WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRAบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ทิศทางตลาด
  Sideway? โดยคาดยังมีความผันผวน แม้ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ และสุนทรพจน์ของประธานเฟด และประธาน ECB จะไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับนโยบายการเงิน ตามที่ตลาดคาดหมายไว้ แต่ไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมตลาด 
  อย่างไรก็ตามคาดตลาดส่วนใหญ่ให้น้ำหนักไปที่ยังประเด็นความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ ที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ Shutdown หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการจัดทำงบประมาณการชั่วคราว รวมถึงงบประมาณสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก และการดำเนินงานนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การปฏิรูปภาษี เป็นต้น 


  ทางด้านปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ เช่นกัน แต่คาดยังได้รับ Sentiment ที่เริ่มเป็นลบ จาก Fund Flow ซึ่งภาพรวมยังมีความผันผวน จากแรงซื้อ/ขายสุทธิสลับกัน และ YTD พลิกกลับเป็นยอดขายสุทธิสะสม 2,737 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเงินบาท ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องในรอบเกือบ 2 ปี ส่วนราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับ 45 - 50 USD/bbl คาดส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEP เป็นต้น
  ส่วนประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีการเลื่อนฟังคำพิพากษาจาก 25/8/60 เป็น 27/9/60 หลังอดีตนายกฯ ไม่มาฟังคำพิจารณา


และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR เป็นต้น 
  (2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น BBL, KBANK 
  (3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
  (4) กลุ่มพลังงาน เช่น TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น และ PTT ที่ผลการดำเนินงานยังมีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง
  (5) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง 2Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น MONO และ WORK  
  (6) กลุ่มท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว เช่น CENTEL, MINT
  (7) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว เช่น AOT ส่วนที่ได้รับผลดีจากดัชนีค่าระวางเรือที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง เช่น PSL


SET SET50 SET100
1,575.85 -0.11 1,003.17 -0.39 2,249.52 -1.33


ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด 
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+/-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +30.27, NASDAQ -5.67, S&P +4.08, FTSE -5.60, CAC -8.80 และ DAX -12.89 หลังสุนทรพจน์ของประธานเฟด ล่าสุด ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต เช่นเดียวกับประธาน ECB ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้


  ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน – ก.ค. ลดลง 6.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงมากสุดนับแต่ส.ค.’57 และต่ำกว่าที่คาดว่าจะลดลง 6.0% และยังคงได้รับปัจจัยกดดันจาก ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ ทั้งการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ และการดำเนินงานนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการปฏิรูปภาษี ที่ล่าสุดส่งสัญญาณที่ดี โดยปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จะเริ่มต้นทำการรณรงค์เกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีในสัปดาห์นี้


P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.72 1.9 3.06

ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 32,003.29
สถาบัน 50.37
บัญชีหลักทรัพย์ 18.73
ต่างประเทศ -436.51
ในประเทศ 367.41

  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.17%(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) 
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.95 อยู่ที่ 11.28
  หุ้นแนะนำ : TOP

 นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์  โทร. 02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!