- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 August 2017 19:59
- Hits: 5197
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อเมื่อหุ้น&ตลาดบวก'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทย Underperform ภูมิภาค ปิดตลาดร่วง 4.59 จุดมาอยู่ที่ 1573.67 การซื้อขายยังซบเซา โดยเวียนกลุ่มเวียนหุ้นบน Gap ที่ไม่มาก โดยมีความกังวลเรื่อง NPL, กำลังซื้อชะลอตัว, ผลกระทบจากน้ำท่วม, บาทแข็ง รวมทั้งการตัดราคาที่มีมากขึ้น สถาบันในปท. ต่างชาติ และพอร์ตบล.ขายสุทธิ ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ 1.2 พันลบ.
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยภายนอก - ดัชนีตลาดหุ้น ราคาโภคภัณฑ์ (น้ำมันและทองคำ) บวก/ลบไม่มากเพราะรอปัจจัยใหม่ โดยปท.ผู้ผลิตน้ำมันมีประชุมกันวันที่ 7-8 ที่อาบูดาบีเพื่อหารือเรื่องการลดปริมาณการผลิตตามแผนหลังหลายประเทศไม่ได้ปฎิบัติตามข้อตกลง ด้านความเห็นของประธานเฟดเซนหลุยส์ว่า เฟดไม่จำเป็นต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยแม้แรงงานจะค่อนข้างเต็มศักยภาพแล้วแต่ว่าเงินเฟ้อยังต่ำนั้นสอดคล้องกับความเห็นเราและตลาดส่วนใหญ่ ดัชนีค่าเงิน US$ กลับมาอ่อนลง
ปัจจัยในประเทศ - กำไรบจ. 2Q60 อ่อน QoQ หลายบริษัทรายงานกำไรต่ำกว่าคาดเพราะยอดขายโตน้อย มีขายตัดราคามากขึ้นทำให้มาร์จิ้นอ่อนลง รวมทั้งไม่สามารถลดต้นทุน&ค่าใช้จ่ายได้มากนัก ประกอบกับหลายบริษัทถือโอกาสที่ผลประกอบการไม่สดใส ตั้งสำรองด้อยค่าในส/ทต่างๆด้วย โดยกำไร 2Q จะรายงานได้ถึงกลางส.ค. และหลังจากนั้นก็ติดตามสถานการณ์การเมืองกันต่อ สำหรับหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น LH
- TU : กำไร 2Q60 1.4 พันลบ. -7.6%YoY ดีกว่าคาดเพราะอัตราภาษีต่ำลง เป็น 1.3% จาก 22% ใน 2Q59 จาก Red Lobster ได้เครดิตภาษีคืน แต่ EBT - 27%YoY, -5%QoQ แม้ว่า TU จะลดคชจ.ได้ดี แต่ยอดขายที่ +1%YoY GPM ลดเป็น 13.4% จาก 15.9% ใน 2Q59 หลังต้นทุนทูน่าสูง&ปรับขึ้นราคาขายยาก แนวโน้มราคาทูน่ายังสูงต่อใน 2H60 ทำให้ธุรกิจต้องใช้เวลาฟื้นตัว ให้ TP พื้นฐาน 21 บาท
+ LH : คาดกำไร 2Q60F จะโตเด่น จากโอนคอนโด 3 โครงการ มีกำไรพิเศษราว 1 พันลบ.หลังขายแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ราชดำริเข้า LHHOTEL แนวโน้ม Core profit ใน 2H60 ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง จ่ายปันผลสูง คาด Yield ปีนี้ 6% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) แนะซื้อ TP 11.10 บาท
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ ซื้อใหม่เน้นค่าบวก/หรือเมื่อเหนือ 1570 แนวต้าน 1580-1590 และ Stop loss เมื่อหลุด 1570 จุด แนวรับ 1570, 1560-1550 จุด สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น SCB, PLE, TAPAC หุ้นยังอยู่ใน List คือ ITEL, SQ, JMART, BCP, TOP, STAR, TPIPP, WICE หุ้นหลุด List เป็น SYNEX ส่วนหุ้นแนะนำที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรคือ WHAUP
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค& Reseach Team - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
สหรัฐ : ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ชี้เฟดสามารถชะลอขึ้นดอกเบี้ย หลังคาดเงินเฟ้อไม่สูงในช่วงนี้
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดสามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นมากและตลาดแรงงานสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ PCE ที่ไม่รวมอาหารและพลังงานอยู่ที่ 1.5% ในหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งยังต่ำกว่าเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดัชนีปรับขึ้นเล็กน้อย นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนี DJIA +25.61 จุด หรือ +0.12% ดัชนี S&P500 +4.08 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq +32.21 จุด หรือ +0.51% นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่มีผลกำไรแข็งแกร่ง และตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐที่ดี รวมถึงความเห็นของประธานเฟดเซนหลุยส์ที่เห็นว่าเฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย
ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลงเล็กน้อย..รอผลประชุมประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 49.39 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 52.37 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนรอดูผลประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่เมืองอาบูดาบี วันที่ 7-8 ส.ค.นี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันบางประเทศไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงในการลดปริมาณการผลิตลงอย่างเต็มรูปแบบ
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาทรงตัว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,264.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
+ SIRI : จับมือกับ Tokyu Corporation ร่วมทุนตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
# SIRI แจ้งว่าบริษัทได้เข้าร่วมลงทุน 70% จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท สิริ ทีเค วัน จำกัด เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นร่วม ได้แก่ Tokyu Corporation ถือหุ้น 29% และบริษัท สห โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 1%
# บริษัทปรับเพิ่มเป้ายอดขายปีนี้เป็น 4 หมื่นล้านบาท (เดิม 3.6 หมื่นล้านบาท) หลังยอดขาย 7M60 สูงที่ 1.73 หมื่นล้านบาท (+20%YoY) และในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการมูลค่ารวม 3.9 หมื่นล้านบาท มีทั้งคอนโด (7 โครงการ) บ้านเดี่ยว (8 โครงการ) และทาวเฮ้าส์ (1 โครงการ) โดยมองว่าโครงการที่อยู่ในทำเลดียังขายได้ นอกจากนั้นบริษัทยังมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้อคอนโดมากขึ้นด้วย
# แนะนำถือ โดยคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 60-61 ที่ 6% ต่อปี (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]