- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 August 2017 15:32
- Hits: 932
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยกระทบตลาด
SET INDEX เมื่อวานนี้ปิดบวกที่ 1614.14 จุด (+28.35จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.5 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยในประเทศ เราเห็นการเข้าซื้อสุทธิของต่างชาติอย่างมีนัยยะโดยซื้อสุทธิในตลาดหุ้นกว่า 4.9 พันล้านบาท หลังเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นซึ่งเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่าตั้งเป้าการเติบโตของ GDP ไว้ที่ 3.5 - 4% รวมถึงเป้าการส่งออกไม่ต่ำกว่า 5%
ปัจจัยต่างประเทศ DJIA เมื่อคืนนี้ปิดบวก 56.97 จุด (+0.26%) เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมามากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 13 เซนต์ ที่ 46.44 (+0.3%) เนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" ส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมันในสหรัฐอาจชะลอตัวลง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้
มองกรอบการเคลื่อนไหว 1605 - 1624 แม้มีโอกาสถูกขายทำกำไรระยะสั้น แต่เชื่อว่าภาพรวมยังได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ หลังการเมืองคลี่คลาย กอปรกับตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น เราคงให้น้ำหนักไปกับหุ้นกลุ่มนำตลาดที่น่าเป็นเป้าหมายของ Fundflow โดยเฉพาะกลุ่ม Laggard ที่ยังคงปรับตัวขึ้นน้อยกว่าดัชนี อาทิเช่น CPALL , TOP , PTT , LH , BANPU , TU , CBG , PTTEP , SCCC , HMPRO , MINT , IRPC ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นเพียง 3% เทียบกับค่าเฉลี่ยหุ้นในกลุ่ม SET 50 ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 4% โดยเรายังคาดหวังเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจะเข้ามาต่อเนื่องเนื่องจากปัจจุบัน
SET INDEX ยังคง Laggard ตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP อย่างมากโดยตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปรับตัวขึ้นกว่า 16% และ ตลาดหุ้นอินโดนีซียปรับตัวขึ้นกว่า 11% ขณะที่บ้านเราปรับตัวขึ้นเพียง 2% หากมาพิจารณาในแง่ของ Valuation ปัจจุบัน SET INDEX ซื้อขายเพียง 16.9xTrailing P/E (Jakarta index 24.2x , Philippine stock exchange 21.7x) ทำให้คาดว่า SET INDEX จะยังคงเป็นเป้าหมายการซื้อของนักลงทุนต่างชาติต่อไป
Stock Pick by CGS
MINT (Non-Coverage) คาดผลประกอบการ 2H17 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องและจะเติบโตได้เด่นในช่วง 3Q17 จะได้รับผลดีจากโรงแรมที่โปตุเกสจะเข้าสู่ช่วง High Season ในส่วนของธุรกิจอาหารคาดว่าจะกลับมาเติบโตใน 4Q17จากการบริโภคที่มีแนวโน้มฟื้นตัว โดยผู้บริหารออกมาเปิดเผยว่าบริษัทมั่นใจว่าจะทำกำไรสุทธิในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 15-20% และยังเชื่อมั่นว่าระยะยาว 5 ปี จะเติบโตในทิศทางเดียวกันขณะที่บริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 4 หมืนล้านบาทเน้นโดยเน้นขยายธุรกิจที่มีใจปัจจุบัน 3 หมื่นล้าน ส่วนอีก 1 หมื่นล้านบาทจะเป็นงบสำหรับซื้อกิจการโดยทาง Bloomberg Consensus ให้ราคาเหมาะสมที่ 44 บาท
Analyst: สิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง
ID Registration No.017618 [email protected]
Assistant analyst: วทัญ จิตต์สมนึก