- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 September 2017 16:58
- Hits: 7460
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
CPNเข้าซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 75 และ 77 บาท
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,600-1,650
แม้ sentiment ตลาดหุ้นโลกอ่อนแอจากความกังวลต่อปัญหาเกาหลีเหนือ แต่ SET แข็งแกร่ง +0.04% ปิด 1,619.11 จุด ต่างชาติซื้อ 870 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
การขยายตัวเศรษฐกิจกระจายตัวดีขึ้น ทั้งการส่งออก การลงทุน ท่องเที่ยว และการบริโภค จะทำให้ GDP ไทยเติบโตใกล้เคียง potential เฉลี่ย 4.3% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำนาน, Valuation ที่ PE18 14.3x และการ Breakout แนวต้าน 1,590 จุดด้วยปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มองว่าภาวะตลาด "กระทิง" อาจมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป้าหมายระยสัปดาห์ 1,650 จุด
ทำอะไรดี:
การ "สร้างฐาน" อาจดำเนินต่อไป แต่เป็นโอกาส "ซื้อ":-
1."ซื้อ" DTAC (TP 70) การแข่งขันที่รุนแรงลดลง เป็น upside risk ต่อประมาณการกำไร ขณะที่ EV/EBITDA 2018 6.5x ต่ำกว่าเฉลี่ย 7.4x
2."ซื้อ" WHA (TP 4.0) ยอดขายที่ดินที่เร่งตัวใน 2H17, ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง, การขายสินทรัพย์เข้ากองฯมูลค่า 4.8 พันล้านบาทใน 4Q17 และการพิจารณากฎหมาย EEC.ลุ้นทะลุแนวต้าน 3.2 ไปที่แนวต้านถัดไป 3.28/3.40 บาท ขณะที่ยัง "ซื้อ" AMATA ต่อไป ราคาหุ้นยังต่ำ NAV มาก
3."ซื้อ" STEC ประมูลรถไฟรางคู่อีก 3 สัญญาสัปดาห์นี้ เป็น catalyst บวก
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ' BEAUTY EA KBANK KKP SAWAD STEC ต่อไป ขณะที่ "ซื้อ" AMATA PTT ESSO และ WHA เข้าพอร์ตแทน LIT MTLS THANI WORK (ดู Pathumwan Corner วันนี้เพิ่ม)
Fundamental:
เศรษฐกิจ: การขยายตัวของเศรษฐกิจกระจายตัวมากขึ้น จะส่งผลให้ GDP ขยายตัวใกล้เคียงกับ potential เฉลี่ย 4.3% ต่อปีในช่วง 2018-20F
WORK : 'ซื้อ' พื้นฐาน 95 บาท (เดิม 73 บาท)...ปรับกำไรปี 2017-18 ขึ้น 37-39% จากการขึ้นค่าโฆษณาเร็วกว่าคาด, รายได้จากสื่อ on-line แข็งแกร่ง และค่าใช้จ่ายการทำตลาดต่ำกว่าคาด มอง PE18 ที่ 27.7x ยังไม่แพง
กลุ่มรับเหมาฯ: "Overweight".UNIQ ชนะประมูลรถไฟรางคู่ลพบุรี-ปากน้ำพุ สัญญา2 มูลค่า 8.7 พันล้านบาท โดยสัปดาห์นี้จะมีประมูลอีก 3 สัญญา มูลค่า 3.23 หมื่นล้านบาท เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ ชอบ STEC และ SEAFCO และให้เป็น Top picks ขณะที่แนะนำ "ซื้อ" CK UNIQ ต่อไป
Pathumwan Corner : แม้คงมุมมองบวกต่อ SET เหมือนเดิม แต่แนะนำปรับพอร์ตรับตลาด "กระทิง" ที่อาจมาเร็วกว่าคาด "ซื้อ" AMATA PTT ESSO และ WHA เข้าพอร์ต แทน LIT MTLS THANI และ WORK (ยังแนะนำ "ซื้อ" พื้นฐานทั้ง 4 ตัว)
Technical Story: Technical SET range: 1,608-1,640
ลุ้นตังหลักซิกแซกขึนต่อ: (รายงาน The Technical Story)
SET มีลุ้นซิกแซกขึ้นต่อ มีด่านที่ 1,625 จุด ทะลุได้มีลุ้นทดสอบ 1,631 และ/หรือ 1,640 จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,613 จุด และถัดไปที่ 1,608 จุดแนะนำถือหุ้น Let Profit Run เพื่อแบ่งทำกำไรบริเวณ 1,650-60 จุด
หุ้นแนะนำ:
CPN เข้าซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 75 และ 77 บาท
WORK เข้าซื้อเพิ่มที่ 83.75 เมื่อทะลุ 85.25 บาท เป้าหมาย 92, 95
DTAC ซื้อเพิ่มที่ 56 หรือเมื่อทะลุ 57.5 เป้าหมาย 59 และ 62.5 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
'Let Profit Run' S50U17 เป้าระยะกลาง 1,060 Trailing Stop 1,020
'Long' Block Trade IVL เป้าหมาย 41.50 / 43 บาท..Leverage 14x
TradeCode: Buy > DTAC, BCPG, CPR
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับพอร์ตรับตลาด "กระทิง" ด้วยเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1,650 จุด และสิ้นปี 2018 ที่ 1,800 จุด แนะนำ "ซื้อ" AMATA PTT ESSO WHA เข้าพอร์ต แทน LIT MTLS THANI WORK ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) เศรษฐกิจเร่งตัว +4.0% ปี 2018 2) กำไร SET ทำจุดสูงสุดใหม่ปี 2018 และ 3) การเมืองมีเสถียรภาพ หนุนลงทุนภาครัฐฯ ต่อเนจื่อง และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยหลังปรับพอร์ตจะทำให้ Tactical Portfolio's beta ปรับสูงขึ้นเป็น 1.19x จากเดิมที่ 1.12x
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA : เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP : หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT : ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
Thai Strategy Team
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง