- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 September 2017 18:19
- Hits: 1696
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
เกาหลีเหนือทดลองระเบิดนิวเคลียร์
คาดหุ้นไทยปรับตัวลวันนี้ นักลงทุนทั่วโลกที่อยู่ในภาวะหลี่กเลี่ยงความเสี่ยงอีกครัง หลังจากเกาหลีเหหนือทดลองระเบิดนิวเคลียร์มีอนุภาพรุนแรงที่สุดที่เคยทดลองมา เป็นระเบอิดที่ใช้ติดหะวรบขีปนาวุธยิงไกลล่าสุด คณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะประชุมวันนี้ คาดจะออกมาตราการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือแบบเบ็ดเสร็จทั้งโลก ประธานาธิบดีทรัมป์ หารือการปฏิบัติการทางทหาร ที่ตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐออกมาอ่อนไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองการปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งของ Fed ภายในปีนี้ มีตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมออกมาแข็งแกร่งจาก ยูโรโซน จีน และญี่ปุ่น รัฐบาลไทยยังคงดำเนินความพยายามช่วยเหลือชาวนา และกระตุ้นเศรษฐกิจไปในเวลาเดียวกัน ล่าสุดออกมาตราการ 7.3 หมื่นล้าน เพื่อชะลอไม่ให้ชาวนารีบขายข้าวเปลือก เพื่อไม่ให้ข้าวล้นตลาด โดยชาวนาจะได้เงินค่าข้าวไปก่อนเลย แล้วค่อยมาหักลบค่ายุ้งฉางภายหลัง
หุ้นเด่นวันนี้ : AMATA (ราคาปิด 18.80 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 20.90 บาท)
AMATA เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC AMATA คาดว่าได้รับอานิสสงค์จาก EEC เราประมาณการยอดขายที่ดินปีนี้ 800 ไร่ แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกบริษัทจะมียอดขายที่ดินเพียง 170-180ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของไตรมาส 1-2 ที่เป็นช่วง SIow down แต่ใน่ชวงไตรมาส 3- ไตรมาส 4 การลงทุนของภาคเอกชนจะเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกเป็นอย่างมาก บริษัทต้องการจะเริ่มทยอยขายที่ดินมาก ๆ ในช่วงเดือน ต.ค. นี้ เนื่องจากเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ที่ภาครัฐได้ระบุไว้ว่าจะเห็นความชัดเจนและจะเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการ เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2560 และปี 2561 มีการเติบโต 43% YoY และ 46%YoY ตามลำดับ อัตราปันผลตอบแทน 3% ต่อปี มูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 20.90 บาท อิงตามค่า PER เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 13.4 เท่า Price Pattern ของ AMATA มีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน จากการเกิดทั้ง DaiIy, WeekIy, & MonthIy Buy SignaI เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ AMATA มีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 19.20 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 21.20 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ AMATA มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 17.20 บาท
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 0.32% YoY และ 0.17% MoM ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันและสินค้าที่ไม่ใช่อาหารที่สูงขึ้น ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 0.46% YoY สำหรับ 8 เดือนแรกดัชนีดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.56% และ 0.54% ตามลำดับ (Bangkok Post)
รัฐบาลอนุมัติวงเงินช่วยเกษตรกรมูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น (1) วงเงินเพื่อขยายเวลาชำระหนี้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจำนวน 2.1 หมื่นล้านบาท เป็นเงินช่วยเหลือสำหรับเกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งข้าวในระยะเวลาที่กำหนดไว้จำนวน 4 พันล้านบาท และ (3) เงินอุดหนุนจำนวน 4.8 พันล้านบาทสำหรับการเก็บเกี่ยวและการปรับปรุงคุณภาพข้าว (Bangkok Post)
บสย. มีแผนการช่วยเหลือ SMEs มากขึ้น บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กำลังจะหารือเกี่ยวกับโครงการค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 1.5-2.0 แสนล้านบาทกับกระทรวงการคลังเมื่อต้นเดือนตุลาคม เพื่อช่วยเหลือ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ได้ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึง (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่ได้ทำการทดลองมาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทางเปียงยางกล่าวว่าเป็นระเบิดไฮโดรเจนที่ออกแบบมาสำหรับ ICBM ใหม่ของพวกเขา ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ทรัมพ์ปฏิเสธที่จะมองข้ามแผนปฏิบัติการทางทหารและขู่ว่าจะตัดการค้ากับประเทศที่ทำธุรกิจกับเปียงยาง ในขณะที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งได้พบกันในงานประชุมสุดยอดผู้นำ BRICS (BRICS Summit) ในจีน ก็ได้ตกลงที่จะ "จัดการอย่างเหมาะสม" กับการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ (รอยเตอร์)
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดการประชุมในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการทดสอบนิวเคลียร์ล่าสุดของเกาหลีเหนือ ขณะนี้สภาพิจารณาไม่รับสินค้าส่งออกสิ่งทอของเปียงยางและการเดินทางเข้าออกเกาหลีเหนือ, ยุติการจัดหาน้ำมันให้กับรัฐบาลและทหาร, ป้องกันชาวเกาหลีเหนือจากการทำงานในต่างประเทศ และเพิ่มรายชื่อเจ้าหน้าที่ระดับของเกาหลีเหนือสูงลงในบัญชีดำเรื่องการระงับสินทรัพย์ (asset freeze) และห้ามการเดินทาง (traveI ban) (รอยเตอร์)
เงินเยนแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่น ๆ ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้จากปฏิกิริยาโต้ตอบโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนหลังจากเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ที่ทรงอานุภาพมากที่สุดของเกาหลีเหนือ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่แข็งแกร่งกระตุ้นความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าจะมีรายงานการจ้างงานในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 2.10% หลังจากการประกาศข้อมูลการจ้างงานแต่ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.16% หลังจากการประกาศข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง เพิ่มขึ้นจากที่ระดับ 2.12% เมื่อวันพฤหัส (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันศุกร์ หลังจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแทบไม่ส่งผลต่อนักลงทุนในการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ (Reuters)
การจ้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นมากติดต่อกัน 2 เดือน การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง (Reuters)
การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างสหรัฐลดลงผิดคาด 0.6% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.21 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนเนื่องจากการลงทุนภาครัฐลดลง โดยที่ตัวเลขในเดือนก.ค. ลดลงตามตัวเลขในเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการทบทวนแล้วว่าลดลง 1.4% นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. หลังจากตัวเลขก่อนหน้าในเดือนมิ.ย. ที่ลดลง 1.3% อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1.8% YoY (Reuters)
ภาคการผลิตสหรัฐขยายตัวมากขึ้นในเดือนส.ค. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เผยว่าดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 58.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 (ISM)
ภาคการผลิตสหรัฐเติบโตชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 59 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายของมาร์กิตอยู่ที่ระดับ 52.8 ในเดือนส.ค. ลดลงเล็กน้อยจากที่ระดับ 53.3 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเป็นสัญญาณว่าสภาวะการผลิตปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วสหรัฐ (IHS Markit)
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติการปรับเพิ่มเพดานหนี้เพื่อทำให้มีงบสำหรับกรณีพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ซึ่งเป็นหายนะที่ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสเผยว่าได้สร้างความเสียหายมูลค่าถึง 1.80 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ได้คร่าชีวิตผู้คนประมาณ 50 ราย ทำให้ผู้คนต้องย้ายที่อยู่อาศัย 1 ล้านราย และสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน 2 แสนหลัง โดยมีเส้นทางที่ถูกทำลายยาวกว่า 300 ไมล์ (480 ก.ม.) (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปเริ่มต้นเดือน ก.ย.ด้วยการปิดบวก หลังจากปรับตัวลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตลาดปรับตัวขึ้นนำโดยภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มมีเดียถูกหนุนโดยอัพเดตจากหุ้น Vivendi (Reuters)
ภาคการผลิตยูโรโซนเติบโตแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ปี 54 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเดือน ส.ค.อยู่ที่ 57.4 ปรับตัวขึ้นจาก 56.6 ในเดือน ก.ค. และอยู่ในระดับเดียวกับเดือน มิ.ย. ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 74 เดือน โดยดัชนียืนอยู่เหนือ 50 จุดมา 50 เดือนติดต่อกันแล้ว (IHS Markit)
เอเชีย :
ดัชนี PMI ญี่ปุ่นในเดือน ส.ค. แข็งแกร่ง: Nikkei Japan Manufacturing PMI ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 52.2 จุดในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 52.1 จุดในเดือนกรกฎาคม ทำสถิติยืนเหนือระดับ 50.0 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน (IHS Markit)
ดัชนี PMI จีนยังคงขยายตัวในเดือนสิงหาคม ดัชนี Caixin China Manufacturing PMI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 51.6 จุดในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นจาก 51.1 จุดในเดือนกรกฎาคม ชี้ให้เห็นถึงการดำเนินงานภาคการผลิตในภาพรวมที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ภาคการผลิตของจีนความเข้มแข็งขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยตัวเลขล่าสุดถือเป็ฯการปรับตัวดีขึ้นนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ (IHS Markit)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปเริ่มต้นเดือน ก.ย.ด้วยการปิดบวก หลังจากปรับตัวลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตลาดปรับตัวขึ้นนำโดยภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มมีเดียถูกหนุนโดยอัพเดตจากหุ้น Vivendi (Reuters)
ภาคการผลิตยูโรโซนเติบโตแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ปี 54 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเดือน ส.ค.อยู่ที่ 57.4 ปรับตัวขึ้นจาก 56.6 ในเดือน ก.ค. และอยู่ในระดับเดียวกับเดือน มิ.ย. ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 74 เดือน โดยดัชนียืนอยู่เหนือ 50 จุดมา 50 เดือนติดต่อกันแล้ว (IHS Markit)
เอเชีย :
ดัชนี PMI ญี่ปุ่นในเดือน ส.ค. แข็งแกร่ง: Nikkei Japan Manufacturing PMI ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 52.2 จุดในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 52.1 จุดในเดือนกรกฎาคม ทำสถิติยืนเหนือระดับ 50.0 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน (IHS Markit)
ดัชนี PMI จีนยังคงขยายตัวในเดือนสิงหาคม ดัชนี Caixin China Manufacturing PMI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 51.6 จุดในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นจาก 51.1 จุดในเดือนกรกฎาคม ชี้ให้เห็นถึงการดำเนินงานภาคการผลิตในภาพรวมที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ภาคการผลิตของจีนความเข้มแข็งขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยตัวเลขล่าสุดถือเป็ฯการปรับตัวดีขึ้นนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ (IHS Markit)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากโรงกลั่นบางแห่งที่ปิดตัวก่อนหน้าจากเหตุการณ์พายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ทำให้ลดความกังวลเรื่องการขาดแคลนน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น 2 เซนต์อยู่ที่ 52.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้น 1 เซนต์อยู่ที่ 47.24 ดอลลาร์ (Reuters)
ราคาทองคำตลาดจรแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 0.9% อยู่ที่ 1 ,335.90 ดอลลาร์เช้าวันนี้ ขณะที่เมื่อวันศุกร์ ราคาทองคำตลาดจรปรับขึ้น 0.2% อยู่ที่ 1,324.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.6% อยู่ที่ 1,330.40 ดอลลาร์ เนื่องจากรายงานการจ้างงานสหรัฐเดือน ส.ค.เติบโตช้ากว่าคาด (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No. 14543) Tel: 0-2680-5056