- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 August 2017 17:27
- Hits: 3437
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Range bound
เมื่อวานแบงก์ใหญ่ (BBL KBANK) Outperform และรับเหมาเริ่มขยับขึ้น (CK STEC) ขณะที่พลังงานเด่น
TOP ส่วน PTT ยืน ช่วยพยุงดัชนีฯ ส่งผลให้แนวโน้มตลาดวันนี้ยังคงมีลุ้น ดีดตัวขึ้นต่อ จากแรงซื้อคืนหุ้น
แบงก์ใหญ่ก่อนจะประกาศปันผลระหว่างกาลในสัปดาห์หน้า บวกกับ สัปดาห์หน้า 31 สค. MSCI rebalance
จะมีผลต่อราคาหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนักรอบนี้...
วันนี้คาด range bound ในกรอบ 1,565-1,580 จุด
Outperform…คงคาด กลุ่มแบงก์ (BBL KBANK SCB เพราะมีปันผลระหว่างกาลรออยู่...ทั้งนี้ช่วงปลายเดือน
สค.-กย. กลุ่มแบงก์มีโอกาสขึ้นรับประกาศปันผลระหว่างกาล หลังแจ้งงบสอบทาน) พลังงาน PTT (XD 8 บ.
31 สค.) PTTEP (เล่นรีบาวด์ตามน้ำมัน) โรงแรม (CENTEL MINT ย่อซื้อเล่นตามฤดูกาล) รับเหมา (STEC
CK 31 สค.ประมูลรถไฟทางคู่ ประจวบ-ชุมพร)
แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาด “เด้งสลับย่อ กรอบเดิม 1,555-1,580” โดยกลุ่มหุ้นตัวกลางเล็ก คาดจะวนกลับมา
เล่น (1) เน้นไปที่หุ้นเล็กที่ประกาศงบไม่ตรงกับปีปฏิทิน เช่น PICO TAPAC (คาดประกาศงบ 3Q ต้นเดือน
กย.) คาดกำไรเติบโตโดดเด่น (2) หุ้นส่งออก ท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน GFPT CCET DELTA
CENTEL AOT
หุ้นแนะนำวันนี้
JWD แนวรับ 10.2 บ. ต้าน 10.7/10.8 บ. Stop loss 10 บ.
BCH แนวรับ 14.3 บ. ต้าน 14.8 บ. Stop loss 14 บ. คาดตลาดจะกลับมาเล่นหุ้น รพ.ตัวรองที่ยัง Laggard
รพ.ในแง่ Share price performance... การเพิ่มค่ารักษา สปส.เมื่อ 1 กค.ที่ผ่านมา ส่งผลบวกต่อ BCH
สูงสุดเพราะสัดส่วนคนไข้ประกันสังคม 37% มากสุดในกลุ่ม คาดเป็น รพ.ที่จะรายงานกำไรเติบโตสูงเด่นกว่า
กลุ่มใน 3Q-4Q17
รายงานวันนี้
TFG: Breaking through to the other side …
ราคาหุ้น TFG ค่อนข้างย่อตัวลงไปในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนผลประกอบการใน 4Q16-1Q17 ที่อ่อน
ตัวลง อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าถึงเวลาที่ราคาหุ้นมีโอกาสแรลลี่กลับขึ้นไปอีกครั้ง หนุนโดยกำไรที่เติบโต
อย่างแข็งแกร่ง โดยกำไรหลักใน 2Q17 ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ เรามองว่าโมเมนตัมของกำไรใน 3Q17 จะทำ
สถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง จากสัดส่วนรายได้จากสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจส่งออก
และกลุ่ม Food service ภาพการเติบโตของกำไรน่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องไปในปีหน้า จากทั้งสัดส่วนการ
ส่งออกและ Food service ที่เพิ่มขึ้นไปอีก รวมถึงโรงงานไก่ปรุงสุกที่จะเริ่มดำเนินการได้ใน 2Q18 ยังไม่
รวมถึงการเติบโตตามการขยายกำลังการผลิตตามแผนงานอีก เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.60
บาท
CPALL: Threat of losing ground in PTT gas station
จากข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ ในเรื่องโอกาสที่ PTT จะไม่ต่อสัญญากับ CPALL ในการเปิดสาขา 7-11 ใน
ปั๊มปตท. หลังจากสัญญาจะหมดอายุในปี 2023 เนื่องจาก PTT ต้องการเปลี่ยนจาก 7-11 เป็นร้านสะดวกซื้อ
ของตัวเอง Jiffy เรามองว่าประเด็นนี้เป็นแผนงานที่ PTT วางมานานแล้ว ตั้งแต่ PTT เข้าไปซื้อแบรนด์ Jiffy
ในปี 2009 แต่ ณ เวลานั้น Jiffy ยังไม่มีความพร้อม อย่างไรก็ตามในสัญญาระบุว่าสาขา 7-11 ที่เปิดใหม่
จะต้องมีการดำเนินงานไปถึงอายุ 10 ปี นั่นหมายความว่าหาก PTT ไม่ต่อสัญญาในปี 2023 สาขาสุดท้าย
ของ 7-11 ที่จะต้องปิดจะเกืดขึ้นในปี 2033 ในปัจจุบันสาขา 7-11 ในปตท. คิดเป็น 13.9% ของสาขา
ทั้งหมด และคาดในปี 2023 จะคิดเป็น 12.4% (แต่ในเทอมของรายได้อาจจะคิดเป็นถึง 20% เนื่องจาก
ยอดขายในปั๊มจะสูงกว่าสาขาอื่น) ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดหาก PTT ไม่ต่อสัญญา คาดผลกระทบต่อ CPALL
จำกัดจาก 1) จำนวนสาขาที่จะทยอยปิดแต่ละปีคิดเป็น 0.5-1.3%, 2) คาด CPALL จะมีการเร่งเปิดสาขาใน
พื้นที่อื่นทดแทน และ 3) ปั๊มน้ำมันในอนาคตอาจจะไม่ใช่แค่แหล่งเดียวสำหรับการเติมพลังงาน หลังจาก
รถยนตร์ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เรามองว่าหากราคาหุ้น CPALL มีการย่อตัวลงมาจากข่าวนี้ เป็นโอกาส
ในการเข้าซื้อ
WHA (Company Update): Bargain price on a record-setting earnings
outlook
บริษัทมียอดจองซื้อในช่วง 1H17 ที่ 584 ไร่ คิดเป็น 42% ของเป้าหมายปีนี้ที่ 1,400 ไร่ ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ย
เมื่อปี 2015 ที่ 34% และเทียบเท่าสัดส่วนปีที่แล้วที่ 42% ซึ่งดีกว่า AMATA ที่ใน 1H17 ทำได้เพียง 17%
ของเป้าหมายทั้งปีเท่านั้น และสำหรับกำไร 2H17 เราคาดจะเติบโต YoY จาก 1) demand built-to-suit
warehouses ที่แข็งแกร่งขึ้น 2) ธุรกิจไฟฟ้าจะเติบโตขึ้นจากการ COD 3 โรงไฟฟ้า SPP และ 3) ใน 4Q17
เราคาดจะมีการขายสินทรัพย์เข้า REIT ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 14.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 17.7 เท่า
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.76 บาท
กลุ่มโรงแรม (Sector Update): Time to check in
เราปรับคำแนะนำน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มฯขึ้นเป็น “มากกว่าตลาด” (เดิม เท่ากับตาด) เพราะ 1) บริษัทใน
กลุ่มฯ มรผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม ในช่วง low season ไรมาส 2 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงคาวม
แข็งแกร่งของกลุ่มฯ 2) นักท่องเที่ยวจีนและรัสเซีย ซึ่งมีสัดส่วนรวมๆราว 32% ของจำนวนนักท่องเที่ยว
กลับมาเห็นการเติบโต YoY แล้ว 3) เราคาดรัฐบาลมีโอกาส ประกาศมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกครั้ง
เพราะการท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ และ 4) กำไรหลักจะเข้าสู่ขาขึ้นไปอีก 3 ไตรมาสติดต่อกัน
จากการเข้าสู่ High season ใน 3Q17, 4Q17 และ 1Q18 ดังนั้นเราแนะนำ ซื้อ MINT และ CENTEL ซึ่งเป็น
ตัวแทนของกลุ่มท่องเที่ยว (สำหรับ ERW เราแนะ hold)
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) ITD STEC CK UNIQ: กำหนดเคาะ ประมูล e-Auction สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่
(1) 31 สค. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ทั้งสัญญาที่ 1 (6.6 พันลบ.) และสัญญาที่ 2 (6 พันลบ.)
(2) 1 กย. ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ สัญญาที่ 1 (7.7 พันลบ.) และสัญญาที่ 2 (7 พันลบ.)
(3) 4 กย. ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 (8.8 พันลบ.)
และมีลุ้นประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ปลายปีนี้: โดยเมื่อวาน บอร์ด รฟม. โดยพลเอกยอดยุทธ
บุญญาธิการ เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ
(1) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท
ซึ่งครม.เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างร่างทีโออาร์ประมูลและพิจารณาแบ่งสัญญาก่อสร้าง ตามกายภาพและ
มูลค่าแต่ละสัญญา คาดว่าจะเปิดประมูลได้ ธ.ค. 60 และเริ่มก่อสร้างธ.ค. 61
(2) รถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้านตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์นั้น อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมรูปแบบ
การลงทุน PPP คาดว่าจะเสนอครม.ได้ใน เม.ย. 61 เลื่อนจากแผนเดิมที่จะเสนอครม.ในเดือน ก.ค.60 ทั้งนี้
จะไม่กระทบต่อการเดินรถสายสีส้มตะวันออกที่ก่อสร้างไปก่อน เนื่องจากสามารถแบ่งเฟสเดินรถได้
(+) XD ปันผลระหว่างกาล: อังคาร 22 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
[email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
พุธ 23 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
พฤหัส 24 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
ศุกร์ 25 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
(+) Opportunity day:
จันทร์ 21: WHA GUNKUL TK JMART JMT SINGER PCSGH
อังคาร 22 PTT PTTEP PTTGC TOP TPIPP S HMPRO
พุธ 23 SPALI HPT BPP BANPU PT TTA PLAT
พฤหัส 24 IRPC ITEL ILINK ACAP SE SVI
ศุกร์ 25 AMA JUBILE BAFS PSH ERW
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ธปท. ระบุ GDP Q2/60 ขยายตัวสูงกว่าคาด หลังการบริโภค-ลงทุนเอกชนดีกว่าที่ประเมินไว้
ธปท. เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ขยายตัว 3.7% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน หรือ
1.3 % จากไตรมาสก่อน สูงกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้ โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออกสินค้าและ
บริการที่ขยายตัวเร่งขึ้น สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่ปรับดีขึ้น และการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและ
การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวดีกว่าที่ ธปท. ประเมินไว้
ในระยะต่อไป คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ควรติดตาม
ได้แก่ ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่
อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคู่ค้า และความต่อเนื่องของการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ
คาดหุ้นบูลชิพใหญ่ขึ้นรับข่าว เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าคาด หลัง ธปท.สรุปรายงาน GDP 2Q17 +3.7%
ดีกว่าคาดที่ 3.2% (จาก 3.3%) พร้อมทั้งปรับเป้า GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 3.5-4% จาก 3.3-3.8%
(*) คาดกรณีคำตัดสินคดีจำนำข้าว 25 สค.นี้ จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย เช่นเดียวกับคดียุบพรรค
การเมืองรวมถึงคดีการเมืองอื่นๆในอดีต ยกตัวอย่างเช่น คดียุบพรรคพลังประชาชน เมื่อ 2 ธค.2008 หุ้นไทย
กลับตัวขึ้นจาก 387 จุด เป็น 392 จุดในวันถัดมา และบวกต่อ 23% (m-m) หลังคำตัดสิน 1 เดือน
(*) Jackson Hole meeting คาดประธานเฟดจะแสดงความเห็น
(1) การผ่อนปรนกฎหมายควบคุมสถาบันการเงินขนาดเล็ก
(2) หากมีการแสดงมุมมองกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อและความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ จะเป็นการส่งสัญญาณ การ
ขึ้นดอกเบี้ย ในเดือน ธค.นี้ ซึ่งหากไม่พูดถึง ตลาดอาจตีความตรงข้าม คือไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธค.
(3) ก่อนจะหมดวาระในเดือน กพ. 2018 คาดการประชุมครั้งนี้จะไม่แสดงจุดยืนนโยบายในปีหน้า ซึ่ง ต้องรอ
ดู ผู้ถูกเสนอชื่อ ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ของ 'ทรัมป์' ซึ่งตลาดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อว่าที่ประธานเฟดคน
ใหม่จาก 'สายการเงินและธนาคารภาคเอกชน'
(0) การซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ รอบใหม่เริ่มขึ้นตามกำหนดการเดิมวานนี้ ตลาดวิตกเกาหลี
เหนืออ้างเป็นเหตุจุดชนวนความตึงเครียดปะทุรอบใหม่
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค