- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 September 2017 17:54
- Hits: 2648
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> BJC, CRANE, SINGER
Stock S R Comment
BJC 46.00 51.00 ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เริ่มเห็น SSSG กลับมาเป็นบวกใน 3Q60
CRANE 3.64 4.18 คาดงานในมือหนุนกำไร 2H60 ส่งผลให้ทั้งปีเห็นกำไรยาวไปถึงปี 61
SINGER 11.80 13.00 คาด 2H60 รายได้ดีกว่าครึ่งแรกจากการขายของผ่าน Application
A benefit of low beta market
Volatility : ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงแรงกว่า 1% หลังนักลงทุนกังวลต่อประเด็นการทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนืออีกครั้ง จนมีการโยกย้ายเม็ดเงินเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น เช่น ทองคำ เงินเยน และพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นต้น
มุมมองของเรา : มองเป็นเพียง Noise รบกวนเช่นเดิม และประเมินว่าหากตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในวันนี้ ก็จะลงน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น เนื่องจากมีค่า Beta ที่ต่ำกว่าโดยเปรียบเทียบ โดยหากดู Performance ของ ETF หุ้นไทยเมื่อคืนนี้ พบว่าปรับตัวลงเพียง 0.4% เท่านั้น เทียบกับ ETF ของตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ปรับตัวลงถึง 1.8% นอกจากนั้นยังไม่พบสัญญาณผิดปกติในค่าเงินบาทแต่อย่างใด
Fund flow : มีสัญญาณเชิงบวกอีกครั้ง แต่เป็นในส่วนของตลาดตราสารหนี้ที่เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิไปถึง 23,000 ล้านบาท ถือเป็นยอดเกือบสูงสุดของปีนี้ และหากดูในช่วง 4 วันทำการหลังสุด จะพบว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 50,000 ล้านบาท หากยังไม่มีสัญญาณกลับ Position มองจะเป็นปัจจัยประคับประคองเงินบาทในระยะสั้น
USD : เงินดอลลาร์สหรัฐฯถูกกดดันตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้โดยมีสาเหตุหลักจาก 1) การแข็งค่าของเงินเยน และ 2) Comment ของคณะกรรมการ FOMC 3 คน ได้แก่ นาง Lael Brainard นาย Neel Kashkari และนาย Robert Kaplan ที่ออกมาในโทน Dovish แนะนำติดตาม Comment ของคณะกรรมการอีกหนึ่งท่านที่สำคัญได้แก่ นาย William Dudley รองประธาน Fed ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 8 กันยายนตามเวลาบ้านเรา
Oil : ราคาน้ำมันดิบดีดตัวสูงขึ้นทันทีเมื่อคืนนี้หลังมีข่าวว่าโรงกลั่นน้ำมันบางแห่งในสหรัฐฯได้เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง จนส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น ปัจจัยดังกล่าวทำให้ Crack spread และค่าการกลั่น GRM ปรับตัวลงทันที มองเป็นปัจจัยเชิงลบต่อกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมาจนอาจเผชิญแรงขายทำกำไรในระยะสั้นได้ โดยเฉพาะหุ้นที่มี YTD Performance ในระดับสูง ซึ่งหากเรียงตามลำดับได้แก่ SPRC, TOP, IRPC, PTTGC, BCP, ESSO มอง ESSO เป็นตัวที่ปลอดภัยสุดในกลุ่มนี้เนื่องจาก Laggard มากสุด และมี Valuation อยู่ในระดับต่ำ
กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงให้น้ำหนักสำคัญกับ Valuation ของ SET Index ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้นยังไม่เห็นสัญญาณการปรับประมาณการ EPS ขึ้นในตลาด ด้วยเหตุนี้ ณ ระดับดัชนีเหนือ 1600 จุดยังคงแนะนำถือเงินสดในระดับสูงกว่าปกติ แต่หากจำเป็นต้องลงทุน มองกลุ่มหุ้นปลอดภัยได้แก่ กลุ่ม Laggard เช่น กลุ่มส่งออก และ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
1) กลุ่ม Export-oriented ที่น่าจะได้ประโยชน์หากเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าในช่วงถัดไป ได้แก่ CPF, TU, HANA, SVI
2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่น่าจะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น ได้แก่ CK, STEC, UNIQ, SEAFCO
แนวรับ 1,612 แนวต้าน 1,628
Today's Event :
NSI XD 3.25 บาท
STA XR 5:1 @ 10.00 บาท
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]