- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 August 2017 15:37
- Hits: 1586
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม Defensive และ Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,590 จุดซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดไว้ โดยได้อานิสงส์จากหุ้น Big Cap ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งจากสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงทั้งด้านการเมืองในประเทศ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นจากพายุเฮอริเคนในสหรัฐฯ ขณะที่ FED และ ECB ยังไม่ส่งสัญญาณเพิ่มเติม แม้นักลงทุนต่างชาติจะยังขายสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันอีกราว 2 พันลบ. แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์สต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 เช่นกันอีก 3.4 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เรายังคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Down พักฐานในกรอบ 1,580-1,585 จุด โดยมีปัจจัยกดดันได้แก่การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นเมื่อเช้าตรู่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบพลิกกลับมาปรับลงค่อนข้างแรงจากผลของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ที่ซึ่งทำให้คาดว่าสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในระยะสั้น ขณะที่เม็ดเงินส่วนใหญ่เชื่อว่าจะไหลเข้าพักในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ เงินเยน และฟรังก์สวิสในระยะนี้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม Defensive และ Laggard Play
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : EKH, EPG, ITEL, MTLS, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$154ล้าน นำโดยไต้หวัน US$80ล้าน และไทย US$58ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$6ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงหลังเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามเกาะญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BANPU <<
ผลประกอบการ Turnaround คาดกำไรปกติปีนี้ +226% ส่วนแนวโน้ม 3Q17 คาดยังโตโดดเด่นทั้ง Q-Q และ Y-Y โดยเฉพาะจากธุรกิจถ่านหินที่ได้ประโยชน์ทั้งจากราคาและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น
ราคาหุ้น Laggard โดย 3QTD +5% ขณะที่ ราคาถ่านหิน +22% และ หุ้น ITMG (BANPU ถือหุ้น 65.14%) +14%
PE2017 อยู่ที่ 8.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและภูมิภาค Downside จึงจำกัด โดยมี Margin of safety สูง 28% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 24 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) คาบสมุทรเกาหลีกลับมาตึงเครียด ตลาดเอเชียร่วงลงเฉลี่ย 0.7% หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธหลายลูกตกใกล้น่านน้ำญี่ปุ่น กระแสเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าหา Safe Haven หนุนเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ เยน และราคาทองคำปรับตัวขึ้นพร้อมกันเฉลี่ย 0.3%
(+) Commodity plays ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกฟื้น Flash PMI เดือน ส.ค. ของประเทศหลักๆสะท้อนว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในยูโรโซนที่ดีขึ้นมาก ญี่ปุ่นฟื้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป สหรัฐลดลงแต่ยังสูงกว่าในอดีต ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการส่งออกของหลายประเทศ รวมถึงไทยที่ฟื้นต่อเนื่องหลายเดือน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับดอลลาร์อ่อนค่า เป็นบวกต่อราคา Commodity แนะนำถ่านหิน (BANPU) โรงกลั่น (IRPC) น้ำมัน (PTTEP) เคมีภัณฑ์ (GGC) แต่ไม่แนะนำสินค้าเกษตรเพราะ oversupply
(+) กลุ่มโรงกลั่น ได้อานิสงส์จากโรงกลั่นน้ำมัน Deer Park ของ Shell ปิดชั่วคราวเช่นเดียวกับโรงกลั่นอื่นๆในเมืองฮุสตัน หลังพายุเฮอร์ริเคน Harvey พัดเข้ารัฐเทกซัส รวมถึงฤดูพายุที่ยาวไปถึงปลาย ต.ค. ส่งผลให้ค่าการกลั่นสิงคโปร์ยังทรงตัวในระดับสูง US$8+/- ต่อบาร์เรล ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นใน 3QTD ปรับขึ้นเฉลี่ย 12% โดย IRPC (+6.5%) และ PTTGC (+8%) laggard กว่ากลุ่ม และเหลือ upside มากกว่ากลุ่ม จึงน่าสนใจกว่า IRPC ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท PTTGC ราคาเป้าหมาย 80 บาท
(+) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การประมูลรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทางที่เหลือ ซึ่งมีมูลค่า 6 หมื่นล้านบาท จะเริ่มประมูลในช่วง 1-7 ก.ย. นี้ ศุกร์นี้เป็นเส้นทางมาบกะเบา-จิระ 2 สัญญาๆ ละ 8.28 พันล้านบาท เป็น Sentiment บวกต่อผู้รับเหมารายหลักอย่าง CK, STEC, ITD, UNIQ และผู้รับเหมางานฐานรากอย่าง SEAFCO
(+) PCSGH เราเริ่มต้นด้วยคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท อิง PE เฉลี่ยในอดีตที่ 20 เท่า คิดเป็น Implied PEG เมื่ออิงอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 3 ปีข้างหน้าที่ 18% ต่อปี เท่ากับ 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.7 เท่า ปัจจัยหนุนระยะสั้นอยู่ที่กำไรสุทธิที่โตแรงกว่ากลุ่ม เพราะฐานที่ต่ำและเริ่มส่งมอบชิ้นส่วนกลุ่ม Non-Auto อัตรากำไรสูง ขณะที่ ระยะยาวกำลังยกระดับไปผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2017 +69% Y-Y และ +18% ต่อปีในปี 2018-2020 ส่วนตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรและฐานะทางการเงินยังแกร่งกว่ากลุ่มในทุกมิติ และคาดปันผลทั้งปีนี้สูงถึง 5%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29 ส.ค. - ไทย: Opp Day GPSC TVD FTE CNT CHO AH LALIN
29-30 ส.ค. - ไทย: Thailand Focus 2017
30 ส.ค. - สหรัฐ: 2Q17 GDP, การจ้างงานภาคเอกชน (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
1 ก.ย. - จีน: Caixin Manufacturing PMI (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ (ส.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดทรงตัว แม้มีปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจ และ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ดัชนีถูกกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และ ประกันภัยเนื่องจากผลกระทบพายุฮาร์วีย์
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดนำโดยกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันตามราคาน้ำมันสืบเนื่องจากผลกระทบพายุฮาร์วีย์ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มส่งออกยังถูกกดดันจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าหลังการประชุมที่ Jackson Hole
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดมาในแดนลบเนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี หลังช่วงเช้าวันนี้เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลอยข้ามทวีปญี่ปุ่น
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ยังแกว่งตัว sideway ในกรอบแคบๆ ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.19-33.21 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดลบ 1.30 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 46.57 ดอลลาร์/บาร์เรล สืบเนื่องจากความกังวลผลกระทบของพายุฮาร์วีย์ ซึ่งล่าสุดทำให้มีโรงกลั่นหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการส่งผลให้อุปสงค์ของน้ำมันดิบลดต่ำลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 17.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,315.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหลังผลการประชุม Jackson Hole และ ผลกระทบของพายุฮาร์วีย์ที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research9-8-17