลังการผลิตรวม 41 MW
บริษัทมุ่งเน้นขยายธุรกิจไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงและความเสี่ยงต่ำ โดยบริษัทมีกำลังการผลิต 41 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 15 MW โรงไฟฟ้าชีวมวล 15 MW(อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 MW) และโรงไฟฟ้าชีวภาพ 11 MW(อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 MW) และตั้งเป้า 100 MW ภายในปี 61
ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการจะ Turnaround ในปี 60 จากการรับรู้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ผลประกอบการ 1H60 อยู่ที่ราว 23 ล้านบาท เติบโต 30%YoY โดยเราคาดกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 53 ล้านบาทเติบโต 236% และผลประกอบการมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในปี 61 จากการเข้าประมูลโรงไฟฟ้า SPP semi firm และ SPP hybrid firm
Company Visit : CGD (ราคาปิด 1 บาท แนะนำ ซื้อเก็งกำไร)
ปัจจุบันดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภทได้แก่ 1)ธุรกิจอสังหาฯเพื่อขาย ได้แก่ คอนโดพร้อมอยู่ “อิลีเม้นท์ ศรีนครินทร์" เฟสสุดท้ายมูลค่าคงเหลือ 1,000 ลบ. และโครงการ “เจ้าพระยาเอสเตท” มูลค่า 3.2 หมื่นลบ.ประกอบด้วย คอนโดฯพักอาศัย “Four Season Private Residence” และโรงแรม 2 แห่ง มีกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 61-ต้นปี 62 ส่วนโครงการในอนาคตเป็นโครงการ mixed-used มูลค่าราว 2,000 ลบ.บนที่ดินพื้นที่เกือบ 80 ไร่ที่จ.ฉะเชิงเทรา 2) ธุรกิจอสังหาฯเพื่อลงทุนได้แก่ โครงการ Ovingdean Hall ที่อังกฤษซึ่งเป็นธุรกิจด้านการศึกษามีรายได้เป็นค่าเช่าที่ยังเหลืออายุสัญญาเช่าอีกประมาณ 16 ปี โครงสร้างรายได้ 1H60 มาจากการขายโครงการ 86% ธุรกิจให้เช่าอสังหาฯเพื่อลงทุน 10%
1H60 มีผลการดำเนินงานขาดทุน 169 ลบ. เพิ่มขึ้นจากขาดทุน 81 ลบ. ใน 1H59 เนื่องจากคชจ.ด้านการตลาดและการขายโครงการเจ้าพระยาเอสเตและต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย D/E ratio ณ ปลาย 2Q60 อยู่ที่ 1.43 เท่า
ความเห็น ผลการดำเนินงานรอพลิกฟื้นหลังจากโครงการ Four Season Private Residence สร้างเสร็จและทยอยส่งมอบปลายปี61 รวมทั้งโรงแรมทั้งสองแห่งเริ่มดำเนินการราวต้นปี 62 สำหรับโครงการในอนาคตที่จ.ฉะเชิงเทราน่าจะมีศักยภาพเติบโตดีเนื่องจากอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจอีอีซีที่เป็นที่สนใจของนักลงทุน ทั้งนี้หากร่างพ.ร.บ.อีอีซีมีความชัดเจนมากขึ้นคาดจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น
ส่องหุ้น
BOL แนวรับ 2.44-2.40 บาท แนวต้าน 2.52-2.58 , 2.68-2.74 บาท
BEC แนวรับ 17.30-17.00 บาท แนวต้าน 17.80 , 18.60 บาท
COMAN แนวรับ 6.55-6.50 , 6.40 บาท แนวต้าน 6.70 , 6.80 , 7.05 บาท
Market View : บวกตามรอบบ้าน
Stock of the town : BEC PIMO
หุ้นแนะนำพิเศษ : PSTC
หุ้นมีข่าว : PTTGC LIT CGD
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวขึ้นตอบรับ ECB คงดอกเบี้ยที่ 0% และคง QE ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนธ.ค. รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าลง ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม ICT COMM BANK หนุนให้ SET ปิดที่ 1,635.61 จุด (+2.95 จุด) Vol. 7.6 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +1,586 ลบ. TFEX Net -17,147 สัญญา ตราสารหนี้ +17,251 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ เกาหลีเหนือไม่มีการทดสอบยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองในวันชาติ 9 ก.ย.
+ จีน PPI เดือนส.ค. +6.3%YoY ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก +5.5% ในเดือนก.ค.และ CPI +1.8%YoY ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก +1.4% ในเดือนก.ค.
+/- พายุเออร์มาเคลื่อนตัวสู่เขตกัลฟ์โคสต์ของรัฐฟลอริดา ขณะจนท.สั่งอพยพประชาชนกว่า 2.6 ล้านคน
+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้น จากการฟื้นตัวของหุ้นประกันภัย แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา
+ ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัวจากแรงกดดันเงินยูโรที่แข็งค่า
+/- ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 47.8 US/Barrel หลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันเป็นไปอย่างช้าๆจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ส่งผลกระทบต่อ Demand การใช้น้ำมัน รวมถึงสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล
+/- Foreign เป็น Net Buy ตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. ราว 3.6 พันลบ. และเงินบาทแข็งค่าล่าสุด 33.1 Bath/US แต่เป็น Net Short 9 วันราว 1.1 แสนสัญญา.
** 14 ก.ย. ธนาคารกลางอังกฤษ BOE ประชุมนโยบายการเงิน
ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกได้ Sentiment เชิงบวกจากเกาหลีเหนือไม่มีการยิงขีปนาวุธเพื่อฉลองวันชาติเสาร์ที่ผ่านมา ประกอบกับตลาดหุ้นไทย Fund Flow ต่างชาติไหลเข้า Net Buy ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. อย่างไรก็ตามภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะกดดันต่อดัชนีในระยะสั้น ดังนั้นประเมินว่า SET จะขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,645 – 1,650 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- กลุ่มนิคมฯ 11-13 ก.ย. ทุนญี่ปุ่น 600 รายเข้าพบนายกฯ ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC
- TASCO ราคายางมะตอยจีนทรงตัวระดับสูง 2,889 Yuan/Ton
- PSL TTA ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นล่าสุด 1,332 จุด
- IVL ราคาฝ้ายพุ่งขึ้นทำ High รอบ 2 เดือนล่าสุด 75.2 Cents/Pound
- กลุ่มโรงกลั่น ค่าการกลั่นพุ่งขึ้นล่าสุดราว 11.5 US/Barrel
- COM7 SYNEX SIS กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า
หุ้นมีข่าว
PTTGC (ราคาปิด 77.25 Bloomberg Consensus 80.36) ปัจจัยหนุนเพียบหลังโรงงานปิโตรในจีนถูกสั่งตรวจสอบ รวมทั้งพายุเฮอร์ริเคนในสหรัฐ-เม็กซิโก ดันสเปรดกลุ่มปิโตรขยับสูงขึ้น (ที่มาทันหุ้น)
ความเห็น Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 อยู่ที่ 3.17 หมื่นล้านบาท +24%YoY โดยเรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการของใน 2H60 เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานโอเลฟิสน์และโรงงานอะโรเมติกส์ อีกทั้งได้รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้นราว 38% QTD ตามส่วนต่างน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซล และน้ำมันเตาที่เพิ่มขึ้น 38% 36% และ 15% ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับแรงหนุนจากการรับโอนบริษัท 6 แห่งจาก PTT ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการ 2Q60 ได้ราว 1-1.2 พันล้านบาท
LIT (ราคาปิด 12.10 ซื้อ ราคาเหมาะสม 14.20) คาดปีนี้ปล่อยสินเชื่อกว่า 1 หมื่นลบ. เน้นสินเชื่อ Bid Bond-โปรเจกต์ไฟแนนซ์ช่วง H2/60 คุมเป้า NPL ไม่เกิน 5% (ที่มา อินโฟเควสท์)
ความเห็น 1H60 มีกำไร 71 ลบ. +57%yoy คิดเป็น 47% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 150 ลบ.+49% ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการตามเดิม โดยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้ที่มีปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในช่วงครึ่งปีหลังที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณทำให้สินเชื่อ project finance มีแนวโน้มเติบโตดี ยอดสินเชื่อคงค้างปลายมิ.ย. 60 เท่ากับ 4,852 ลบ. +38%yoy %NPL ปลาย Q2 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ 4.34% จาก 3.86% ปลาย Q1 ทำให้บริษัทตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเป็น 3.08% ของยอดลูกหนี้คงเหลือ จาก 2.9% ณ ปลาย Q1 ทั้งนี้ ผู้บริหารเพิ่มเป้าตั้งสำรองหนี้สูญสู่ระดับ 3.5 – 4% จากแผนเดิม 2.75 – 3%
ADVANC (ราคาปิด 192 บาท ราคาเหมาะสม 196.6 บาท) ครึ่งหลังปี 60 กำไรเติบโต 14% หลังลดแจกมือถือ เน้นทำแคมเปญเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่มีคุณภาพ มุ่งทำกำไรมากกว่าเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ โบรกฯ ปรับประมาณการกำไรปี 60-62 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.5%
ความเห็น Outlook ผลประกอบการของ ADVANC ในช่วง 2H60 น่าจะมีการเติบโตได้ไม่ยาก จาก 3 ประเด็นหลัก คือ 1) ช่วง 2H59 มีฐานที่ค่อนข้างต่ำ (-33%YoY) 2) ต้นทุนแคมเปญส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ยังน่าจะทยอยลดลงต่อเนื่องจากงวด 2Q60 ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารงวด 2Q60 ปรับตัวลดลง 17%YoY และ 3) ในงวด 3Q60 ที่จะถึงนี้ ยังเป็นไตรมาสแรกที่ได้รับผลบวกจากการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียม USO ลดลงจาก 3.75% เหลือ 2.5% เต็มไตรมาสครั้งแรก โดยรวมแนวโน้มกำไร 2H60 น่าจะเติบโต ชดเชยการหดดตัวในช่วง 1H60 ได้ ส่วนปีหน้า Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโต 7.9%YoY ราคาเหมาะสมปัจจุบัน ที่ 196.6 บาท หากพิจารณาปี 61 น่าจะสูงขึ้นไปอีก แนะนำ “ทยอยซื้อสะสม”
CPF ได้รับเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI ประจำปี 60 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดย CPF เป็น 1 ใน 14 บริษัท จาก 111 บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารทั่วโลก
PTT คว้าตำแหน่งผู้นำกลุ่ม Oil & Gas Upstream & Integrated (OGX) เป็นครั้งแรก พร้อมติดโผ DJSI ต่อเนื่องถึง 6 ปีซ้อน ตอกย้ำความแข็งแกร่งของบริษัท
J ทุ่มงบ 42 ล้านบาทซื้อ 'Casa Lapin' พร้อมตั้งบริษัทย่อย "บีนส์แอนด์บราวน์" ดูแล หวังผลักดันเข้าตลาดหุ้นภายใน 3 ปี กางแผนขยายสาขาให้ครบ 40 แห่งในกรุงเทพฯ พร้อมตั้งเป้าปี 63 ฟันรายได้ 360 ล้านบาท(ที่มา ทันหุ้น)
Analyst – วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร, สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
