WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook

 

ความเชื่อมั่นว่า Trump จะออกมาตรการใด ๆ ได้ทรุดอีก
       คาดหุ้นไทยปรับตัวลงวันนี้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกจากเหตุทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นกับประธานาธิบดี Trump ซึ่งอาจกระทบตำแหน่งประธานาธิบดี และทำให้ความเชื่อมั่นว่าเขาจะออกมาตรการทางเศรษฐกิจที่หาเสียงไว้ได้นั้นคลอนแคลนลงไปอีก เหตุการณ์ร้ายต่อฝูงชนที่บาเซโลนา ยิ่งส่งผลลบต่อตลาด ไม่มีปัจจัยหนุนตลาดใหม่ ๆ ภายในประเทศ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยยังมองตลาดเป็นลบ หากดูจากตัวเลขขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีที่ 4.88 หมื่นล้านบาท

หุ้นเด่นวันนี้ : BANPU (ราคาปิด 16.70 บาท; NR; Bloomberg TP Bt22.21)


       ผลประกอบการของ BANPU ใน 2Q60 ชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยรายงานกำไรปกติที่ 2.8 พันล้านบาท (+1.5% QoQ, +426.9% YoY) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาถ่านหินเฉลี่ยใน 2Q60 ที่ยืนในระดับสูง (79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เทียบกับ 52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันใน 2Q59) และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าหงสาที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านบาทหรือ +566%QoQ คาดภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินยังคงสดใสต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2560 โดยบริษัทประเมินราคาถ่านหินเฉลี่ยทั้งปีที่ราว 80-85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เทียบกับครึ่งแรกของปีที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 66.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน เพิ่มขึ้น 20%-27% ล่าสุดราคาถ่านหินนิวคาสเซิล (เป็นราคาอ้างอิงของบริษัทฯ) อยู่ที่ระดับ 97.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ทั้งนี้ราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่นมีสาแหตุมาจากจากความต้องการบริโภคถ่านหินคุณภาพสูงจากจีนที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายควบคุมมลภาวะ

 

     และ ความต้องการบริโภคถ่านหินของจากเกาหลีใต้และไต้หวันที่เพิ่มขึ้นจากการปิดโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์และการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ในขณะที่ Supply ของถ่านหินกลับเพิ่มขึ้นได้จำกัดเนื่องจากผู้ผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ขณะที่ผู้ผลิตถ่านหินในรัสเซียและทางเหนือของจีนกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ทั้งนี้ข้อมูลประมาณการจาก Bloomberg Consensus แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มผลประกอบการของ BANPU ที่ปรับตัวดีขึ้นจากกำไรสุทธิ 1,677 ล้านบาทในปี 2559 คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 8,949 ล้านบาทหรือ +433.6% สำหรับ Price Pattern ของ BANPU ยังมีแนวโน้มหลักเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily & Monthly Buy Signal รอเพียงการกลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะกลางจากการเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่เท่านั้น ก็จะทำให้ Price Pattern ของ BANPU เข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างเต็มที่ โดยหาก Price Pattern ของ BANPU สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 18 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ BANPU มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 23.60 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 31.50 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ BANPU มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 16.20 บาท (แนวต้าน: 16.80, 17.00, 17.40; แนวรับ: 16.50, 16.30, 15.90)


ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
เสนอใช้ มาตรา 44 เพื่อจัดการกับอุปสรรคธุรกิจ Startup กระทรวงการคลังจะร้องขอรัฐบาลอนุมัติใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับุธุรกิจ Startup เป็นการลดขั้นตอนการพิจารณากฎหมายที่ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา (บางกอกโพสต์)
ธปท.แนะนำให้ธุรกิจ SMEs ใช้ FX Option ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดแนวทางในการออกสิทธิในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FX Option) ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ เพื่อสนับสนุนให้ SMEs เข้าถึงเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น (บางกอกโพสต์)
MTLS (32.75 บาท; ซื้อ; AWS TP: 41.00 บาท) ชี้แจงข่าวลือเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องการผิดนัดเงินลงทุนในตั๋วแลกเงิน (B/E) และการเพิ่มทุน ว่าบริษัทฯ มีเงินทุนเพียงพอในการชำระคืนตั๋วแลกเงิน(B/E) และยังไม่มีแผนการเพิ่มทุน (SET)หมายเหตุ: จากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและผลการดำเนินงานที่ยังแข็งแกร่งของ MTLS ทำให้เราเห็นว่าข่าวลือดังกล่าวไม่น่าเป็นไปได้ บริษัท ยังคงมี D/E ที่ 2.9 เท่าซึ่งยังไม่เกินอัตราส่วนที่กำหนดไว้ที่ 4 เท่าซึ่งหมายความว่าไม่มีความกดดันในการเพิ่มทุน เราเห็นว่าราคาหุ้นที่ลดลงจะเป็นโอกาสในการเข้าสะสมและคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ของเราที่ 2.4 พันล้านบาท (+ 64% YoY)

 

ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนตระหนกต่อเหตุรถพุ่งชนผู้โดยสารในเมืองบาร์เซโลนาและข่าวลือว่านายแกรี โคห์นที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวระดับสูงลาออก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่ำสุดในช่วง 4 วัน ที่ระดับ 2.196% ลดลง 3 bps จากเมื่อวันพุธ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อวันพฤหัส ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินยูโรหลังการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบาย ECB ประจำเดือนก.ค. แต่ถูกบดบังด้วยข่าวลือในทำเนียบขาว ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดบวก 0.12% สู่ระดับ 93.656 (Reuters)

 

สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนักสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันพฤหัส จากความวุ่นวายที่ล้อมรอบปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่เขาให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุรุนแรงในเมืองชาร์ล็อตตส์วิลล์กัดเซาะความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับการผลักดันวาระนโยบายต่าง ๆ ว่าจะเป็นจริงได้หรือไม่ อีกทั้งตลาดได้รับทราบเหตุสังหารผู้คนในเมืองบาร์เซโลนา (Reuters)
เกิดเหตุรุนแรงในเมืองชาร์ล็อตต์สวิลล์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มคนผิวขาวที่มีแนวคิดเหยียดผิวเดินขบวนประท้วงการรื้ออนุสาวรีย์ของนายพล Robert E. Lee ผู้นำกองทัพคอนเฟเดอเรชัน มีผู้หญิงรายหนึ่งเสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีก 19 รายเมื่อมีชายผู้หนึ่งถูกระบุว่าเป็นพวกชาตินิยมขวาจัดขับรถพุ่งชนผู้ที่เดินขบวนประท้วงดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวตำหนิเหตุความรุนแรงดังกล่าวว่าเป็นความผิดของทั้งสองฝ่ายและแสดงความไม่พอใจต่อการรื้ออนุสาวรีย์ดังกล่าว (Reuters)
จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงใกล้ต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในสัปดาห์ที่แล้ว แสดงถึงตลาดแรงงานยังตึงตัวต่อไป จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 232,000 ราย โดยยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 128 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 240,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว (Reuters)

 

ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวลงวานนี้ เนื่องหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดิ่งลงหลังจากเฟดเผยรายงานการประชุม รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มดังกล่าวบดบังการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัท (Reuters)
เกิดเหตุรถตู้ชนผู้คนกลางเมืองบาร์เซโลนา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และขบวนการรัฐอิสลาม lS ได้ออกมากล่าวว่าเป็นฝีมือของพวกเขา (Reuters)
รายงานการประชุม ECB เผยว่าเจ้าหน้าที่หลายๆ คนได้เตือนว่าค่าเงินยูโรอาจแข็งค่าเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพยายามของ ECB ในการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้ไม่มีการลด QE (Reuters)

 

เอเชีย :
สัญญาซื้อขายเหล็กล่วงหน้าของจีนพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี หยุดการร่วงลง 4 วันติดต่อกัน จากความต้องการของผู้บริโภครายใหญ่ของโลกที่แข็งแรง ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบในการผลิตเหล็กอย่างสินแร่เหล็กและถ่านหิน Coking ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะถ่านหิน Coking ที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 8% ในขณะที่แร่เหล็กเพิ่มขึ้น 7% (รอยเตอร์)
คณะรัฐมนตรีของจีนกล่าวว่าประเทศจีนจะเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนทั่วโลกมากขึ้น โดยเน้นภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกใหม่ การออกแบบเรือ การบำรุงรักษาเครื่องบิน และการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ (รอยเตอร์)


สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัส หนุนโดยสต็อกน้ำมันสหรัฐที่ลดลง หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันตามสัญญาในตลาด NYMEX ปรับลดลง ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 76 เซนต์ (+1.51%) อยู่ที่ 51.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น 31 เซนต์ (+0.66%) อยู่ที่ 47.09 ดอลลาร์ (Reuters)
ปรับขึ้น 0.2% อยู่ที่ 1,284.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.6% อยู่ที่ 1,290.60 ดอลลาร์ ราคาทองเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกัน หลังจากเฟดเผยว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจช้ากว่าที่คาด ราคาทองคำตลาดจร(Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!