- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 August 2017 15:56
- Hits: 3705
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,570-1,590
SET ปรับสูงขึ้นแกร่ง +0.63% ปิด 1,585.79 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นที่ 3.9 หมื่นล้าน แม้นักลงทุนต่างชาติยังขาย 1.9 พันล้านบาท
เรามองอย่างไร:
การทดสอบขีปนาวุธเช้านี้กดดัน sentiment ตลาดหุ้นภูมิภาค และ Dow Jones Futures เช้านี้ อย่างไรก็ดีมองกระทบตลาดหุ้นไทยจำกัด แนวรับ 1,580 +/- จุด...ขณะที่คงมุมมอง "บวก" ต่อตลาดหุ้นไทยต่อไป จาก 1) การเมืองมีเสถียรภาพ 2) Valuation "ไม่แพง" ที่ PE 14x ปีหน้า 3) Momentum แข็งแกร่ง โดย SET50 ทำจุดสูงสุดใหม่ของปี ชอบกลุ่มโรงกลั่น (ESSO IRPC - ค่าการกลั่นสูง US$9/bbl) นิคมฯ (AMATA WHA) โรงแรม (MINT ERW) รวมถึง EA
ทำอะไรดี: 1.'ซื้อ' หุ้นโรงกลั่น ล่าสุดค่าการกลั่นสูง US$9/bbl โดยพายุ "ฮาร์วีย์" ส่งผลกระทบโรงกลั่นสหรัฐฯ หยุดกำลังการผลิต 10-13% ของกำลังการผลิตทั่วประเทศ ชอบ ESSO (PE ต่ำ 6x) PTTGC และ IRPC 2."ซื้อ" รับเหมาฯ และ กลุ่มนิคมฯ มองนโยบายพัฒนาพื้นที่ EEC มีความต่อเนื่อง และเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานปลายปี "ซื้อ" AMATA (PE18 11.2x) WHA (PE18 14x) และ STEC SEAFCO
3.'ซื้อ'กลุ่มโรงแรม ERW MINT กำลังเข้าสู่ช่วง high season ใน 4Q17
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ' BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
EA: 'ซื้อ' พื้นฐาน 43.0 บาท...มีความมั่นในต่อธุรกิจ energy storage 50GWh เพิ่มขึ้น หลังประกาศแผนลงทุนสถานีชาร์จ battery สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 1000 แห่งในช่วง 2018-19 ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตกำไรในระยะยาว...ขณะที่กำไร 3Q17 คาดว่าจะขยายตังแกร่งจากกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม หาดกังหันเพิ่มขึ้น 126MW
IVL : 'ซื้อ' พื้นฐาน 46 บาท...ประกาศหยุดการผลิตโรงงาน EO และ MEG ขนาด 550k ตัน/ปี ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา มองกระทบกำไรจำกัดโดยมองว่าจะหยุดการผลิตไม่กี่วันเท่านั้น และในกรณีที่ต้องปิดโรงงาน 1 เดือนจะกระทบกำไร 300 ล้านบาท หรือ 2.4% ของกำไรปีนี้เท่านั้น
Pathumwan Corner : เริ่มเห็น upside จากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี และกำไรกลุ่มพลังงานแข็งแกร่ง แนะนำ "ซื้อ" CK JWD และ JMT เข้า Revision Portfolio
Today's News:
KBANK: ซื้อหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน ในอินโดฯ (ใหญ่อันดับ 72) ถือหุ้น 9.99% ด้วยเงินลงทุน 600 ล้านบาท
Technical Story: Technical SET range: 1,573-1,600
มีลุ้นขึนต่อทดสอบ 1,600 จุด: (รายงาน The Technical Story)SET และ SET50 ทะลุขึ้นมาดี มีลุ้นขึ้นต่อทดสอบด่าน 1,591 จุด ทะลุได้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,600 จุด ส่วนแนวรับกรณีแกว่งตัวมีที่ 1,581 และถัดไปที่ 1,578 และ/หรือ 1,573 จุดตามลำดับ
หุ้นแนะนำ:
TISCO เข้าซื้อ เป้าหมาย 77 และ 78.50 บาท
GGC เข้าซื้อ เป้าหมาย 16.50 บาท
STEC ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 26.75 และ 29 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)"ถือ" สถานะ Long S50U17 เป้าหมาย 1,024.Trailing Stop 998 "Long" BlockTrade BANPU เป้าหมาย 18 บาท...Leverage 12x TradeCode: Buy >IVL, TMB, ESSO
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +0.9% ดีกว่า SET ที่ปรับสูงขึ้น +0.6% ในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้แม้ว่า BEAUTY จะให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หรือ -3.2% แต่มองเป็นโอกาส "ซื้อ" ด้วยแนวโน้มกำไรที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ขณะที่ SAWAD KKP และ EA ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือปรับสูงขึ้น 5.3%, 3.0% และ 2.9% ตามลำดับ...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI WORK
'ซื้อ' KKP (TP 77).แนะนำ "ซื้อ" KKP ต่อเนื่อง มีโอกาสปรับสูงขึ้นไปที่จุดสูงสุดเดิมที่ 75 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การประกาศจ่ายเงินปันผล 2 บาท/หุ้น XD วันที่ 5 ก.ย.นี ให้ผลตอบแทนสูง 2.9% และจะทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ KKP 2) กทพ.ยินยอมที่จะโอนสัญญาโอน และรับสิทธิโอนในรายได้ โครงการทางพิเศษฉลองรัช และบูนพาวิถี เพื่อโอนรายได้ในอนาคต 45% ให้กองทุน Thailand Future Fund เป็นเวลา 30 ปี เป้าหมายระดมทุนภายในปีนี้เป็น catalyst บวกต่อการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมใน 2H17
KKP - มีจังหวะ "ซือ" ลุ้นกลับไป high เดิมที่ 75 บาท
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA: ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA: เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC: มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE: ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP: หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT: ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC: ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK: ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979