- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 September 2017 17:38
- Hits: 1049
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางเป็นหลักเช่น III, ASIAN, WICE , KOOL และ PTG ในขณะที่หุ้นกลุ่มหลักใหญ่ที่มีแรงเก็งกำไรเด่นได้แก่ กลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC และ IVL โดยณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,620 จุด (+1.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.0 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติ ซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 ที่ 348 ลบ. ในขณะที่ Short สุทธิ SET50 Index Future ต่อเนื่องที่ 3,960 สัญญา
Investment theme
ปัจจัยในประเทศทรงตัว แต่ต่างประเทศน่าจับตา : ในช่วงนี้เรามองว่าตลาดได้ Priced in ปัจจัยในประเทศที่ไม่ดีไปแล้วบ้างส่วนสังเกตุจากใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มที่เคย Laggard อย่างกลุ่มค้าปลีก และ ICT เกิด Technical rebound ประมาณ 3.0% และ 6.6% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากปรับไปใช้เป้าหมายของ SET ในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่ระดับ EPS ที่ 107 เท่า บน PER 15.5x จะได้เป้าหมายของ SET ในอีก 12 เดือนข้างหน้าประมาณ 1,650 ซึ่งถือว่ามี Upside ไม่มากจากระดับปัจจุบัน ส่งผลให้เรามองว่าหุ้น Bigcap จะเริ่มแกว่งตัว ในขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กจะเริ่มกลับมีแรงเก็งกำไร ซึ่งเห็นได้ชัดว่าใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามีแรงเก็งกำไรเด่นในหุ้นขนาดกลาง-เล็กกว่าเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเราอยากให้นักลงทุนติดตามหลายปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นคาบสมุทรเกาหลี, การประชุม OPEC และ การประชุม FOMC ซึ่งจะส่งผลอย่างมีนัยยะต่อทิศทางตลาดหุ้น
Investment theme: สัปดาห์นี้ เราแนะเก็งกำไรกลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC และ IRPC ซึ่งคาดได้ประโยชน์จาก Product ต้นน้ำอย่าง Ethylene ประกอบกับ เราแนะเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กอย่าง SUPER, CKP, GPSC
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา Brent ปรับตัวขึ้นที่ 53.1 เหรียญ/บาร์เรล ภายหลังรมว.พลังงานรัสเซียเผยอยากให้ขยายเวลาลดการผลิตน้ำมันออกไปอีก ประกอบกับการเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่น / 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นความพยายามของรัฐที่จะช่วยกลุ่ม SME และ ผู้มีรายได้ต่ำ / ยุโรปรายงาน PMI ภาคบริการต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 54.7 ในขณะที่รายงานยอดค้าปลีกใกล้เคียงคาดที่ 2.6% / อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10ปีสหรัฐ ลดลงต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ 2.067 / ราคาทองคำปรับตัวสูงสุดในรอบปีที่ 1,339 เหรียญ/ ออนซ์ / จับตาพายุ Irma พัดตัวเข้า Florida
บทวิเคราะห์วันนี้ BCP
หากวันพฤหัสนี้ III มีราคาปิดมากกว่าเท่ากับ 8.20 บาท/หุ้น มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance
CPN จับมือ Tesco ตั้งบริษัทร่วมทุน
Stock pick : PTTGC
PTTGC เก็งกำไร @82.00 บาท
แนะนำเก็งกำไรกลุ่มปิโตรฯ จากประเด็นโรงงาน Ethylene ที่สหรัฐได้รับผลกระทบ คาดส่งผลบวกต่อผลิตภัณฑ์ PE
คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโตเด่น จากการใช้กำลังการผลิต Olefins (ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของกำไร) และน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งผลบวกต่อธุรกิจ Olefins ที่เป็น Gas based ในขณะธุรกิจการกลั่นเติบโตแรง จากค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้นกว่า 25% และ Stock gain / ในขณะที่ราคายางสังเคราะห์ (BD) ฟื้นตัว 4 สัปดาห์ต่อเนื่องจากจุดต่ำสุด 915 เป็น 1,365 เหรียญ/ตัน ถือเป็นอีกหนึ่ง sentiment
Trading idea – เก็งกำไรกลุ่มเหล็ก (TMT,THE) โดยเราคาดกำไรไตรมาส 3 ของกลุ่มนี้จะเติบโตเด่น / เก็งกำไร BCH จาก Upside risk ของประกันสังคมและ world medical / ถือ SPALI ต่อเพื่อเอา Warrant / ทยอยสะสม LPN (งบไตรมาส 3 ไม่ดีแต่เรามองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วบางส่วน )
แกว่งตัวออกข้าง รอเลือกทาง : กราฟรายชั่วโมงในช่วงเช้าดัชนียังคงแกว่งออกข้าง โดยประคองตัวอยู่เหนือแนวรับที่ 1615 ทำให้ระยะสั้นคาดจะแกว่งออกข้างในกรอบ 1615-1626 (High เดิม) เน้นเป็นการ Trading ในกรอบ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากกราฟรายสัปดาห์พบว่าขณะนี้เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ทำให้หากสัปดาห์นี้ดัชนีไม่สามารถผ่าน 1626 คาดดัชนีจะมีแนวโน้มของการพักตัว มองแนวรับที่ 1607 และ 1600 กลยุทธ์การลงุทน (1) Trading ในกรอบ 1615-1626 เน้น ขึ้นขาย-ลงซื้อ(2) ระยะกลาง Break 1626 Upside ด้านบนจะเปิดมากขึ้น
แนวรับ : 1610, 1615 แนวต้าน : 1626, 1637
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / / 6 ก.ย. รายงานตัวเลข PMI ภาคบริการ / การประชุม ECB วันที่ 7 ก.ย. / นักวิเคราะห์บางรายระบุเกาหลีเหนือมีโอกาสทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งวันที่ 9 ก.ย. (วันชาติ)
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
TRUE (B 5.70-5.80, Tp 6.40, Cut 5.60)
TOP (B 88.00, Tp 94.00, Cut 87.00)
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000