- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 August 2017 16:41
- Hits: 1925
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและหุ้น Defensive Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบแม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวขึ้นได้พอสมควร โดยแรงซื้อส่วนใหญ่ยังคงมาจากฝั่งสถาบัน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นหนักขึ้น แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์สค่อนข้างหนาแน่น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เรายังคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways เช่นเดิม โดยมีปัจจัยกดดันเล็กน้อยหลังทรัมป์ขู่ว่าจะยอมให้เกิด Government Shutdown หากสภาฯไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูการประชุมประจำปีของธนาคารกลางโลกที่แจ็คสันโฮล 24-26 ส.ค. ในเรื่องการส่งสัญญาณด้านนโยบายการเงินโดยเฉพาะของ FED และ ECB ส่วนในบ้านเรายังต้องติดตามคำตัดสินของศาลฯคดีรับจำนำข้าววันพรุ่งนี้ ซึ่งแม้จะยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่ระยะสั้นอาจส่งผลในเชิง Sentiment
กลยุทธ์ : ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและหุ้น Defensive Play
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : EKH, EPG, ITEL, MTLS, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$88ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$109ล้าน และอินโดนีเซีย US$27ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$61ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอลงเพื่อรอคำแถลงของ Fed และ ECB ในวันศุกร์นี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TMB <<
TMB เป็นหุ้นที่เราแอบปลื้มในกลุ่มแบงก์ เพราะ (1) สินเชื่อขยายตัวดีสุด (2) รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (3) จัดการต้นทุนทางการเงินและ NPL ได้ดี เราคาดกำไร 3Q17 ที่ 2.4 พันลบ. +3% Q-Q, +30% Y-Y ส่วนทั้งปีคาด 9.8 พันลบ. +17% Y-Y
P/BV อยู่ที่ 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.2 เท่า และราคาหุ้นเคลื่อนไหว Laggard โดย SETBANK ขึ้น 3% ใน 3 สัปดาห์ล่าสุด แต่ TMB แทบไม่ขยับ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.84 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เชื่อว่าคำตัดสินของศาลคดีจำนำข้าวไม่กระทบตลาดหุ้น เพราะไม่ว่าจะตัดสินอย่างไร ทั้งอัยการสูงสุด (โจทก์) และน.ส.ยิ่งลักษณ์ (จำเลย) สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันโดยไม่ต้องมีหลักฐานใหม่ ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะใช้สิทธิดังกล่าว ขั้นตอนการพิจารณาอุทธรณ์น่าจะใช้เวลาอีกเป็นปี
(0) ขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 27 เดือนในเดือน ก.ค. ช่วยบรรเทาการแข็งค่าของค่าเงินบาท แต่ไม่สามารถสรุปได้ว่าการบริโภคในประเทศเร่งตัวจนผู้ประกอบการต้องขยายการลงทุน เพราะสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็คทรอนิคส์ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ มาประกอบเพื่อส่งออกอีกทอด โดยการส่งออกในเดือนนี้ที่ +10.6% Y-Y นอกเหนือจากเป็นสินค้าเกษตร (ฐานต่ำในปีก่อน) ก็เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์และยานยนต์ อย่างไรก็ตาม ส่งออก 7M17 ที่โต 8.4% Y-Y น่าจะทำให้เป้าของธปท., ก.พาณิชย์, สภาพัฒน์ ที่คาดโต 5-6% เป็นไปได้ไม่ยาก หนุนให้ GDP ปีนี้โต 3.5-3.6% ไม่ยากเช่นกัน
(0) ภาษีเครื่องดื่มฉบับใหม่เริ่ม 16 ก.ย. แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ภาษีสรรพาสามิตเดิม และภาษีคำนวณตามปริมาณหรือภาษีน้ำตาล ภาครัฐฯจะเริ่มเก็บภาษีแยกเป็น 2 ส่วนทันที แต่รวมแล้วยังไม่ต่างจากเดิมเพราะให้เวลาปรับตัว 2 ปี จนหลัง 2 ปีไปแล้วถึงปรับขึ้นภาษีน้ำตาล เพื่อให้ปริมาณเหลือไม่เกิน 6 กรัมต่อ 100 มล. ตามเกณฑ์ของ WHO ผู้ที่ถูกกระทบมากสุดคือ ชา กาแฟ (OICHI ICHI) ส่วนน้ำผลไม้ (MALEE TIPCO) และฟังก์ชั่นนอล ดริ้งค์ (SAPPE) กระทบจำกัด เพราะสัดส่วนรายได้ที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มไม่มาก ขณะที่ TACC กระทบน้อยสุดจากการปรับตัวโดยแยกน้ำตาลออกจากผง เราเชื่อว่าสุดท้ายแล้วผลลบโดยรวมจะน้อยกว่าคาด จากการเร่งปรับตัวของผู้ประกอบการ
(-) TVO แนวโน้มกำไร 2H17 จะกลับมาฟื้นตัว เพราะฐานที่ต่ำมากใน 1H17 และปริมาณขายกากถั่วเหลืองที่ดีขึ้น แต่ต่อให้ฟื้น กำไรทั้งปียังมีโอกาสต่ำกว่าคาดที่ 1.9 พันลบ. เพราะราคาถั่วเหลืองไม่ดี โดยเบื้องต้นคาดเหลือ 1.3 พันลบ. -53% Y-Y ทำให้ราคาเป้าหมายจะลดเหลือ 23 บาท จาก 30 บาท ราคาหุ้นเต็มมูลค่าและไม่ใช่ Dividend Stock ในช่วงนี้ ยังแนะนำขาย
(0) BDMS เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น โดยแนวโน้มกำไร 2H17 มีโอกาสพลิกกลับมาโตได้เล็กน้อย Y-Y จากโมเมนตัมรายได้ที่ยังดี และแผนคุมต้นทุนที่จะเห็นผลมากขึ้น ขณะที่ BDMS ยังคงเป้าหมายการให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรในปี 2020 ซึ่งตอบโจทย์สังคมสูงวัยทั้งไทยและทั่วโลก ประมาณการกำไรปกติปี 2017 และ 2018 ที่คาด -5.9% Y-Y และ +4.8% Y-Y เริ่มมี Upside แต่เบื้องต้นเรายังแนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
(0) หุ้นที่ขึ้น XD วันนี้ มีผลต่อ SET 0.29 จุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24 ส.ค. - ไทย: ยื่นซองประมูลรถเมล์ NGV 489 คัน e-auction 8 ก.ย.
24-26 ส.ค. - Jackson Hole Symposium
25 ส.ค. - ไทย: ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดีรับจำนำข้าว
29 ส.ค. - สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
30 ส.ค. - สหรัฐ: 2Q17 GDP, การจ้างงานภาคเอกชน (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ยริโภค (ส.ค.)
1 ก.ค. - จีน: Caixin Manufacturing PMI (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ส.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ สืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์การเมืองสหรัฐ หลังสหรัฐขู่ว่าจะยอมหยุดการดำเนินงานของรัฐบาลลง หากสภาไม่สนับสนุนการสร้างกำแพงชายแดนเม็กซิโก ขณะที่นักลงทุนยังเฝ้าจับตาการประชุมที่ Jackson Hole วันนี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังตัวเลข PMI ภาคการบริการเดือนส.ค.ลดลงสู่ระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือน ขณะที่นักลงทุนยังเฝ้าจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินในการประชุม Jackson Hole วันนี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสม โดยภาวะตลาดถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองสหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.31-33.35 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดบวก 0.58 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 อีก 3.3 ล้านบาร์เรล ใกล้เคียงที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันดิบในสหรัฐอาจเริ่มชะลอลงตามการปรับลดกำลังการกลั่นหลังใกล้ผ่านช่วงฤดูร้อน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 3.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,294.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหลังตลาดกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research