- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 September 2017 16:36
- Hits: 1093
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Defensive /SMID CAP
Smart Pick
1. สะสม TPIPP : ราคาปิด 7.35 บาท ราคาเหมาะสม 8.20 บาท
a) ประกาศเงินปันผล 2Q60 หุ้นละ 0.10 บาท ขึ้น XD วันที่ 12 ก.ย. คิดเป็น Dividend Yield 1.3% และคาดการณ์เงินปันผลอีก 2 ไตรมาสที่เหลือของปี 2560 ไตรมาสละ 0.10 บาท คิดเป็น Yield 2.6%
b) เซ็น PPA โรงไฟฟ้าขยะ 90MW กับกฝผ.ในวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับค่าไฟฐาน +Adder 3.50 บาท เป็นระยะเวลา 7 ปีและมีกาหนดเริ่มต้นขายไฟวันที่ 2 ต.ค.2560 ดังนั้น จึงประเมินว่ากาไรสุทธิ 4Q60 จะทาระดับสูงสุดใหม่ของบริษัทได้อีกครั้ง
c) Growth สูง และเงินปันผลเด่น คาดการณ์กาไรสุทธิปี 2561 เติบโต +108% YoY เป็น 6,478 ล้านบาท และให้ Dividend Yield สูงถึง 5% ต่อปี รวมทั้งมี Valuation ที่น่าสนใจ ที่ระดับ PER2561 เพียง 9.5 เท่า
2. สะสม TKS : ราคาปิด 13.30 บาท ราคาเหมาะสม 17.90 บาท
a) ทิศทางกาไรสุทธิ 2H60 จะเติบโต +11% HoH และขยายตัว +47% YoY เป็น 333 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้งานวางระบบให้กับไฟฟ้าลาว, เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจงาน Packaging ใหม่ และเข้าสู่ High Season โรงพิมพ์
b) ผลักดันให้กาไรสุทธิปี 2560 เติบโต +31% YoY เป็น 400 ล้านบาท และต่อเนื่อง +18% YoY เป็น 474 ล้านบาทในปี 2561 นอกจากนั้น ยังมี Upside Risk จากธุรกิจใหม่ๆเกี่ยวข้องกับ Packaging ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการกาไรของเรา
c) Valuation ถูก ที่ระดับ PER2560 เพียง 12.0 เท่า และลดลงเหลือ 10.1 เท่าในปี 2561 และให้ Dividend Yield สูงถึงปีละ 6%
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 2.82 จุด ปิดที่ 1616.16 จุด ในขณะที่หุ้นที่ขึ้น XD วานนี้ กดดันตลาดราว 3.3 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big lot หุ้น PTT มูลค่า 1.27 พันล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก 1.9 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิราว 1.8 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 2.4 พันสัญญา นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันรวมกว่า 6.8 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 2.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมามีสถานะ Short สุทธิราว 1.7 พันสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
เราประเมิน SET INDEX วันนี้แกว่งแคบระหว่าง 1,610-1,620 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ลดลง เนื่องจากเป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ นักลงทุนต้องการรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในคืนนี้ อีกทั้งเม็ดเงินทุนต่างชาติที่ชะลอในตลาดหุ้น แต่กลับ Short สุทธิใน SET50 Index Futures ตลอด 3 วันทาการที่ผ่านมา รวมถึงสถาบันภายในประเทศเริ่มทยอยขายทากาไรเช่นกัน ทาให้มองว่า Upside จากัด
ทั้งนี้เรามองว่ากลุ่มโรงกลั่นจะยังคงเด่นในแง่ของการเก็งกาไร ตามค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูง จากผลกระทบพายุเฮอริเคนฮาร์วี่ โดยค่าการกลั่นหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ปิดยืนเหนือ US$10/barrel ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เรามองว่า IRPC ที่มีความเป็น Laggard ของกลุ่มยังมีความน่าสนใจ
นอกจากนี้ติดตามผลการประมูลรถไฟรางคู่วันนี้ ว่าราคาที่ชนะการประมูลต่ากว่าราคากลางมากน้อยเพียงใด เพราะน่าจะมีผลต่อการประมูลในสัปดาห์หน้า และการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นของกลุ่มรับเหมาฯ
ภาพในสัปดาห์หน้า เรามีมุมมองเป็น 'กลาง' มีปัจจัยหลักเพียงการประชุม ECB เราเชื่อว่าจะคงนโยบายการเงินเช่นเดิม แม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออียูจะเร่งตัวขึ้น แต่ก็ยังต่ากว่าเป้าหมายที่ 2.0%
กลยุทธ์การลงทุน 'สะสม' หุ้น Defensive เพื่อปิดความเสี่ยงที่ตลาดแกว่งออกด้านข้าง และหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว
ปัจจัยสาคัญวันนี้
โรงกลั่นในสหรัฐฯต้องปิดทาการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ผลกระทบจากพายุฮาร์วี่
เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค. ได้รับแรงหนุนจากการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว แต่การบริโภคในประเทศยังคงชะลอตัว
วันนี้ ติดตามสหรัฐฯรายงานอัตราว่างงานและการจ้างงานนอกภาคการเกษตรการประมูลรถไฟทางคู่เส้นทางมาบกะเบา-จิระ สัญญา 1 และเงินเฟ้อไทย
ปัจจัยสาคัญในสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงาน GDP 2Q60 EU วันที่ 5 ก.ย. ตลาดคาดขยายตัว 2.2%
ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 7 ก.ย.
ติดตามการประมูลรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง วันที่ 4 ก.ย., 5 ก.ย., และ 7 ก.ย.
ติดตามการรายงาน มูลค่าการนาเข้า-ส่งออก จีน และ GDP ญี่ปุ่น 8 ก.ย.
นายกรัฐมนตรี เยือนประเทศจีน คาดมีกาหนดเจรจาสัญญารถไฟฟ้าไทย
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research ,662-009-8050
Padon Vannarat Strategist ,662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist ,662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Assistant Strategist