- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 August 2017 16:14
- Hits: 1415
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Domestic Play
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” แนวต้าน 1574/1580 จุด แนวรับ 1565/1563จุด GDP 2Q17 ไทย ที่ขยายตัว 3.7% สูงสุดในรอบ 4 ปี เป็นแรงหนุนความเชื่อมั่นและการปรับเพิ่มประมาณการณ์หุ้นกลุ่ม Domestic โดยเฉพาะ 2H17 จะมีแรงส่งจากการลงทุนภาครัฐฯเร่งตัวขึ้น วันนี้แนะนำ Theme Domestic Play *Daily Top Pick: KTB, CK, STEC*
Nomura : Key Factors
(+) Int Factor: GDP 2Q17 ไทยเติบโตกว่า 3.7% ดีกว่าที่ Nomura และ Consensus คาด
(*) Ex Factor: จับตาถ้อยแถลงของ Yellen และ Draghi ในการประชุม Jackson Hole
(-) Ex Factor: การซ้อมรบของสหรัฐฯ-เกาหลีใต้เพิ่มความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -2.35% สู่ $47.37/bbl / BRT -2.01% สู่ $51.66/bbl
(-) OIL: ตัวเลขการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตของ OPEC ลดลงต่ำสุดในรอบปี
Fund Flow:วานนี้ต่างชาติซื้อ 830ลบ,Short Future 7173 สัญญา,ซื้อ Bond 843 ลบ
Nomura Daily Top Picks: KTB, CK, STEC
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” ในกรอบต้าน 1574/1580จุด และรับ 1565/1563 จุด GDP 2Q17 ของไทยเติบโตกว่า 3.7% สูงสุดในรอบ 4ปี ดีกว่าที่ Nomura และ Consensus คาดที่ 3.4% และ 3.2% ตามลำดับ ผลักดันจากการส่งออกสินค้าและบริการที่เติบโตต่อเนื่อง และการใช้จ่ายภาคเอกชนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากแรงหนุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยรอบเส้นทางรถฟ้าสายสีเขียวและสีน้ำเงิน
แต่อย่างไรก็ดี Nomura ยังคงคาดการณ์ 2017 GDP ไทยที่ระดับ 3.4% เนื่องจากมองว่าภาคส่งออกจะเติบโตชะลอตัวลงใน 2H17 และยังมีประเด็นค่าเงินบาทที่จะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (Nomura มองค่าเงินบาทปี 2017F 2018F และ 2019 ที่ระดับ 32.7 32.4 และ 31.6 ตามลำดับ) ซึ่งจะเป็นตัวกดดันภาพรวมของกลุ่มส่งออกได้ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯที่จะทยอยออกมาต่อเนื่องนั้น จะเป็นตัวเข้ามาช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยช่วง 2H17 แทน ทำให้หุ้นกลุ่ม Domestic เป็นกลุ่มที่มีความน่าสนใจในช่วงที่เหลือของปีนี้
ส่วนปัจจัยต่างประเทศมีแรงกดดันเชิงจิตวิทยาหลังความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีกลับมาอีกครั้ง จากการซ้อมรบกันระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้ อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งต่อเกาหลีเหนือเพิ่มเติม ส่วนปัจจัยที่ตลาดต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การประชุมประจำปีที่ Jackson Hole 24-26สค.นี้ โดยตลาดจับตาถ้อยแถลงของนางเยลเลนที่อาจจะมีการพูดถึงการปรับลด Balance Sheet ของ FED และถ้อยแถลงของนาย Draghi ถึงรายละเอียดของการปรับลดวงเงินเข้าซื้อสินทรัพย์ของ ECB ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจโลกในช่วงถัดไป
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Daily Strategy : 6 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Domestic Play” เป็นหลัก
1. GDP 2Q17 ไทย เติบโต 3.7% สูงสุดในรอบ 4 ปี หนุนหุ้นกลุ่ม Domestic โดยเฉพาะ 2H17 เป็นจุดที่ Nomura คาดว่าแรงส่งจากภายนอกของการส่งออกจะชะลอลง แต่จะได้แรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐเข้ามาแทน ดังนั้นประเมิน BANK(KTB, KBANK, SCB) และรับเหมา(CK, STEC) เด่น ผสาน ICT ที่ผลกำไรเข้าสู่จุดการเติบโตรอบใหม่ ADVANC
2. ให้ทยอยลดน้ำหนักส่งออก(ETRON) ที่การเติบโตจะชะลอลงใน 2H17 และผลกระทบค่าเงินบาทจะเป็น Downside Risk ของประมาณการณ์โดย Nomura คาดจะแข็งค่าสู่ 32.7บาท, 32.4บาท, 31.6บาทต่อเหรียญฯ สิ้นปี 2017, 2018 และ 2019 ตามลำดับ
3. BIG Cap ปิโตรเคมี ค่าการกลั่นยังยืนสูง 8.26เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ทำให้ 3Q17QTD เฉลี่ย 7.55เหรียญฯ +47.7%y-y, +17.9%q-q บวกต่อ PETRO Laggard (PTTGC, IRPC)
4. ท่องเที่ยว : จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน กค 2017 สูงถึง 3.088ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.48%y-y เป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน และต่ำกว่ายอดสูงสุดเป็นประวัติการในเดือน กพ 2016 ราว 800คนเท่านั้น เป็นบวกโดยตรงต่อ AOT, ค่าใช้จ่ายรวมของนักท่องเที่ยวเดือน กค 2017 1.56แสนล้านบาท +6.2%y-y หนุนโรงแรม MINT, ERW
5. รพ. นักท่องเที่ยว UAE เดือน กค 2017 เข้ามาไทยเพิ่มขึ้น 2 เดือนติด ที่ 28775คน +4.6%y-y หรือ 256%m-m สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุน โรงพยาบาล BH, BDMS เด่น สำหรับผู้ที่ยังไม่มีแนะนำเก็งกำไร Laggard BDMS จากราคาหุ้นขึ้นเพียง 5.3% นับจากเราแนะนำ 17 กค 2017 vs BH +21.8% ขณะที่ PER ระหว่างสองบริษัท BDMS ต่ำกว่า 9.4เท่า จาก Avg. 5ปี จะสูงกว่าราว 2.97เท่า ส่วน Mid small เน้น BCH และ CHG
6. Bottom Out : 1) BWG แนวโน้มกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง และการได้โครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ มูลค่า 454.76 ลบ. เริ่มรับรู้ 1 กย 2017 จะหนุน FV ขึ้นจาก 2.4บาท สู่ 2.46บาท 2) TOYOTA เร่ง ECO Car ที่เหลืออีก 4แสนคัน ช่วงปีที่5-8 ตั้งแต่ต้นปี 2018 หนุนหุ้นท่าเรือส่งออก ที่ Low PER & High Yield แนะนำ NYT และ Auto Related(SNC)
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
KTB (TP20.6*): Support 18.0/17.5 Resistance 18.6/19.1
Theme : Bottom play
Earnings Outlook : คาดกำไรผ่านจุดแย่สุดในงวด 2Q17 มาแล้ว และจะทยอยฟื้นตัวใน 3Q17F ขณะที่ ประเด็นด้านคุณภาพสินทรัพย์และการตั้งสำรอง แม้จะยังด้อยกว่าอุตสาหกรรมแต่ใกล้ถึงจุดแย่สุดใน 2H17F แล้ว และจะเริ่ม Write-off ส่วน NPL บางส่วนแล้ว ขณะที่ กำไรจะฟื้นตัวปี 18F ถึง 16%
Valuation : หลังเริ่มเห็น Stock rotation มากลุ่มธนาคาร มอง KTB ยังน่าสนใจ และราคาหุ้นรับข่าวร้ายไปมากแล้ว โดยซื้อ-ขาย P/BV ต่ำเพียง 0.92x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 1.54x ค่อนข้างมาก
Catalyst : คาดผลประกอบการ 3Q17F ฟื้นตัว + ความคืบหน้าในการจ่ายหนี้ของ AQ โดยล่าสุด จ่ายหนี้งวดแรกแล้ว 1,635 ลบ. และส่วนที่เหลืออยู่ในช่วงเจรจากันก่อนศาลตัดสิน
CK (TP42*): Support 27.0/26.25 Resistance 28.25/29.25
Theme : Infrastructure spending
Earnings Outlook : คาดกําไรปกติ 2H17F แม้ลดลง h-h จากฐานสูง แต่ยังฟื้นตัว y-y แต่ภาพรวมปี 2017F คาดบริษัทจะได้ งานใหม่ราว 102,803 ล้านบาท (+322% y-y) โดยนับแต่ต้นปี มางานลงนามฯ/อยู่ระหว่างรอลงนามฯแล้วราว 47% หนุนฐาน Backlog ในช่วงถัดไป ซึ่งจะ Secure รายได้อีกหลายปี และหนุนกําไรปกติเติบโตในระยะยาวเฉลี่ย 28% CAGR ในช่วง 2017-19F
Valuation : ปัจจุบันซื้อขาย ณ P/B 2.1 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ + upside สูงถึง 52% ขณะที่ ธุรกิจมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีในหลายธุรกิจ รวมถึง ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เป็นรายใหญ่ อยู่ในจุดที่มีอำนาจต่อรองและโอกาสชนะประมูลสูง จากงานประมูลที่จะมีมากขึ้นนับจากนี้
Catalyst : งานประมูลภาครัฐที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง โดย 2H17F มีงานประมูลรวม มูลค่าราว 2.8 แสนล้านบาท คาดได้ราว 5 หมื่นล้านบาท
STEC (TP35*): Support 24.3/24.0 Resistance 25.5/27.0
Theme : Infrastructure spending
Earning Outlook : คาดกำไรปกติยังมีทิศทางที่ดีทั้งใน 2H17F คาดเพิ่มทั้ง h-h และ y-y และโมเมนตัมดีต่อเนื่องใน 2018F โดย Backlog ปัจจุบันสูงราว 1 แสนล้านบาท รองรับรายได้ช่วง 3 ปีหน้าเพียงพอ และยังมีงานประมูลรอบใหญ่เพิ่มขึ้นอีกมากช่วงถัดไป บวกต่อทั้งแนวโน้ม Backlog และ Margin
Valuation : ปัจจุบันซื้อขาย ณ P/B 3.4 เท่า แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ แต่ยังเหมาะสมจากความสามารถในการทำกำไรสูง , ฐานะการเงินแข็งแกร่ง รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
Catalyst : 2H17F ลุ้นงานประมูลโครงการรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ มูลค่ารวม 23,921 ลบ.
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
Fundamental Investment Analyst on Securities and Technical
[email protected] 0-2287-6871
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783