- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 September 2017 16:35
- Hits: 1058
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงเก็งกำไรกระจายรายหุ้นเช่น BJC, CPF, WORK และ SUPER ส่งผลให้ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,616 จุด (+2.8 จุด) ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 5.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติ ซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 ที่ 1,857 ลบ. และ Short สุทธิ SET50 Index Future ต่อเนื่องสูงถึง 2,392 สัญญา
Investment theme
กันยายน เรามีมุมมองเป็นกลางต่อปัจจัยในประเทศ ในขณะปัจจัยต่างประเทศมีหลายเรื่องให้ติดตาม : ในช่วงเดือนกันยายนเรามองว่า SET จะแกว่งตัวบริเวณ 1,595-1,620 โดยเรามองว่านักวิเคราะห์อาจเริ่มชะลอการปรับประมาณการ EPS ของ SETภายหลังปรับลงมาต่ำที่สุดในรอบปีที่ 100.38 ในขณะที่เราเริ่มเห็นรัฐบาลเริ่มออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐผู้มีรายได้น้อยสูงกว่า 11 ล้านคน และการเตรียมออกมาตราการช่วยเหลือ SME ส่งผลให้เรามองว่าปัจจัยกดดันการลงทุนในประเทศจำกัด อย่างไรก็ตามปัจจัยต่างประเทศยังมีหลายเรื่องที่น่ากังวล เช่นปัญหาคาบสมุทรเกาหลี(ระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือ), การประชุม OPEC (ส่งผลต่อทิศทางราคาน้ำมัน) , การประชุม FOMC ซึ่งคาดว่าจะตัดสินใจการลดขนาดงบดุลของ FED และการเลือกตั้งของเยอรมัน ซึ่ง 4 เรื่องดังกล่าวจะเป็นตัวกำหนดทิศทางเงินทุนโลกซึ่งยากที่จะคาดเดา ส่งผลให้เราแนะนำนักลงทุนเปลี่ยนกลยุทธ์มาเก็งกำไรระยะสั้นขึ้น พร้อมมีจุด Take profit , cutloss ที่ชัดเจน
Investment theme: เรามองว่าหุ้นขนาดใหญ่ จะเริ่มพักฐาน โดยเราแนะนำให้นักลงทุนเริ่ม Switch จากหุ้นใหญ่ มายังหุ้นขนาดกลาง-เล็ก อย่าง CKP, EA, SUPER และ ยังคงแนะนำ Let profit run หุ้นกลุ่ม 5 โรงต่อ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ยุโรปรายงานตัวเลข Core CPI เดือนส.ค.เท่ากับที่คาดที่ 1.2% ในขณะที่ สหรัฐรายงาน Core PCE เดือนก.ค. เท่ากับที่คาดที่ 1.4% และรายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานใกล้เคียงกับที่คาดที่ 236,000 ตำแหน่ง / Brent ปรับตัวขึ้นที่ 52.8 เหรียญ/บาร์เรล / ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 10.56 เหรียญ/บาร์เรล / Mnuchin รมว.คลังของสหรัฐออกมาระบุ แผนปฎิรูปภาษีน่าจะแล้วเสร็จช่วงธันวาคม
วันนี้ III เข้าซื้อขายวันแรก
Opp.day วันนี้ BJCHI, NVD, TSR, NCH, TMILL, SGP, BRR
BCP ประกาศจายปันผลระหว่างการสูงกว่าคาดที่ 1.05 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่อง XD วันที่ 12 ก.ย.
Stock pick : TPIPP
TPIPP ซื้อสะสม @ THB 8.50
เรามองว่าตลาดฯ มีโอกาสปรับเป้าปันผลเพิ่มขึ้น ภายหลังประกาศจ่ายครึ่งปีสูงถึง 0.20 บาท/หุ้น โดยวันที 2 ตุลาคมนี้ บริษัทฯจะเริ่ม COD (adder 3.50 บาท) ในโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ (TG6) และความร้อนทิ้ง (TG4) สูงกว่า 100mw. และในไตรมาส4 จะ COD เพิ่มอีก 220mw .ในโครงการ TG7,8 (โรงไฟฟ้าถ่านหินและขยะ) ส่งผลให้คาดกำลังการผลิตร่วมจะทำระดับสูงสุดถึง 440mw. โดยคาดกำไรปี 2560 ที่ 3.0พันล้านบาท เติบโต 69 %YoY
ราคาหุ้นแกว่งใน Sideway มานานกว่า 1 เดือน เรามองว่าเป็นโอกาสซื้อสะสม รับปันผลระหว่างกาลที่ 0.10 บาท/หุ้น (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12 ก.ย.) ส่งผลให้ Yield ทั้งปีอาจสูงกว่า 5.0%
Trading idea – 3 หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ คือ BEM, CKP, TU / เก็งกำไร SUPER ต่อ ซึ่งเรามองว่าราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อน Capacity กว่า 760 mw. และล่าสุดราคาหุ้น Break 1.33 ถือเป็นบวกในภาคเทคนิค แนะเก็งกำไร (1.40-1.50) /
Technical View
ดูการแกว่งเป็นกรอบๆ : หลังจากดัชนีเกิด Evening Star วานนี้ดัชนีไม่ได้ปรับตัวลงเพื่อคอนเฟิร์มสัญญาณเชิงลบดังกล่าว ทำให้เรามองว่าดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทะลุแนวต้านกรอบ 1620 เพื่อขึ้นไปแกว่งในกรอบ 1620-1637 โดยมีแนวต้านย่อยระหว่างทางที่ 1626 (High ล่าสุด) ซึ่งต้องพิจารณาแรงขายประกอบ หากดัชนีมีแรงซื้อที่ไม่แข็งแกร่งมากพอ อาจย่อและกลับมาแกว่งในกรอบ 1600-1620 อีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุน (1) มีหุ้นเน้น: Let Profit Run ไปทำกำไรตามแนวต้าน (2) ไม่มีหุ้น: รอซื้อที่แนวรับช่วงจังหวะพักตัว เพื่อ Trading ระยะสั้น
แนวรับ : 1590, 1600 แนวต้าน : 1620, 1637
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / ยูรรายงาน GDP ไตรมาส วันอังคารที่ 5 ก.ย. / 6 ก.ย. รายงานตัวเลข PMI ภาคบริการ /
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
CPALL (B 61.00-61.50, Tp 63.50//65.00, Cut 60.00)
PTT (B 390.00//393.00, Tp 408.00, Cut 386.00)
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
