- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 September 2017 16:44
- Hits: 1461
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความหวังใหม่จากทรัมป์
คาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามหุ้นสหรัฐจากความหวังใหม่ต่อทรัมป์ที่จะผลักดันแผนปฏิรูปภาษีออกมาให้ได้ภายในสิ้นปี แม้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและเงินเฟ้อสหรัฐจะชะลอตัวลง แต่การตัดสินใจของ Fed เรื่องดอกเบี้ยอยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศคืนนี้มากกว่า ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นบวกส่วนใหญ่ ดัชนี MPI เพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค. เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนมากจากการส่งออกที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ธปท.แถลงเศรษฐกิจไทยเดินหน้าในเดือน ก.ค. ผลักดันโดยส่งออก ที่สำคัญการลงทุนของรัฐวิสาหกิจโต 30% ใน 7 เดือนแรกของปี บ่งชี้การลงทุนขนาดใหญ่เริ่มจริง ๆ แล้ว
หุ้นเด่นวันนี้ : MTLS (ราคาปิด 34.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 41.00 บาท)
เราคาด บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง จะสามารถทำกำไรนิวไฮรายไตรมาสต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี หนุนโดยช่วงไฮซีซั่นและการขยายสาขา ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจำนวนสาขาไว้ที่ 2,200 สาขา แต่ล่าสุดบริษัทสามารถบรรลุเป้าดังกล่าวแล้ว และนับจากนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนสาขาที่ปีละ 600 สาขา เพื่อให้ถึง 4,000 สาขาภายในปี 63 เราคาดสินเชื่อปี 60 ของ MTLS จะเติบโตถึง 70% และจะเติบโตที่ราว 40% ในปี 61-62 แม้บริษัทจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่เราคาดอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ปี 60 จะอยู่แค่เพียง 1.2% ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage ratio) คาดว่าจะอยู่สูงถึง 271% ซึ่งระดับการตั้งสำรองที่ค่อนข้างสูงนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถรองรับสถานการณ์ไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้
รวมถึงมาตรฐานทางบัญชีใหม่ IFRS 9 ด้วย นอกจากนั้นแล้ว เรามองว่าความกังวลในประเด็นที่ MTLS อาจมีการผิดนัดชำระตั๋ว B/E และมีการเพิ่มทุน เริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากบริษัทมีเงินทุนเพียงพอ ทั้งเงินสดในมือและวงเงินจากธนาคาร รวมถึงมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 64.0% ในปี 60 และ 44.4% ในปี 61 Price Pattern ของ MTLS ยังมีคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด MonthIy Buy SignaI โดยหาก Price Pattern ของ MTLS สามารถปิดตลาดได้เหนือ 34 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด DaiIy Buy SignaI ครั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้ Price Pattern ของ MTLS ระยะสั้นกลับมามีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ MTLS มีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 36.50 บาท โดยในรอบที่แล้ว Price Pattern ของ MTLS มีระดับปิดสูงสุดอยู่ที่ 36 บาทเท่านั้น (Resistance: 34.25, 34.50, 34.75; Support: 33.75, 33.50, 33.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
งบประมาณปี 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาทผ่านมติวาระ 3 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้มีลงมติประกาศใช้งบประมาณรายจ่าย วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ 2561 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีนี้ (Bangkok Post)
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 3.7% YoY เป็น 109.16 เนื่องจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในหลายกลุ่ม เช่น รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ อย่างไรก็ตามดัชนี MPI ในช่วง 7 เดือนแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.62% YoY ซึ่งบ่งชี้ว่ายังมีความเสี่ยงอยู่บ้างในช่วงที่เหลือของปี (Bangkok Post)
ภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ค. ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนจะชะลอตัวก็ตาม ตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 2.3% ชะลอตัวลงจากระดับ 3.4% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นผลมาจากการหดตัวของรายได้เกษตรกร อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโดยภาพรวมขยายตัวต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคมโดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของการส่งออกและการท่องเที่ยว (Bangkok Post)
การลงทุนของรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น 30% YoY ในช่วง 7 เดือนแรกของปี โดยมีการเร่งลงทุนในโครงการที่มีอยู่และโครงการใหม่ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคและเงินเฟ้อชะลอตัวและความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือทำให้เกิดความต้องการซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 2.121% จากที่ระดับ 2.145% เมื่อวันพุธ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อวันพฤหัส หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาไม่น่าประทับใจ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดลดลง 0.2% สู่ระดับ 92.690 และลดลงติดต่อกัน 6 เดือนในเดือนส.ค. (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่และยังพอมีความหวังเกี่ยวกับคำสัญญาล่าสุดของรัฐบาลเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีที่รอคอยมานาน (Reuters)
มีการปฏิรูปภาษีภายในสิ้นปีนี้นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเผยว่ารัฐบาลมีแผนปฏิรูปภาษีที่ลงลึกในรายละเอียดแล้ว และกำลังผลักดันให้มีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ เมื่อวานนี้ปธน.ทรัมป์ได้ย้ำถึงการปรับลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 15% จากเดิมที่ 35% (Reuters)
การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดเล็กน้อยในเดือนก.ค.และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวมากที่สุดรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนก.ค.หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% นอกจากนี้ ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้นเพียง 1.4% ในช่วง 12 เดือนถึงเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 58 ดัชนีดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าเป้าเงินเฟ้อของเฟดที่ 2% เป็นเวลา 5 ปีแล้ว (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่หุ้น Carrefour ฉุดกลุ่มค้าปลีก อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนตลาดคือ การที่เจ้าหน้าที่ ECB หลายๆ คนเริ่มออกมากังวลในค่าเงินยูโรที่แข็งค่า ซึ่งทำให้โอกาสที่ธนาคารกลางจะหยุดการเข้าซื้อพันธบัตรช้าลงไป (Reuters)
เอเชีย :
บริษัทญี่ปุ่นชะลอการลงทุนในโรงงานและเครื่องจักรในไตรมาส 2/60 ส่งผลให้รัฐบาลอาจปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/60 ทั้งนี้รายจ่ายลงทุนในไตรมาส 2/60 เพิ่มขึ้น 1.5% YoY ชะลอตัวลงจาก 4.5% YoY ในไตรมาส 1/60 เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตเครื่องจักรลดลง โดยประมาณการเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 4.0% ในปีที่แล้วในไตรมาส 2/60 (Reuters)
พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดประชุมใหญ่ทุกๆ 5 ปีในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ เป็นโอกาสที่ประธานาธิบดี Xi Jinping จะแสดงอำนาจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อที่ประชุมพรรค นอกจากนี้นาย Xi Jinping จะแสดงวิสัยทัศน์ของเขาในอีกห้าปีข้างหน้าโดยให้ความสำคัญกับหัวข้อการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย และการปราบปรามคอรัปชั่น (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นใกล้ 3% ขณะที่ราคาเบนซินปรับตัวขึ้นมากกว่า 13% เนื่องจากมีการปิดกำลังการกลั่นน้ำมันในสหรัฐเกือบ 25 % ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.27 ดอลลาร์ (+2.8%) อยู่ที่ 47.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ (+3.0%) อยู่ที่ 52.38 ดอลลาร์ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐนำน้ำมันในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาใช้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อวานนี้ โดยปล่อยน้ำมันดิบออกมา 1 ล้านบาร์เรลให้แก่โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐหลุยเซียนา (Reuters)
ราคาทองปรับตัวขึ้นวานนี้ เนื่องจากดอลลาร์ร่วงลง และความกังวลที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐ ราคาทองคำตลาดจรปรับขึ้น 0.8% อยู่ที่ 1,319.31 ดอลลาร์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.6% อยู่ที่ 1,322.20 ดอลลาร์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No. 14543) Tel: 0-2680-5056