- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 August 2017 17:13
- Hits: 5269
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อใหม่ด้วยค่าบวก/หรืออ่อนที่แนวรับ'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : TIPCO (FVเป็นถือ), FN&LPH (ซื้อเป็นถือ), SVI (ถือเป็น FV)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวันศุกร์ SET ร่วงลง 10.33 จุดปิดที่ 1561.31 เนื่องจาก Sell on fact และความกังวลสถานการณ์เกาหลีเหนือกับสหรัฐที่คุกกรุ่น สถาบันในปท.นำขายสุทธิ 3.6 พันลบ. ส่วนอีก 3 กลุ่มซื้อสุทธิ
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยภายนอก – ตัวเลข PPI และ CPI เดือนก.ค.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด โดย PPI -0.1%MoM, +1.9%YoY และ CPI +0.1%MoM, +1.7%YoY ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ (CME FedWatch ระบุว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.60 ลดเหลือเพียง 38% จาก 45% ก่อนรายงานตัวเลข CPI) ด้านจีน ภาคอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีกขยายตัวดีในเดือนก.ค. และเศรษฐกิจญี่ปุ่นงวดเม.ย.-มิ.ย.60 โตได้ 1%QoQ และ 4%YoY จากการบริโภคภาคเอกชนที่ดีขึ้น ปัจจัยติดตามคือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ, ทิศทางราคาน้ำมัน และค่าเงิน US$ (ซึ่งขยับแข็งขึ้นในช่วงนี้)
ปัจจัยในประเทศ – มีการประชุมกนง.วันพุธนี้ เราและตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ต่อเพราะเงินเฟ้อของไทยยังต่ำมาก ส่วนกำไร 2Q60 คาดว่าจะลดลง YoY และ QoQ เพราะกลุ่มโภคภัณฑ์มีขาดทุนสต็อกและอุปสงค์ในประเทศซบเซา การแข่งขันตัดราคามีมากขึ้น อย่างไรก็ตามก็มีหลายบริษัทใน DBS Coverage ที่มีกำไร 2Q60 เติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เช่น GFPT, BEAUTY, STEC, AMATA, LH, AP, HANA, CPNRF เป็นต้น และหุ้นที่อยู่นอก Coverage ที่มีกำไรบวกดี ได้แก่ MEGA, INET, WHAUP เป็นต้น ส่วนหุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ (9-15 ส.ค.60) ประกอบด้วย AMATA, KBANK, WHAUP (ดู Theme ลงทุนในข่าวเช้าวันที่ 9 ส.ค.60)
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ การซื้อใหม่เน้นค่าบวก หรือ่อนตัวที่แนวรับ 1560+/-, 1550 จุด แนวต้าน 1570-1580 จุด สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น RATCH, CBG, BDMS, CRANE, NETBAY หุ้นยังอยู่ใน List คือ LST, ACAP หุ้นหลุด List คือ AH, SYNEX, PSH, DTAC ส่วนหุ้นแนะนำที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรคือ WORK
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : CPI เดือนก.ค.เพิ่มน้อยกว่าคาด และ PPI ลดลงเทียบ MoM…คาดเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย
* กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ +0.1%MoM, +1.7%YoY ในเดือน ก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะ +0.2%MoM ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน +0.1%MoM, +1.7%YoY ในเดือนก.ค.
* ดัชนี PPI เดือนก.ค. -0.1%MoM, +1.9%YoY หลัง +0.1%MoM ในเดือนมิ.ย.60 โดยการร่วงลงของดัชนี PPI ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ และราคาพลังงานอ่อนตัวลง ด้าน PPI พื้นฐานเดือนก.ค.ทรงตัว MoM และ +1.9%YoY
* เจ้าหน้าที่ของเฟด (ประธานเฟดมินาอาโพลิส, ประธานเฟดดัลลัส) ส่งสัญญาณไปในทิศทางเดียวกันว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ไปจนกว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น
* CME Group ระบุว่าจากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 38% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้โดยลดลงจาก 45% ก่อนการเปิดเผยดัชนี CPI
+ จีน : ผลผลิตอุตสาหกรรม การลงทุน และยอดค้าปลีกเดือนก.ค.เติบโตดี
* สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ขยายตัว 6.4%YoY และโต 0.41%MoM ขณะที่เดือนมิ.ย.ขยายตัว 7.6%YoY สำหรับงวด 7M60 การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 6.8%YoY ซึ่งตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมนี้ใช้วัดกิจกรรมของวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 20 ล้านหยวน หรือเกือบ 3 ล้านดอลลาร์
* ยอดการลงทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ช่วง 7M60 เติบโต 7.9%YoY ลดลงจากระดับ 6M60 ที่เพิ่ม 8.5%YoY
* ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคเดือนก.ค.ขยายตัว 10.4%YoY
* ยอดการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ในช่วง 7M60 ขยายตัว 8.3%YoY
+ ญี่ปุ่น : เศรษฐกิจงวดเม.ย.-มิ.ย.เติบโต 4%YoY
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเศรษฐกิจขยายตัว 4%YoY ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.60 และขยายตัว 1%QoQ โดยหลักมาจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : วันศุกร์บวกขึ้นอย่างจำกัด
ดัชนี DJIA ปิด +14.31 จุด หรือ +0.07% ดัชนี S&P500 ปิด +3.11 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิด + 39.68 จุด หรือ +0.64% ปัจจัยหนุน คือ การคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ แต่บรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ดัชนีเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด
• ตลาดน้ำมันดิบ : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกในปีนี้ และเบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ ปิดตลาดวันศุกร์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 48.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 52.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
+ ตลาดทองคำ COMEX : ราคาขยับขึ้นต่อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. +3.90 ดอลลาร์ หรือ +0.3% ปิดที่ 1,294.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.3%WoW
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• กนง.ประชุม 16 ส.ค.นี้...คาดคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5%
คณะกรรมการนโยบายการเงินจะประชุมกันวันพุธที่ 16 ส.ค.นี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% เพราะอัตราเงินเฟ้อไทยยังต่ำมาก และประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยระดับนี้ไปถึงอย่างน้อยสิ้นปี 60 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทย
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]