WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 1568.37 จุด ลดลง 0.58 จุด ก่อนที่จะไหลงลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1562.01 จุด ลดลง 6.94 จุด ก่อนที่จะฟื้นตัวได้เล็กน้อยจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร นำโดย PTT,TRUE พร้อมกับแกว่งตัวผันผวนที่อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 6.36 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ MTLS, CPF, EA, BH ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1566.53 จุด ลดลง 2.42 จุด (-0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 32,222 ล้านบาท


ภาพตลาดวันนี้
  ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีทิศทางที่แกว่งตัวในลักษณะ Sideway ในกรอบที่ 1562-1572 จุด เป็นลักษณะขึ้นวันลงวัน โดยวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเลือกพักตัว ที่ยังอยู่ในกรอบดังกล่าวส่งผลให้ยังคงมีมุมมองที่ดัชนีน่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1560-1570 จุด สักระยะก่อนที่จะเลือกทิศทางที่ชัดเจน แต่ให้ระวังทางลงมากกว่าหากหลุดกรอบดังกล่าว โดยมีแนวรับถัดไป 1550-1555 จุด ขณะที่ทางขึ้นมีกรอบที่ยังจำกัดที่ 1570-1574 จุด

แกว่งตัวผันผวน - แกว่งตัวออกข้าง กรอบ 1560-1570 จุด
   Support 1550-1554 // 1535 จุด Resistance 1574 // 1580-1583 จุด

พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]


บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

 

'คาด commodity จะนำตลาด'
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ปัจจัยต่างประเทศ ที่ดูคลุมเครือ จะเข้ามากดดันต่อตลาดหุ้นไทย ที่ดัชนีฯบอบบางจากปัจจัยลบอยู่แล้ว และการเก็งในเรื่องงบที่ลดระดับลงไปมาก อย่างไรก็ตาม คาดมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เข้ามาในตลาด ทำให้ดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะบวกหรือลบก็ไม่มาก


กลยุทธ์การลงทุน : เราประเมินว่าแรงซื้อในตลาดมีอยู่น้อย เม็ดเงินอยู่เท่าเดิม แต่จะเปลี่ยนกลุ่มเล่น โดยในวันนี้ ราคาสินค้าโคภัฑณ์หลายๆตัวที่สูงขึ้นในตลาดต่างประเทศ เป็นบวกต่อหุ้นหลายตัว และแรงซื้อหุ้นที่งบออกมาดีบางตัว จะเข้ามาหนุนดัชนีฯไว้ได้ระดับหนึ่ง .... ภาพรวมเรายังแนะนำชะลอการลงทุน หรือเลือกลงทุนแบบ selective buy เน้นปัจจัยเฉพาะตัว โดยเข้าลงทุนเพียงกรอบเวลาสั้นๆ
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ TMT, GFPT, VNT*, GPSC, PSL*, BANPU, PTTGC


หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค: TASCO, MC, WIIK
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ

(0) EPG กำไรยังสะดุดชั่วคราว แต่คาดงบครึ่งปีหลังจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น


ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (17 ส.ค.) ปิดที่ระดับ 1,568.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.43 จุด หรือ +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 47,001.78 ล้านบาท ตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ประเด็นต่างประเทศยังเป็นตัวกดดันตตลาด ในขณะที่การประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 21,750.73 จุด ร่วงลง 274.14 จุด หรือ -1.24% จากเหตุการณ์ก่อการร้ายในลบาร์เซโลนา ส่งผลให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสายการบินปรับตัวลงมาก อีกทั้งประเด็นเรื่องการเมืองสหรัฐฯยังคงเป็นปัจจัยลบต่อตลาดอีกด้วย.... ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.6% ปิดที่ 376.87 จุด
3 ประเด็นสำคัญสำหรับตลาดต่างประเทศ 3 ประเด็นสำคัญที่ตลาดกำลังจับตามองได้แก่ 1) เหตุโจมตีกลางกรุงบาร์เซโลนาซึ่งล่าสุดตำรวจสเปนยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บหลายราย 2) การเมืองสหรัฐฯ มีข่าวออกมาว่ายแกรี โคห์น ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวมีโอกาสที่จะลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหากเกิดขึ้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของทรัมป์อาจจะถูกชะลอออกไปได้ และ 3) รายงานการประชุม ECB บ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB มีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของยูโร ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินยูโรเทียบดอลลาร์อ่อนค่าลง .... ทั้ง 3 ประเด็นถือเป็นปัจจัยลบต่อตลาดโดยรวม ซึ่งคาดว่าจะทำให้ตลาดอ่อนตัวลงได้
ราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวต่อเนื่อง สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ +0.7% ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์/บาร์เรล .... หลัง EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามตัวเลข shipment ของกลุ่มโอเปคเพิ่มขึ้น 70,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งยังคงเป็นประเด็นกดดันต่อ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปัจจัยในประเทศยังเป็นลบจากผลประกอบการช่วงไตรมาส 2 ที่ออกมาชะลอตัวเป็นส่วนใหญ่ การประกาศงบการเงินสำหรับไตรมาส 2 ได้พ้นไป จากการรวบรวมของเราพบว่า กำไรรวม 2.27 แสนล้านบาท ลดลง -9.2% YoY และ ลดลง -21.7% QoQ โดย sector ที่ลงมามากได้แก่ ธนาคาร เหล็ก บรรจุภัณฑ์ ไอซีที อีเล็คทรอนิคส์ ปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง .... ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นประเด็นลบต่อตลาดหุ้นไทย

 

Fund Flow Analysis & Sector Rotation
Fund Flow นักลงทุนต่างประเทศ มีทั้งขายหุ้นบางตลาด (อินเดีย-ไทย) และซื้อกลับในบางตลาดด้วยจำนวนที่น้อยนิด ตลาดพันธบัตรเอเซีย สวนทางกับตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาด .... Fund Flow จากต่างประเทศยังไร้ทิศทาง จากตัวแปรหลายตัวที่เพิ่มความคลุมเครือให้ตลาด

 

ปัจจัยสำคัญ
คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของ Trump กำลังมีปัญหาทั้งการลาออกและให้ออก ส่งผลต่อโครงการด้านสาธารณูปโภค $1 ล้านล้านเหรียญ อาจ delay ไม่ทันปีนี้ เป็นลบต่อ outlook ของสหรัฐฯและตลาดหุ้นอื่นๆ แม้อาจดีจาก Fed ที่อาจยื่นการใช้นดยบายการเงินแบบผ่อนคลายอยู่ต่อไป
รายงานประชุม ECB ระบุคณะกรรมการกังวลต่อการแข็งค่าของเงินยูโร จริงๆ ผลต่อตลาด คาดจะทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนมากกว่า เนื่องจากความผันผวนในตลาด Forex มีผลต่อเงินลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ
การก่อการร้ายในบาเซโลน่า คืนที่ผ่านมา เป็นปัจจัยลบแต่ไม่ถือว่ามากนัก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมาก จากหลายเหตุผลข้างต้น และราคาหุ้น Walmart ปรับตัวลดลง
ตลาดเริ่มซาในเรื่องงบ 2Q ยกเว้นหุ้นที่มีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะดีต่อ หรือแย่ต่อเนื่อง และเตรียมทยอยขึ้น "XD"
สัปดาห์หน้ามีหลาย event ที่สำคัญ ทั้ง GDP 2Q ของไทย คาด 3.1% ตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.ค. และการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของ Fed ที่เมืองแจ็กสัน โฮล 24-26 ส.ค.
ทิศทางตลาดหุ้น ปัจจัยต่างประเทศ ที่ดูคลุมเครือ จะเข้ามากดดันต่อตลาดหุ้นไทย ที่ดัชนีฯบอบบางจากปัจจัยลบอยู่แล้ว และการเก็งในเรื่องงบที่ลดระดับลงไปมาก อย่างไรก็ตาม คาดมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เข้ามาในตลาด ทำให้ดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะบวกหรือลบก็ไม่มาก


กลยุทธ์ลงทุน เราประเมินว่าแรงซื้อในตลาดมีอยู่น้อย เม็ดเงินอยู่เท่าเดิม แต่จะเปลี่ยนกลุ่มเล่น โดยในวันนี้ ราคาสินค้าโคภัฑณ์หลายๆตัวที่สูงขึ้นในตลาดต่างประเทศ เป็นบวกต่อหุ้นหลายตัว และแรงซื้อหุ้นที่งบออกมาดีบางตัว จะเข้ามาหนุนดัชนีฯไว้ได้ระดับหนึ่ง .... ภาพรวมเรายังแนะนำชะลอการลงทุน หรือเลือกลงทุนแบบ selective buy เน้นปัจจัยเฉพาะตัว โดยเข้าลงทุนเพียงกรอบเวลาสั้นๆ

# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่ม #
เรายังให้ความสนใจต่อหุ้นที่ไม่อิงต่อภาวะเศรษฐกิจมากนัก หรือมีความเป็น defensive เช่น โรงไฟฟ้า โดยวันนี้ เราสลับตัวไปยัง GPSC ที่ถูกกลับเข้ามาเล่นอีกครั้ง หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลกลางปี (LH ; ขึ้น "XD" 27 ส.ค. @0.40) หรือแม้กระทั่งหุ้นใหญ่ในกลุ่ม ICT คือ ADVANC ที่ราคาปรับลดลง แต่ยังคงความเป็นเบอร์หนึ่งของกลุ่มอยู่
  กลุ่มนำตลาดหุ้นในวันนี้ น่าจะเป็นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ราคาสาย hard commodity คือกลุ่มโลหะ โดยอานิสงค์ จะเป็นเรื่อง demand ที่สูงขึ้น และ supply ที่เพิ่มไม่ทัน หรือมีปัญหาด้านการผลิต รวมไปถึงราคาถ่านหิน (Newcastle= $98) และการสูงขึ้นของค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index 1247 จุด สูงขึ้น 32% จากปลายเดือนก่อนแล้ว) หุ้นที่เราแนะนำในชุดนี้ จะเป็นหุ้น 4 เกลอ คือ TMT, PSL , BANPU และ VNT โดยตัวหลังสุด คาดจะได้อานิสงค์จากราคาถ่านหินที่สูงขึ้น จะทำให้ supply ของ PVC ที่ผลิตจากถ่านหินเป็นตัวตั้งต้นนั้นลดลง


เรายังไม่ทิ้งความสนใจที่มีต่อหุ้นหลักของกลุ่มปิโตรเคมีต้นน้ำ จากข่าวการส่งออกน้ำมันเดือน ก.ย.ของกลุ่ม OPEC ที่จะสูงขึ้น กดดันต่อราคาน้ำมันดิบ แต่ดี spread ของผู้ซื้อน้ำมันหรือมีต้นทุนอิงน้ำมัน เรายังคงให้น้ำหนักต่อ SCC, PTTGC ... ขณะที่หุ้นโรงกลั่นน้ำมัน ค่าการกลั่นลดระดับลงมาเรื่อยๆ แม้ราคาหุ้นโรงกลั่นน้ำมันจะสูงขึ้น เรายังแนะให้ทยอยขายทำกำไรช่วงสั้น หรือเล่นด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
มองข้ามไปถึงสัปดาห์หน้า สภาพัฒน์ฯ จะรายงานตัวเลข GDP 2Q ในวันจันทร์ ตัวเลขคาดการณ์ คือ 3.1% จาก 3.3% ใน 1Q ตัวเลขที่ออกมาจะมีผลต่อหุ้นที่ link กับภาวะเศรษฐกิจโดยตรง หากดูราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงมาระดับหนึ่งแล้ว หลัง NPLs สูงขึ้นและเกิดภาวะน้ำท่วม .... ในเชิงกลยุทธ์ เราจึงมองเป็นจุดที่พร้อมจะ rebound หรือ cut loss หากตัวเลข GDP ออกมาดี หรือไม่ดี
จากที่แนะนำไปในวันก่อน เรายังสนใจหุ้นเล็กที่ผลประกอบการ 2Q ออกมาดี ไม่ได้สั่นไหวไปตามภาวะเศรษฐกิจ และราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก เราสนใจหุ้น 2 ตัว คือ UTP (กำไร 63 ลบ. +29% YoY ; +3% QoQ) และหุ้น CPR (กำไร 20 ลบ. +22% YoY ; -7% QoQ)

 

Stock in Focus

หุ้น เหตุผล
TMT(ราคาปิด 15.70) ราคาเหล็กปรับตัวขึ้น เป็นบวกต่อ TMT …. คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q17 จะกลับมาเติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ เป็นประมาณ 150 - 180 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าทิศทางราคาเหล็กในงวด 3Q17 กลับมามีทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มได้ค่อนข้างดี .... TMT เป็นหุ้นที่มี dividend yield สูงที่ 7.6% (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 15.80 บาท)

GFPT(ราคาปิด 19.60) ราคาไก่ยังคงอยู่ในระดับสูง และผลประกอบการยังออกมาดี โดย GFPT มีกำไรสุทธิ 2Q17 ที่ 494 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาด 490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%YoY และ16%QoQ สาเหตุหลักมาจากราคาไก่ที่อยู่ในระดับสูงและส่งออกมากขึ้น ....ในช่วง 2H17 จะเป็นช่วงที่ได้ผลประโยชน์ทางฤดูกาล โดยจะมีคำสั่งซื้อมากขึ้นใน 3Q17 คาดกำไรปี 2017 เติบโต 17% YoY …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 22.00 บาท)

VNT*(ราคาปิด 21.60) ราคาถ่านหินอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ราคา PVC ปรับตัวสูงขึ้นตามลำดับ .... กำไร 2Q17 ที่ออกมาต่ำเป็นเพราะรายการพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียว PTTGC เตรียมหารือกับกลุ่มอาซาฮีจากญี่ปุ่น ซึ่งกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ.วีนิไทย (VNT) เพื่อหารือถึงการต่อยอดการผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษร่วมกันในอนาคต

GPSC(ราคาปิด 30.00) มอง GPSC เป็นหุ้น defensive .... บริษัทฯรายงานกำไร 2Q-17 ที่ 815 ลบ. +19% YoY และ +9% QoQ .... GPSC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านสาธารณูปโภคของกลุ่ม PTT ปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่เริ่ม COD ตามสัดส่วนการถือหุ้นทั้งสิ้น 1,375.7 MW และมีอีก 496.54 MW ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเตรียม COD ต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2019 เรามอง GPSC อยู่ในช่วงของการเติบโตตามกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น โดยคาดบริษัทจะสามารถสร้างอัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้น (CAGR) ของกำไรในอีก 3 ปีข้างหน้าได้สูงถึง 18% ต่อปี.... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 43.00 บาท)
Source: KTBST Research

 

ประเด็นสำคัญ : ข่าวและหุ้น
เหตุการณ์ความไม่สงบ - สื่อรายงานว่า เกิดเหตุรถแวนคันหนึ่งพุ่งชนคนหลายสิบคนในใจกลางเมืองบาร์เซโลนาในวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บหลายราย ตำรวจสเปนยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 232,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 25 ก.พ. ซึ่งขณะนั้นจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 227,000 ราย
สถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ - นักวิเคราะห์จาก Yale School of Management กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะทรุดตัวลง ถ้าหากนายแกรี โคห์น ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวว่า "นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเขาจะช่วยผลักดันการปฏิรูปภาษี ซึ่งผมคิดว่า ถ้าเขาลาออก ก็จะทำให้ตลาดดิ่งลง"
เศรษฐกิจยุโรป - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 20 ก.ค.ในวันนี้ บ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB มีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของยูโร ส่งผลให้ยูโรดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ต่ำกว่าระดับ 1.1700 ดอลลาร์


เศรษฐกิจไทย -หลายสำนักวิจัยเศรษฐกิจต่างเห็นพ้อง GDP ไตรมาส 2 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมีแรงหนุนสำคัญจากภาคส่งออกและท่องเที่ยว พร้อมหวังว่าการเร่งลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังได้ แนะจับตาปัจจัยเสี่ยงเรื่องความผันผวนของค่าเงิน และนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ
MTSL - MTLS ชี้แจงกระแสข่าวลือที่ระบุว่าบริษัทจะผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว BE และบริษัทจะมีการเพิ่มทุนว่า ตั๋ว B/E ทีจะครบกำหนดในเดือน ส.ค.60 มีประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เตรียมวงเงินไว้เพียงพอสำหรับการจ่ายชำระคืนตั๋ว B/E แล้ว ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้รายใดและมีฐานะทางการเงินทีมั่นคง นอกจากนี้ สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศให้ความไว้วางใจ และพร้อมให้การสนับสนุนในการดำเนินงาน
PTTGC - PTTGC แจ้งว่า บริษัท โซลูชั่น ครีเอชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ PTTGC ถือหุ้น 100% ได้ลงนามสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น (Shareholder Agreement) กับบริษัท TPBI International Company Limited และ Myanmar Star Group Company Limited ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนฯในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
MILL - MILL เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ในการว่าจ้างให้บริษัทก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้าระบบ33KV จาก Outdoor เป็น Indoor ที่สถานีไฟฟ้าสงขลา มูลค่าโครงการ 90.4 ล้านบาท จากปัจจุบันที่บริษัทมีมูลค่าในมือกว่า 200 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะสามารถประมูลงานได้ประมาณ 300-500 ล้านบาท


Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]

Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!