- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 September 2017 16:35
- Hits: 807
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง 11.36 จุดและทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งซึ่งถือว่าดีกว่าที่เราประเมินไว้ โดยมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติแม้จะซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1,138 ลบ. แต่ Short ตลาดฟิวเจอร์สสูงถึง 12,540 สัญญา (ราว 2,500 ลบ.)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่าระยะสั้น SET จะแกว่งตัว Sideways พักฐานหลังปรับตัวขึ้นแรงวานนี้รวมถึงยอด Short ที่หนาแน่นในตลาดฟิวเจอร์ส รวมถึงยังมีความกังวลเรื่องการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ขณะที่การประชุม ECB ยังคงนโยบายการเงินเช่นเดิมและจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการ QE ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ซึ่งมีโอกาสที่จะขยายระยะเวลาออกไปหลังมีการปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลง เราเชื่อว่า SET จะสามารถปรับตัวขึ้นหา Target ที่ 1,650 จุดได้ในที่สุดจากทิศทางเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้น รวมถึงกระแสเงินทุนที่ยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า
กลยุทธ์ : เก็งกำไร Laggard Play
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BCH, CPALL, IRPC, SCC, TMB
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$39ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$79ล้าน และอินโดนีเซีย US$71ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$97ล้าน และไทย US$34ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเลี่ยงความเสี่ยงต่อการยิงขีปนาวุธในคาบสมุทรเกาหลี ในวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นวันชาติเกาหลีเหนือด้วย
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ATP30 <<
กำไรจะฟื้นตั้งแต่ 3Q17 และมีโอกาสทำ new high หลังจากได้ลูกค้าใหม่ 3 ราย ทยอยรับรู้รายได้รายหนึ่งใน ก.ย. 17 อีก 2 รายรับรู้ต้นปีหน้า ส่วนค่าใช้จ่ายปรับปรุงรถก้อนใหญ่ใน 1H17 จะเหลืออีกเล็กน้อยใน 3Q17
กำไรทั้งปี 2017 น่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 22-23 ลบ. เพราะค่าปรับปรุงรถก้อนใหญ่ที่กดดันกำไรใน 1H17 แต่กำไรจะโตก้าวกระโดด 3-5 ปีข้างหน้าจากแรงหนุนของ EEC เพราะเป็นผู้ให้บริการรับ-ส่งพนักงานอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว (อมตะนครชลบุรี อมตะซีตี้ระยอง) และรอบนิคมฯในภาคตะวันออก
อิง PE 25-30 เท่าที่เป็นค่าเฉลี่ยระยะยาวของกลุ่มขนส่ง ราคาที่เหมาะสมเบื้องต้นจะอยู่ที่ 1.80-2.20 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ผลประชุม ECB เป็นไปตามตลาดคาด คือยังคงวงเงินซื้อสินทรัพย์ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนไปจนถึง ธ.ค. 17 ก่อนจะตัดสินใจอีกครั้งในการประชุมถัดไป (ต.ค. 17) ซึ่งตลาดมองว่ามีโอกาสลดวงเงินลงและต่ออายุถึงกลางปีหน้า และด้วยมุมมองที่เป็นบวกกับเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้เงินสกุลยูโรแข็งค่าและกดดัน Dollar Index ทำจุดต่ำสุดในรอบ 32 เดือน ถือเป็นปัจจัยบวกกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่มีโอกาสไหลเข้าตลาดเอเชีย
(+) การลงทุนไทยกำลังฟื้น กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นจะนำนักลงทุนรายใหญ่กว่า 500 รายในหลายอุตสาหกรรมเข้าพบนายกประยุทธ์และรับฟังนโยบายขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะโครงการ EEC และลงพื้นที่พบนักธุรกิจไทย ในโอกาสครบ 130 ปีความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในช่วง 11-13 ก.ย. นี้ กระตุ้นการลงทุนรอบใหม่ต่อยอดจากความสำเร็จของ Eastern Seaboard ที่ทำให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจที่ได้อานิสงส์เช่น นิคมฯ ยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โรงพยาบาล โรงเรียน อสังหาฯ เป็นต้น
(0) ต่างชาติกลับมา Short ใน Index Futures หนาแน่น กลับข้างกับช่วงก่อน 29 ส.ค. 17 ที่ SET กระชากยืนเหนือ 1600 จุด ตอนนั้นต่างชาติ Net Long 8.3 หมื่นสัญญาใน 6 วันทำการ แต่รอบนี้ 7 วันทำการล่าสุด ต่างชาติ Net Short ไปแล้ว 8 หมื่นสัญญา อย่างไรก็ตาม เรามองว่าไม่น่าใช่สัญญาณการพักตัวรุนแรงของ SET เพราะต่างชาติซื้อหุ้นมาตลอดทาง สถานะที่เห็นจึงเป็นการ Hedging ชั่วคราวเพื่อรอดูความชัดเจนในสหรัฐฯและยุโรปมากกว่าการ Short เพื่อเก็งกำไรขาลง
(+) ITEL เราปรับประมาณการกำไรปี 2017-2018 ขึ้น 3% และ 10% เป็น 132 ล้านบาท (+96% Y-Y) และ 206 ล้านบาท (+56% Y-Y) ตามลำดับ จากการรวมโครงการเน็ตชายขอบของ กสทช. มูลค่าราว 1.87 พันล้านบาท ส่งผลให้ราคาเป้าหมายปี 2017 ตามวิธี DCF เพิ่มขึ้นเป็น 7.20 บาท จากเดิม 7.00 บาท เรายังชอบ ITEL ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า จากแรงหนุนของภาครัฐฯ ที่ต้องการสนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจมากขึ้น และการเปลี่ยนมาใช้ Private Network ของภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้ PE ที่สูงราว 44 เท่าในวันนี้ลดเหลือเพียง 14 เท่าในปี 2021 เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ
(0) TPCH เรามองแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก จากการเริ่ม COD ของ 2 โรงไฟฟ้าใหม่ แม้มีการปรับประมาณการกำไรปกติปีนี้ลง 12% จากผลการดำเนินงาน 2Q17 ต่ำกว่าคาด และการเลื่อน COD ของโรงไฟฟ้า SGP ออกไป 2-3 เดือนเป็นปลาย 4Q17 แต่ยังโตสูง 46% Y-Y และคาดปี 2017-2019 โตเฉลี่ยปีละ 48% จากการทยอย COD โรงไฟฟ้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงทำให้ Upside เปิดกว้าง คงคำแนะนำซื้อลงทุนระยะยาว ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 21 บาท จากเดิม 22 บาท โดยมี Upside เพิ่มเติมจากโครงการรับซื้อไฟฟ้า SPP Hybrid 300 MW ที่คาดว่าจะประกาศผล 14 ธ.ค. 17
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8 ก.ย.
- จีน: ดุลการค้า
9 ก.ย.
- จีน: อัตราเงินเฟ้อ
13 ก.ย.
- สหรัฐฯ: ดัชนีราคาผู้ผลิต
14 ก.ย.
- จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
19-20ก.ย.
- สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบนำโดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มสื่อสาร เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายโดยเฝ้าจับตาสถานการณ์พายุ Irma ที่จะเข้าสู่รัฐฟลอริดา และ สถานการณ์ในวันชาติเกาหลีเหนือช่วงสุดสัปดาห์นี้
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขานรับผลการประชุม ECB ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และ คงมาตราการ QE จนถึงปลายปี
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบเล็กน้อยนำโดยตลาดญี่ปุ่นเนื่องจาก GDP 2Q17 ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนเฝ้าจับตาตัวเลขนำเข้า-ส่งออกจีนวันนี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งตัวในทิศทางแข็งค่าเล็กน้อย โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆแถว 33.04-33.06 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดลบ 0.07 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.09 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีปัจจัยกดดันมาจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 4.0 ล้านบาร์เรล และ มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับพายุ Irma ที่จะเข้าสู่รัฐฟลอริดาช่วงสุดสัปดาห์นี้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 11.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,350.30 ดอลลาร์/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research