- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 September 2017 17:04
- Hits: 7519
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'แกว่งไม่หลุด 1600 ยังเลือกซื้อ/ถือต่อได้'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปิดทรงตัวที่ 1619.11 โดยตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น จึงเป็นการเลือกซื้อหุ้นรายตัวกระจายไปในกลุ่มต่างๆ นักลงทุนต่างชาติ & พอร์ตบล.ซื้อสุทธิ ส่วนสถาบันในปท. & รายย่อยขายสุทธิต่อ
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยต่างประเทศ – ตลาดหุ้นและโภคภัณฑ์สหรัฐปิดทำการในวันที่ 4 ก.ย.เนื่องในวันแรงงาน ส่วนดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเช้าวันนี้ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย (+0.04%) ส่วนตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งบวกและลบแต่ไม่มาก ปัจจัยติดตาม คือ ผลประชุม ECB ในวันพฤหัสที่ 7 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยและนโยบาย QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนไว้ก่อน และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งบางฝ่ายคาดว่าเกาหลีเหนืออาจยิงทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งในวันที่ 9 ก.ย.เพื่อเฉลิมฉลองวันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
ปัจจัยในประเทศ – การประมูลรถไฟทางคู่กำลังดำเนินการในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนก.ย.60 ซึ่งมีการทำ E-auction ไปแล้ว 2 สาย คือมาบกะเบา-จิระ โดยทาง ITD เสนอราคาต่ำสุดที่ 7.56 พันลบ.ต่ำกว่าราคากลาง 2% และสายลพบุรี-ปากน้ำโพ ซึ่ง UNIQ เสนอราคาต่ำสุดที่ 8.65 พันลบ. ต่ำกว่าราคากลาง 1.8% และจะมีประมูลอีก 2 งานในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้...หุ้นกลุ่มรับเหมาคึกคักขึ้นจากการที่มีประมูลงานใหม่ๆ ซึ่งหุ้นเด่นกลุ่มนี้ของ DBSV เป็น CK (ราคาพื้นฐาน 37 บาท) และ STEC (ราคาพื้นฐาน 30 บาท)
กลยุทธ์ลงทุน : ถือต่อ/ซื้ออ่อนตัวเมื่อดัชนีไม่ต่ำกว่า 1600 จุด...โดย Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มธุรกิจดี และราคายังมี Upside จากปัจจุบัน ส่วนหุ้นที่ราคาถึงเป้าหรือทะลุไปแล้วควรขายทำกำไร/หรือแบ่งขายทำกำไรบ้าง โดยเฉพาะคนเล่นรอบ…หุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ช่วง 30 ส.ค.- 5 ก.ย.60 เป็น BBL (Value Play) และ MINT (Growth Play) ส่วนหุ้น Top Picks ของเดือนก.ย.60 เราเลือกเป็น AMATA, CPN, MINT, TISCO และ Dark Horse เป็น SEAFCO
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวก เน้นซื้อตามค่าบวก แนวต้าน 1625-1630, 1650 จุด หลุด 1600 ดูไม่ค่อยดีอาจต้อง Stop loss ก่อน สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น DTAC, BCPG, WICE, KAMART, RS หุ้นยังอยู่ใน List คือ TMT, CK, SUPER, JAS, ASIAN, INTUCH หุ้นหลุด List คือ THANI ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น ADVANC
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• ยูโรโซน : ECB ประชุมวันที่ 7 ก.ย.นี้...คาดคงดอกเบี้ยและโครงการ QE ไปก่อน
ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะยังไม่ปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ECB มีกำหนดคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนธ.ค.60
•/- เกาหลีเหนือ : อาจทดสอบขีปนาวุธอีกรอบ 9 ก.ย.
# นายแฮร์รี่ คาเซียนิส ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักศึกษาด้านการป้องกันประเทศของศูนย์พิทักษ์ผลประโยชน์แห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจจะทำการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.นี้ เพื่อเฉลิมฉลองวันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
• ตลาดหุ้นและโภคภัณฑ์สหรัฐ : ปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน (4 ก.ย.)
# ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ในวันที่ 4 ก.ย.60 ปิดทำการ เนื่องในวันแรงงาน ส่วนดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส์ขยับบวกเล็กน้อย (+0.07%) ในเช้าวันนี้
• ราคาน้ำมันดิบ : BRENT อ่อนลงเล็กน้อย
เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบ BRENT ปิดที่ 52.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 9 เซนต์จากวันก่อนหน้า ทั้งนี้ปัจจัยที่ติดตาม คือ สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี โดยหากปัญหาลุกลามก็อาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันจากจีนเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• ธปท.เพิ่มวงเงิน 'FIF' ความต้องการล้น...ขยายเพดานเป็น 1 แสนล้านดอลล์
# ธปท.ผ่อนคลายกฎลงทุนต่างประเทศ โดยขยายวงเงินจัดสรรเพิ่มเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์ หวังส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ พร้อมผ่อนคลายกฎเกณฑ์แลกเปลี่ยนเงินของร้านรับแลกเงินเพิ่ม โดยให้ซื้อขายธนบัตรกับแบงก์ต่างชาติได้ตามเหมาะสม ด้านบลจ.เปิดเผยว่านักลงทุนสนใจลงทุนต่างประเทศเพิ่มต่อเนื่อง สะท้อนโดยการลงทุนผ่านกองทุน FIF 8 เดือนแรกของปี 60 เติบโต 18%
+ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : อยู่ในช่วงประมูลรถไฟทางคู่
# การประมูลรถไฟทางคู่กำลังดำเนินการในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนก.ย.60 ซึ่งขณะนี้ได้มีการเปิดประมูลไปแล้ว 2 เส้น เหลืออีก 1 เส้นและงานอุโมงค์ ซึ่งทาง DBSV เห็นว่าการประมูลรถไฟรางคู่ 2 เส้นทาง คือ มาบกะเบา-จิระ และลพบุรี-ปากน้ำโพ ซึ่งผู้ชนะคือ ITD และ UNIQ ตามลำดับนั้น ถือว่าได้ราคาที่ต่ำกว่าราคากลางไม่มาก คือ ประมาณ 2% ทำให้ความเสี่ยงเรื่องมาร์จิ้นต่ำน้อยลง เราคาดว่าการประมูลงานโครงการรัฐจะมีเข้ามาต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้รับเหมาจะมีงานใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม ขณะที่มูลค่างานในมือ หรือ Backlog ในปัจจุบันของแต่ละบริษัทก็สูงมากอยู่แล้ว สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างของ DBSV คือ CK และ STEC เนื่องจากมีมูลค่างานในมือที่มั่นคง และมีโอกาสได้งานใหม่ขนาดใหญ่เข้ามาต่อเนื่อง STEC มีฐานะการเงินดีมา โดยเป็นเงินสดสุทธิ แต่ CK มี Valuation ทั้ง P/E และ P/BV ที่ต่ำกว่า
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]