- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 August 2017 16:21
- Hits: 1688
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Sideways
เมื่อวาน กลุ่มแบงก์ และพลังงาน ขึ้นหนุนดัชนีฯ ซึ่งดีกว่าที่เราคาด วันนี้คาด Sideways กรอบ 1,560-1,570
จุด ปัจจัยที่มีผล (-) แบงก์ชาติจับตาเงินไหลเข้าออก หลังพบธุรกรรมเงินตราต่างประเทศหนาแน่นผิดปกติ
ในบางช่วง เล็งออกมาตรการสกัดหากพบว่าเป็นการเก็งกำไร, (+) เมื่อวาน ธปท.รายงาน GDP 2Q ไทย
เติบโตสูงกว่าตลาดคาด พร้อมทั้งปรับเป้า GDP ขึ้นเป็นกรอบบน 4%
กลุ่ม Outperform วันนี้คาด กลุ่มแบงก์ (BBL KBANK SCB มีปันผลระหว่างกาล...ทั้งนี้ช่วงปลายเดือน
สค.-กย. กลุ่มแบงก์มีโอกาสขึ้นรับประกาศปันผลระหว่างกาล หลังแจ้งงบสอบทาน) พลังงาน PTT (XD 8
บ. 31 สค.) PTTEP (รีบาวด์ตามน้ำมัน) โรงแรม (CENTEL MINT ย่อรับเล่นตามฤดูกาล) รับเหมา (STEC
CK 31 สค.ประมูลรถไฟทางคู่ ประจวบ-ชุมพร)
แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาด งเด้งสลับย่อ กรอบเดิม 1,555-1,580ง โดยกลุ่มหุ้นตัวกลางเล็ก คาดจะวนกลับมา
เล่น-Outperform (1) เน้นไปที่หุ้นเล็กที่ประกาศงบไม่ตรงกับปีปฏิทิน เช่น PICO TAPAC (คาดประกาศงบ
3Q ต้นเดือน กย.) คาดกำไรเติบโตโดดเด่น (2) หุ้นส่งออก ท่องเที่ยว GFPT CCET DELTA CENTEL AOT
เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน จากคาดตลาดหุ้นสหรัฐฯมีโอกาสถูกขายล็อกกำไร...ส่งผลดอลล์สหรัฐฯ
แข็งค่าจาก Flows ไหลเข้าพักในตลาดเงิน-Money market จากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
หุ้นแนะนำวันนี้
BBL แนวรับ 180/179 บ. ต้าน 184 บ. Stop loss 176 บ. คาดสัปดาห์หน้าจะประกาศจ่ายปันผลระหว่าง
กาล 2 บาท เท่ากับปีที่แล้ว (ครึ่งหลังจะจ่ายมากกว่าครึ่งแรกคาด 2H17 อีกประมาณ 4.5 บ. คิดเป็น
ผลตอบแทนประมาณ 3.6% ต่อปี)
STEC CK เล่นดักก่อนการประมูล 31 สค. นี้
รายงานวันนี้
กลุ่มธนาคาร (Sector Update) : July loan dipped and will grow next
อัตราการเติบโตของสินเชื่อของกลุ่มธนาคาร 9 ธนาคารภายใต้การดูแลของเราในเดือน ก.ค. ปรับตัว
ลดลง 0.9% Mom (แต่เพิ่มขึ้น 2.7% YoY) BAY รายงานการเติบโตของสินเชื่อดีที่สุดที่ 0.3% MoM,
TCAP 0.1% MoM ในขณะที่ธนาคารอื่นๆ รายงานการเติบโตของสินเชื่อลดลง MoM เราคาดธนาคารที่
เป็น Retail-driven ไม่ว่าจะเป็น KKP, BAY, SCB, TMB และ TCAP จะเติบโตได้ดีใน 3Q17 จากทั้ง HP
และ Personal loan สำหรับประมาณการกำไรใน 3Q17 คาด TMB, TISCO และ BBL จะรายงานกำไร
เติบโต YoY แข็งแกร่งที่สุด +30% YoY, 23% YoY และ 12% YoY ตามลำดับ หนุนโดยการตั้งสำรอง
LLPs ที่ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามโดยรวมเรายังชอบ KKP, TISCO
และ BBL ที่สุดในกลุ่ม หนุนโดยมุมมองที่ดีสำหรับสินเชื่อกลุ่ม corporate และ retail และอัตราการ
จ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ
JMT: Strong growth profile
ผู้บริหารยืนยันถึงแผนการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร 3 หมื่นล้าน ในปีนี้ โดยค่าดส่วนลดจะยังอยู่ในระดับ 95-96%
ซึ่งหนี้ใหม่นี้จะเป็นทั้งหนี้มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ประกอบด้วย หนี้จำนอง หนี้ส่วนบุคคล หนี้บัตร
เครดิต ทั้งจากธนาคารและไม่ใช่ธนาคาร เรามองว่าประสิทธิภาพการเก็บหนี้ที่สูงเห็นได้จากการเก็บหนี้
ในช่วง 1H17 จำนวน 907 ล้านบาท สูงเกือบเท่าการเก็บหนี้ในปี 2016 ทั้งปีที่ราว 1 พันล้านบาท บริษัทยังมี
แผนที่จะขยายธุรกิจเข้าซื้อหนี้เสียในกัมพูชาในปีหน้า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 37 บาท
JMART: Synergy Chapter II
การแถลงแผนของผู้บริหารผ่าน Opportunity Day เมื่อวานนี้ ได้ยืนยันมุมมองเชิงบวกของเรา คาด
ปัจจัยที่จะผลักดันกำไรให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลักๆจะมาจาก 1) ยอดขาย ของ JMART และ
เสริมด้วย Jaycamera ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี 2) ผลประกอบการของ JMT ที่เติบโตขึ้นอย่างมี
นัยยะและประสิทธิภาพการเก็บหนี้ที่สูง และถึงแม้บริษัทลูกอื่นๆจะยังไม่ได้สร้างผลกำไรอย่างมีนัยยะ
แต่ทิศทางผลประกอบการดีขึ้นทั้งหมด และคาดจะไม่เป็นตัวถ่วงกำไรอีกต่อไป เราปรับประมาณการ
กำไรขึ้น และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 17 บาท (อิง P/E 27 เท่า จาก ค่าเฉลี่ยในอดีต +1SD; Fully
diluted EPS)
RS: Stealing Beauty
เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางการเติบโตของบริษัทซึ่งยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดของ
ธุรกิจสุขภาพและความงาม รวมถึงการฟื้นตัวของธุรกิจดิจิตอลทีวียังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักหนุนให้
โมเมนตัมของกำไรเติบโตต่อเนื่องใน 3Q-4Q17 คาดรายได้ธุรกิจดิจิตอลทีวีช่อง 8 เติบโตต่อเนื่อง 20-
25% QoQ ใน 3Q17 หนุนโดยเรตติ้งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 2Q17 ทำให้เม็ดเงินโฆษณาปรับ
ขึ้นสะท้อนเรตติ้งที่ดีขึ้น ในฝั่งของธุรกิจสุขภาพและความงาม ยอดขายยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่อย่าง
ต่อเนื่องในทุกๆเดือน คาดยอดขายใน 3Q17 จะเติบโตขึ้นทะลุ 400 ล้านบาท เทียบกับ 200 ล้านบาท
และ 300 ล้านบาทใน 1Q17 และ 2Q17 ตามลำดับ รายได้ธุรกิจเสริมความงามมีโอกาสเติบโตเป็น
เท่าตัวในปีหน้าจากการเพิ่มจำนวน Call center และเพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้า รวมถึงได้พาร์ทเนอร์รายใหม่
เข้ามาขายสินค้าบนช่องเพิ่มขึ้น ในขณะธุรกิจดิจิตอลทีวีคาดจะเห็นการฟื้นตัวที่สำคัญตั้งแต่ในเดือน
พ.ย.-ธ.ค. ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า จากภาพการฟื้นตัวของการบริโภค และการใช้งบกระตุ้นยอดขาย
หลังจากที่เม็ดเงินโฆษณาถูกอั้นมาทั้งปีในปี 2017 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย
15.50 บาท
CK: Time to play ahead upcoming biddings
เรามองว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้น ก่อนการประมูลโครงการขนาดใหญ่ใน 3 สัปดาห์
ข้างหน้า ประกอบไปด้วยรถไฟทางคู่ ประจวบ-ชุมพร 2 สัญญา สัญญาละ 8 พันล้านบาท และลพบุรี-
ปากน้ำโพ 2 สัญญา และ มาบกะเบา-จิระ 3 สัญญา ซึ่งยังไม่รวมการประมูลอาณัติสัญญาณ มูลค่าราว
1.22 หมื่นล้านบาท ใน 4Q17 นี้ นอกจากนี้ยังมี TOR ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่า 1 แสนล้านบาท
ระบบเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ ราว 2.2 หมื่นล้านบาท และทางด่วนราว 3.1 หมื่นล้านบาท ที่คาดจะ
สรุปได้เร็วๆนี้ ปัจจุบันหุ้นเทรดบน PBV +0.3SD เหนือค่าเฉลี่ย เท่านั้น เทียบกับเมื่อเดือน มิ.ย. 2016 ที่
เทรดสูงถึง +1.5SD เหนือค่าเฉลี่ย ในขณะที่ backlog และ outlook ปัจจุบันดีกว่ามาก เราแนะนำ ซื้อ
ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) ITD STEC CK UNIQ: กำหนดเคาะ ประมูล e-Auction สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่
(1) 31 สค. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ทั้งสัญญาที่ 1 (6.6 พันลบ.) และสัญญาที่ 2 (6 พันลบ.)
(2) 1 กย. ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ สัญญาที่ 1 (7.7 พันลบ.) และสัญญาที่ 2 (7 พันลบ.)
(3) 4 กย. ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 (8.8 พันลบ.)
(+) XD ปันผลระหว่างกาล: อังคาร 22 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
[email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
พุธ 23 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
พฤหัส 24 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
ศุกร์ 25 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
(+) Opportunity day:
จันทร์ 21: WHA GUNKUL TK JMART JMT SINGER PCSGH
อังคาร 22 PTT PTTEP PTTGC TOP TPIPP S HMPRO
พุธ 23 SPALI HPT BPP BANPU PT TTA PLAT
พฤหัส 24 IRPC ITEL ILINK ACAP SE SVI
ศุกร์ 25 AMA JUBILE BAFS PSH ERW
(+) BEM คาดมีผู้โดยสารสายสีม่วงเดินทางต่อใช้สายสีน้ำเงินราว 2 หมื่นคน/วัน หลังเปิดใช้สถานีเตา
ปูน-บางซื่อ
ด้านความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ปัจจุบันงานโครงสร้างอุโมงค์และสถานีแล้ว
เสร็จประมาณ 90% โดย BEM ได้ทำการว่าจ้างบมจ.ช.การช่าง (CK) เป็นผู้บริหารโครงการ รวมถึงจัดหา
ติดตั้ง และทดสอบอุปกรณ์งานระบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งต่อมา CK ได้ทำการคัดเลือกและ
ว่าจ้างกิจการร่วมค้า ซึ่งนำโดยบริษัท ซีเมนส์ ในการจัดหาขบวนรถไฟฟ้า จำนวน 35 ขบวน และอุปกรณ์
งานระบบอื่นที่เกี่ยวข้องในวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในการให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำ
เงิน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการช่วงหัวลำโพง-บางแค ในเดือนกันยายน 2562 และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ
ในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเมื่อเปิดสายสีน้ำเงินครบทั้งหมดแล้ว จากการคาดการณ์ คาดว่าจำนวนผู้โดยสาร
สายสีน้ำเงินจะเพิ่มมากกว่า 500,000 คน/วัน (ที่มา อินโฟเควส)
(+) AOT ได้รับคัดเลือกให้เข้าเป็นสมาชิกในดัชนีชั้นนำของโลก FTSE4Good Index ซึ่งเป็นดัชนีที่
ประเมินศักยภาพขององค์กรในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and
Governance : ESG) (ที่มา อินโฟเควส)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ธปท. ระบุ GDP Q2/60 ขยายตัวสูงกว่าคาด หลังการบริโภค-ลงทุนเอกชนดีกว่าที่ประเมินไว้
ธปท. เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ขยายตัว 3.7% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน หรือ
1.3 % จากไตรมาสก่อน สูงกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้ โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออกสินค้าและ
บริการที่ขยายตัวเร่งขึ้น สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่ปรับดีขึ้น และการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและ
การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวดีกว่าที่ ธปท. ประเมินไว้
ในระยะต่อไป คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ควรติดตาม
ได้แก่ ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่
อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคู่ค้า และความต่อเนื่องของการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ
คาดหุ้นบูลชิพใหญ่ขึ้นรับข่าว เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าคาด หลัง ธปท.สรุปรายงาน GDP 2Q17 +3.7%
ดีกว่าคาดที่ 3.2% (จาก 3.3%) พร้อมทั้งปรับเป้า GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 3.5-4% จาก 3.3-3.8%
(*) คาดกรณีคำตัดสินคดีจำนำข้าว 25 สค.นี้ จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย เช่นเดียวกับคดียุบพรรคการเมือง
รวมถึงคดีการเมืองอื่นๆในอดีต ยกตัวอย่างเช่น คดียุบพรรคพลังประชาชน เมื่อ 2 ธค.2008 หุ้นไทยกลับตัว
ขึ้นจาก 387 จุด เป็น 392 จุดในวันถัดมา และบวกต่อ 23% (m-m) หลังคำตัดสิน 1 เดือน
(*) Jackson Hole meeting คาดประธานเฟดจะแสดงความเห็น
(1) การผ่อนปรนกฎหมายควบคุมสถาบันการเงินขนาดเล็ก
(2) หากมีการแสดงมุมมองกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อและความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ จะเป็นการส่งสัญญาณ การ
ขึ้นดอกเบี้ย ในเดือน ธค.นี้ ซึ่งหากไม่พูดถึง ตลาดอาจตีความตรงข้าม คือไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธค.
(3) ก่อนจะหมดวาระในเดือน กพ. 2018 คาดการประชุมครั้งนี้จะไม่แสดงจุดยืนนโยบายในปีหน้า ซึ่ง ต้องรอ
ดู ผู้ถูกเสนอชื่อ ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ของ 'ทรัมป์' ซึ่งตลาดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อว่าที่ประธานเฟดคน
ใหม่จาก 'สายการเงินและธนาคารภาคเอกชน'
(0) การซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ รอบใหม่เริ่มขึ้นตามกำหนดการเดิมวานนี้ ตลาดวิตกเกาหลี
เหนืออ้างเป็นเหตุจุดชนวนความตึงเครียดปะทุรอบใหม่
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค