- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 August 2017 17:23
- Hits: 3065
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,570-1,590
กลุ่มธนาคารหนุน SET +0.23% ปิด 1,573.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.7 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 678 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
SET มี momentum แข็งแกร่งขึ้น จาก 1) GDP 2Q17 ขยายตัว +3.7% ดีกว่าคาด หนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร ชอบ KBANK TMB KKP 2) การเร่งออกกฎหมาย EEC ปลายปีนี้เป็น sentiment บวกต่อกลุ่มนิคมฯ AMATA WHA 3) TradeCode ส่งสัญญาณ "บวก" โดย momentum ของ SET ขึ้นมาที่ "ซื้อเพิ่ม" เป้าหมายระยะสั้น 1,580-1,590 จุด 4) Dow Jones +0.9% มองการผ่านกฎหมายภาษี จะทำให้ง่ายกว่ากฎหมายประกันสุขภาพ ขณะที่เรามีมุมมอง Neutral ต่อการอ่านคำตัดสินศาลฯกรณีจำนำข้าว 25 ส.ค.นี้
ทำอะไรดี: 1.'ซื้อ' RS .ปรับพื้นฐานขึ้นเป็น 16.30 บาท มองธุรกิจ Media ค่อนๆ ดีขึ้นจาก rating ที่ดีโอกาสการขึ้นค่าโฆษณา ขณะที่ธุรกิจความงามสุขภาพ ทำกำไรได้ดี (40% ของรายได้ปี 2018) คาดกำไรปี 2018 +64% 2."ซื้อ" กลุ่มนิคมฯ มองผลดีจากการเร่งออกกฎหมาย EEC ปลายปีนี้ และยอดขายที่ดินที่เร่งตัวขึ้น 2H17 ชอบ AMATA (TP 23) WHA (TP 4) 3."เก็งกำไร" PTT มองเป็น Laggard play เมื่อเทียบกับราคาหุ้นโรงกลั่นที่ปรับสูงขึ้นขณะที่จะได้ผลดีจากการนำธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเข้าตลาดปีหน้า
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ' BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
RS: 'ซื้อ' พื้นฐาน 16.30 บาท (เดิม 9.0 บาท)...แม้ธุรกิจ Media ค่อยๆ ฟื้นตัวแต่ยังขาดทุนปีนี้ ขณะที่ธุรกิจความงามสุขภาพ (LifeStar Business) สร้างกำไรได้ดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรขึ้น 4-23% จากประมาณการกำไรเดิม ส่งผลกำไรปี 2018 จะเติบโต 64% y-y ในปี 2018
Today's News:
PTT-CPALL: แม้สาขา CPALL จำนวน 1,386 สาขา (14% ของสาขาทั้งหมดของ CPALL) ที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน PTT ส่วนใหญ่จะหมดสัญญาในอีก 6 ปี (ปี 2023) ข้างหน้า แต่เรามองว่า PTT จะไม่รีบตัดสินใจว่าจะให้ CPALL ต่อสัญญาเช่าหรือไม่ เรามอง Neutral ต่อประเด็นนี้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และแนะนำ "ซื้อ" CPALL พื้นฐาน 72 บาท
ภาษีนำหวาน: เตรียมเสนอ ครม.จัดเก็บภาษีเครื่องดื่มตามค่าความหวานของน้ำตาล ได้แก่น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาเขียว และเครื่องดื่มชูกำลัง โดยถ้ามีความหวานสูงจะยิ่งเสียภาษีสูงขึ้น โดยจะให้ผู้ผลิตมีเวลาในการปรับตัว 2 ปี...มองเป็นปัจจัยลบทาง sentiment ระยะสั้นต่อกลุ่มเครื่องดื่ม
Technical Story: Technical SET range: 1,562-1,582
มีสัญญาณตังหลักในหุ้นธนาคาร: (รายงาน The Technical Story)SET ฟื้นตัวกลับมายืนเหนือ 1,570 ได้ มีด่านถัดไป 1,580-1,582 จุด จากหุ้นธนาคารเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ดีจากแนวรับขณะที่หุ้นพลังงานเริ่มทะลุ ส่วนแนวรับมีที่ 1,568 จุดและถัดไปที่ 1,562 จุด
หุ้นแนะนำ:
UNIQ เข้าซื้อ เป้าหมาย 19 และ 19.50 บาท
PLE เข้าซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 1.62 และ 1.74 บาท
JWD ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 11 และ 11.50 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)"เปิด" สถานะ Long S50U17 เป้าหมาย 1,007.Trailing Stop 991 "Long" BlockTrade TMB เป้าหมาย 2.42 / 2.50...Leverage 12x TradeCode: Buy >GUNKUL, UV, CKP
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +0.4% ใกล้เคียงกับ SET ที่ปรับสูงขึ้น +0.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย BEATY WORK ที่ผลการดำเนินงาน 2Q17 ออกมาดีกว่าที่ตลาด และเราคาดการณ์ไว้ปรับสูงขึ้นแข็งแกร่ง +13.6% และ 9.1% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มหุ้น Micro Finance ที่มีความกังวลต่อโอกาสที่จะเกิดปัญหาสภาพคล่อง หรือต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้นหลังการออก Bill of Exchange (BE) หรือตั๋วกู้เงินระยะส้นทำได้ยากลำบากมากขึ้น ส่งผลให้ SAWAD และ MTLS ปรับลดลงแรง -5.9% และ -7.3% ตามลำดับ...อย่างไรก็ดีเรามองว่า MTLS และ SAWAD มีสภาพคล่องเพียงพอ และสามารถออกหุ้นกู้เพื่อทดแทน BE ได้อยู่แล้ว โดยราคาหุ้นที่ปรับลดลงยิ่งทำให้ Valuation น่าสนใจลงทุนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI WORK
'ซื้อ' KKP (TP 77). 'ซื้อ' พื้นฐาน 77 บาท.ราคาหุ้นปรับลดลงแรง หลังผลการดำเนินงาน 2Q17 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดีถ้าพิจารณาเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานถือว่ายังทำได้ดีตามคาด และเราคาดว่าราคาหุ้นจะเริ่มกลับมา Outperform ตลาดอีกครั้ง จากการประกาศปันผลปลายสัปดาห์นี้ คาดการณ์ 2 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น dividend yield 3% ขณะที่ในทางเทคนิคเริ่มมีสัญญาณ "ซื้อ" เกิดขึ้นในทั้ง MACD และ Stochastic
KKP - เริ่มมีสัญญาณ "ซือ" เกิดขึนในทัง MACD และ Stochastic
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA: ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA: เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC: มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE: ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP: หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT: ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC: ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK: ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979