- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 31 August 2017 16:00
- Hits: 2412
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,595-1,620
SET 'ย่ำฐาน' หลังปรับสูงขึ้นแรง ปิด -0.05% ที่ 1,613.34 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อต่อ 2.1 พันล้านบาท
เรามองอย่างไร:
SET อาจ'ย่ำฐาน'บ้างหลังปรับสูงขึ้นแรงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ แต่ไม่น่ากังวล และมี downside จำกัดที่ คงมุมมอง "บวก" ต่อเนื่องล่าสุดคลังฯ มีแนวโน้มปัรบเป้าหมายการเติบโต GDP ขึ้น ขณะที่ FTSE จะ Rebalance ดัชนีอ้างอิงวันที่ 15 ก.ย.นี้ โดยมี WORK และ EA ถูกเพิ่มในการคำนวนดัชนี
ทำอะไรดี:
SET 'ย่ำฐาน' วันนี้มีจังหวะหุ้นขนาดกลางสลับเป็น "กลุ่มนำ"
1.'ซื้อ'กลุ่มหุ้นที่ FTSE เพิ่มน้ำหนักลงทุนวันที่ 15 ก.ย.นี้, momentum กำไรดี และพื้นฐานแข็งแรง อย่าง EA และ WORK
2.'ซื้อ' กลุ่มนิคมฯ แม้เป็นหุ้นขนาดกลาง แต่จะได้ผลดีจากการนำกฎหมาย EEC เข้า ครม.ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ชอบ AMATA และ WHA
3.'ซื้อ'กลุ่มโรงกลั่นฯ ผลกระทบจากพายุ "ฮาร์วีย์" ส่งผลโรงกลั่นสหรัฐฯ หยุดผลิต ส่งผล GRM เพิ่มขึ้นสูงกว่า USD10/bbl ชอบ ESSO ที่ยัง laggard โรงกลั่นอื่นมาก, TOP ที่เป็นเป้าหมายซื้อของต่างชาติ และ PTTGC (XD วันนี้) ที่คาดการณ์กำไร 2H17 เติบโตแกร่ง รวมไปถึง PTT ที่ได้รับผลดีจากกำไรหุ้นลูกที่ดีขึ้น
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ'BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
AP: "ซื้อ" พื้นฐาน 9.70 บาท (เดิม 8.60 บาท)...การร่วมมือพัฒนาคอนโดฯ กับ partner ส่งผล presale ทำจุดสูงสุดใหม่ แนะนำ "ซื้อ" จาก 1) การร่วมลงทุนกับ partner หนุน presale เติบโตแข็งแกร่ง 2) ส่วนแบ่งรายได้จาก JV เพิ่ม backlog การรับรู้รายได้ในอนาคต 3) อัตรากำไรสูงขึ้น รวมถึง ROE และ 4) ด้วยกำไรเติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปีช่วง 2017-20F และ valuation ไม่แพงที่ PE18 7.2x และผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.9-4.9%
Today's News:
FTSE: จะ Rebalance ดัชนี้วันที่ 15 ก.ย.นี้ โดย EA และ WORK ถูกเพิ่มในการคำนวนดัชนี ขณะที่ BH (จาก Large cap เป็น Mid cap) MBKET ถูกถอดจากการคำนวน
GDP 2Q17 สหรัฐฯ: ขยายตัว 3.0% สูงกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ 2.6% และดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 2.7% เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวแข็งแกร่ง ขณะที่ GDP ไทย ล่าสุดคลังมีโอกาสปรับเป้าหมายขึ้นสูงกว่า 3.6%หลังภาคการส่งออกแข็งแกร่ง รวมไปถึงการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาฟื้นตัวได้ดี
Technical Story: Technical SET range: 1,596-1,650
ลุ้นซิกแซกขึ้นต่อ: (รายงาน The Technical Story)
SET มีลุ้นซิกแซกขึ้นต่อ มีด่านที่ 1,625 จุด ทะลุได้มีลุ้นทดสอบ 1,630 และ/หรือ 1,650 จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,605 จุด และถัดไปที่ 1,596 จุดแนะนำถือหุ้น Let Profit Run ต่อเนื่อง และหาจังหวะซื้อเพิ่มช่วงพักตัว
หุ้นแนะนำ:
CPN เข้าซื้อ เป้าหมาย 75 และ 77 บาท
KBANK รับเพิ่มที่ 200 เป้าหมาย 207 บาท
IRPC รอรับเพิ่มที่ 5.70 บาท เป้าหมาย 6.50 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
'Let Profit Run'S50U17 เป้าระยะกลาง 1,060 Trailing Stop 1,010
'Long' BlockTrade CPALL เป้าหมาย 64 บาท...Leverage 25x
TradeCode: Buy >CPALL, PLANB, TRC
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +0.9% ดีกว่า SET ที่ปรับสูงขึ้น +0.6% ในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้แม้ว่า BEAUTY จะให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หรือ -3.2% แต่มองเป็นโอกาส "ซื้อ" ด้วยแนวโน้มกำไรที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ขณะที่ SAWAD KKP และ EA ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือปรับสูงขึ้น 5.3%, 3.0% และ 2.9% ตามลำดับ...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI WORK
'ซื้อ' KKP (TP 77).แนะนำ "ซื้อ" KKP ต่อเนื่อง มีโอกาสปรับสูงขึ้นไปที่จุดสูงสุดเดิมที่ 75 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การประกาศจ่ายเงินปันผล 2 บาท/หุ้น XD วันที่ 5 ก.ย.นี ให้ผลตอบแทนสูง 2.9% และจะทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ KKP 2) กทพ.ยินยอมที่จะโอนสัญญาโอน และรับสิทธิโอนในรายได้ โครงการทางพิเศษฉลองรัช และบูนพาวิถี เพื่อโอนรายได้ในอนาคต 45% ให้กองทุน Thailand Future Fund เป็นเวลา 30 ปี เป้าหมายระดมทุนภายในปีนี้เป็น catalyst บวกต่อการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมใน 2H17
KKP - มีจังหวะ "ซือ" ลุ้นกลับไป high เดิมที่ 75 บาท
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA: ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA : เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP : หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT : ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979