- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 31 August 2017 16:10
- Hits: 2426
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อค่าบวก/ถือเมื่อ SET ยังเหนือ 1600'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : PSH (จากถือเป็นซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index พักตัว ปิดตลาดทรงๆ ที่ 1613.34 โดยมีการขายทำกำไรหุ้นที่ปรับขึ้นแรงแต่ระยะลงยังไม่มาก ทำให้ Index ยังอยู่เหนือแนวฟิวเตอร์ที่ 1600 จุดได้อยู่ เมื่อวานนี้หุ้นขนาดกลางบางตัวขยับบวกได้ (ที่เราแนะนำไปได้แก่ COM7, ORI, ANAN, AP, SEAFCO, STEC) สถาบันในปท.ขายสุทธิ 2.4 พันลบ. พอร์ตบล.ซื้อสุทธิ 2 พันลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิ 676 ลบ.
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยต่างประเทศ – ตัวเลขศก.สหรัฐออกมาดีเกินคาด ทั้งประมาณการ GDP ครั้งที่ 2 ของงวด 2Q60 ที่ +3.0% (ตลาดคาด +2.7%) และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.ที่เพิ่มถึง 2.37 แสนตำแหน่ง ส่งผลให้ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้น ทางด้านเกาหลีเหนือให้ข่าวว่าการยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่นวันก่อนเป็นการโหมโรงก่อนยิงโจมตีเกาะกวมต่อ ส่วนทรัมป์ก็ทวีตตอบโต้ทำนองว่าการเจรจากับเกาหลีเหนืออาจไม่ใช่ทางออก ปัจจัยติดตาม 1. การแถลงนโยบายภาษีของทรัมป์ที่รัฐมิสซูรี่ และ 2. ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่จะออกมาศุกร์นี้ถ้าไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนตำแหน่งก็ถือว่าเป็นไปตามคาด
ปัจจัยในประเทศ – เลขาธิการ EEC ระบว่าร่างพ.ร.บ. EEC จะเข้าพิจารณาในสนช.ต้นเดือนก.ย.และประกาศเป็นกฎหมายได้ปลายปี 60 ซึ่งเป็นบวกกับกลุ่มนิคมฯ โดยหุ้นที่เด่นสุดจะเป็น AMATA ที่มีที่ดินพร้อมขายในพื้นที่ภาคตะวันออกมากถึง 1 หมื่นไร่ เราแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 22 บาท ด้านกลุ่มไฟแนนซ์ ประเมินว่า MTLS จะมีการเติบโตที่สดใสต่อเนื่องในปี 60-61 โดยมาจากการขยายสาขาประมาณปีละ 600 แห่ง สภาพคล่องการเงินยังดี ด้าน NPL ratio ก็คาดว่าจะไม่เกิน 1.5% ทางฝ่ายวิจัยฯ DBS แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 42 บาท กลุ่มธนาคาร เห็นว่าสินเชื่อ 2H60 จะโตดีขึ้น หลังการใช้จ่ายและลงทุนรัฐและเอกชนขยับดีขึ้นเมื่อใกล้ปิดปีงบประมาณ และบจ.หันมากู้แบงค์เพิ่มเพราะตลาดหุ้นกู้และตั๋ว B/E ซบเซาลงไปหลังมีกรณี IFEC & EARTH แบงค์ใหญ่ชอบ BBL, KBANK แบงค์เล็กเป็น KKP, TISCO
กลยุทธ์ลงทุน : อยากถือลุ้นต่อ/ซื้ออ่อนตัวมีเงื่อนไขว่าดัชนีไม่ควรหลุด 1600 จุด...การซื้อเน้น Selective Buy โดยพิจารณาจากแนวโน้มธุรกิจดีและราคายังมี Upside จากปัจจุบัน ส่วนหุ้นที่ราคาถึงเป้าหมายตามพื้นฐานหรือทะลุไปแล้วควรขายทำกำไร/หรือแบ่งขายทำกำไรไปบ้าง (ตามหลักของการ Rebalancing)…หุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ช่วง 30 ส.ค.- 5 ก.ย.60 เป็น BBL (Value Play) และ MINT (Growth Play)
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ตลาดเป็นบวก เน้นซื้อตามค่าบวก แนวต้าน 1620-1630 จุด หลุด 1600 ดูไม่ค่อยดีอาจต้อง Stop loss ก่อน สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น TCMC, CKP, RS, TMT, ROBINS, CBG หุ้นยังอยู่ใน List คือ WORK, AMATA หุ้นหลุด List เป็น TASCO, BTS ส่วนหุ้นแนะนำที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น SQ, TCAP, EA
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
+ สหรัฐ : ประมาณการครั้งที่ 2 ของจีดีพี 2Q60 เติบโตสูงกว่าคาด
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ประจำไตรมาส 2/2560 ว่า +3.0% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ +2.6% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ +2.7%
+ สหรัฐ : การจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นดีกว่าที่ประเมินไว้
# การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 237,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้การจ้างงานที่เพิ่มเกือบทั้งหมดมาจากภาคบริการ ซึ่งมีการจ้างงานเพิ่ม 204,000 ตำแหน่ง ขณะที่การจ้างงานในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 16,000 ตำแหน่ง ภาคก่อสร้างเพิ่มการจ้างงาน 18,000 ตำแหน่ง ส่วนภาคเหมืองแร่จ้างงานลดลง 1,000 ตำแหน่ง
• ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดัชนีปิดบวกหลังจีดีพี
# ดัชนี DJIA ปิด +27.06 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 ปิด +11.29 จุด หรือ +0.46% ดัชนี Nasdaq ปิด +66.42 จุด หรือ +1.05% ตอบรับประมาณการครั้งที่ 2 ของเศรษฐกิจสหรัฐ 2Q60 ที่เติบโตดีเกินคาด (+3.0%) และการจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.ของสหรัฐสูงกว่าที่ประเมินไว้ อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของตลาดจำกัดด้วยความกังวลสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่อาจจะตึงเครียดขึ้นหลังธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความวานนี้ว่า "สหรัฐพูดคุยกับเกาหลีเหนือมาเป็นเวลานานถึง 25 ปี ดังนั้นการพูดคุยจึงไม่ใช่คำตอบ"
# ติดตาม 1. การแถลงนโยบายภาษีของปธน.ทรัมป์ที่เมืองสปริงฟิลด์ รัฐมิสซูรี ซึ่งตอนหาเสียง ทรัมป์ได้เสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงมาอยู่ที่ระดับ 15% จากระดับ 35% เพื่อกระตุ้นศักยภาพด้านการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจสหรัฐ และ 2. ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ที่จะออกมาศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่ม 180,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น และคาดอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%
- ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 48 เซนต์ หรือ -1.0% ปิดที่ 45.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ -2.2% ปิดที่ 50.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะกังวลพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ที่ทำให้การกลั่นน้ำมันลดลง โดยการปิดโรงกลั่นชั่วคราวเพราะเหตุนี้กระทบปริมาณการผลิต 3.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือเกือบ 1 ใน 5ของปริมาณการกลั่นน้ำมันทั้งประเทศ
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาลดลงแต่ยังไม่หลุด 1,300 US$/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,314.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน US$ แข็งค่าขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2/59 เติบโตสูงเกินคาดและมีแนวโน้มดีต่อในไตรมาส 3
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
+ ร่างพ.ร.บ. EEC จะเข้าพิจารณาในสนช.ต้นเดือนก.ย.นี้
# เลขาธิการครศ. หรือ EEC กล่าวว่าร่างพ.ร.บ.พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกจะถูกเสนอให้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. พิจารณาในต้นเดือนก.ย.60 และจะน่าประกาศเป็นกฎหมายได้ในปลายปี 60 ซึ่งจะดึงนักลงทุน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเข้ามา
# ความเห็น : เป็นบวกกับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โดยหุ้นที่เด่นสุด คือ AMATA ซึ่งมีพื้นที่นิคมฯพร้อมขายในภาคตะวันออกจำนวนมากถึง 1 หมื่นไร่ โดยได้ประโยชน์ทั้งจากปริมาณขายที่จะแข็งแกร่งและราคาขายที่สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนเปลี่ยนแปลงไม่มาก มาร์จิ้นธุรกิจก็ดีขึ้นด้วย นอกจากนั้นยังมีบริษัทอื่นที่จะได้รับประโยชน์ด้วย เช่น ROJNA, WHA เป็นต้น
+ บอร์ด PPP เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีลงทุน 1.6 ล้านล้านบาท
# บอร์ด PPP เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) เห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์ลงทุนระยะ 5 ปี (2560-2564) มูลค่ารวม 1.62 ล้านล้านบาท ประกอบไปด้วย 55 โครงการ ได้แก่ การลงทุนระบบขนส่งมวลชนทางรางในเมือง, พัฒนาถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทางในเมือง, พัฒนาท่าเรือสาธารณะสำหรับขนส่งสินค้า, พัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง และกิจการที่รัฐส่งเสริมให้เอกชนร่วมทุน (เช่น พัฒนาถนนที่มีการเก็บค่าผ่านทางระหว่างเมือง โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข การพัฒนาท่าอากาศยาน เป็นต้น)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]