- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 08 August 2017 19:37
- Hits: 585
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Bottom Fishing/Defensive
Smart Pick
1.สะสม AMATA : ราคาปิด 16.60 บาท ราคาเหมาะสมอิง Consensus 18.50 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) คาดการณ์กำไรปกติ 2Q60 ที่ 310-320 ล้านบาท เติบโตสูง YoY และเพิ่มขึ้น QoQ จาก 2Q59 ที่ 192 ล้านบาท และ 1Q60 ที่ 250 ล้านบาท จากยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เป็น 112 ไร่ รวมทั้ง Equity Income ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้า
b) ปัจจัยบวกด้าน Quantitative เนื่องจากได้ Stock Rating ที่ระดับ 9 และ Sentiment Score ที่ระดับ 100% จากการวิเคราะห์เชิง Quantitative ผ่าน Sensify ของเรา
c) ได้ประโยชน์สูงสุดจากนโยบายระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) เนื่องจากมีที่ดินสูงถึง 1.4 หมื่นไร่ในเขต EEC และ Consensus คาดการณ์กำไรปี 2560 เติบโต +16% YoY เป็น 1,387 ล้านบาท และเร่งตัวขึ้นเป็น 1,813 ล้านบาท +30.7% YoY ในปี 2561
2. เก็งกำไร BANPU : ราคาปิด 17.30 บาท ราคาเหมาะสม 20.00 บาท
a) คาดหุ้นกลุ่มถ่านหินไต่ระดับขึ้นต่อ จากแรงหนุนของราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์ล่าสุด US$96.83/ตัน เพิ่มขึ้น US$3.31/ตัน และมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อจากภาวะ Supply ตึงตัว เนื่องจากการผลิตถ่านหินในจีนลดลง และ UN คว่ำบาตรเกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกถ่านหิน
b) คาดรายงานผลประกอบการ 2Q60 ในวันที่ 11 ส.ค. คาดการณ์กำไรสุทธิที่ 2,613 ล้านบาท เติบโต +827% YoY และ +82% QoQ จากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น +51.9% YoY เป็น US$79/ตัน และโรงไฟฟ้าหงสาสร้างกำไรให้อย่างต่อเนื่อง
c) ราคาหุ้นยัง Underperform โดย YTD -9.9% เทียบกับ SET Energy +1.8% และ SET INDEX +1.9% จากความกังวลต่อการตัดสินคดีหงสา อย่างไรก็ตาม คาดว่าศาลจะยังไม่มีคำตัดสินในระยะเวลา 1-2 เดือนข้างหน้า และการฟื้นตัวที่โดดเด่นของราคาถ่านหินเปิดโอกาสให้เข้าเก็งกำไรระยะสั้น
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 4.59 จุด ปิดที่ 1573.67 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 3.3 หมื่นล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเกิดจากหุ้นที่ขึ้น XD ได้แก่ ADVANC และ SCC กดดัน SET ราว 2 จุด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติ สถาบันในประเทศ และบัญชี บล. ขายสุทธิทั้ง 3 กลุ่ม ราว 724 ล้านบาท, 401 ล้านบาท และ 80 ล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิหนาแน่นกว่า 8.9 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 5.9 พันสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
คาด SET INDEX ทรงตัวในกรอบ 1570-1580 จุด ตลาดหุ้นไทยยังคงขาดปัจจัยบวกใหม่ ในขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย อยู่ในระดับต่ำเพียง 3.6% YoY ในปีนี้ และโอกาสที่นักวิเคราะห์ในตลาดจะปรับเพิ่มประมาณการมีค่อนข้างจำกัด ทำให้ยากที่จะเห็นเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนในประเทศ ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย สะท้อนจากต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 9 วันติดต่อกันรวมกว่า 1.75 หมื่นล้านบาท และ YTD กลับมาขายสุทธิเพียงเล็กน้อย
วันนี้ จับตาการรายงานดัชนีการค้าระหว่างประเทศของจีนเดือน ก.ค. ได้แก่ ยอดส่งออก ตลาดคาดขยายตัวดีถึง 11% YoY และยอดนำเข้า ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 18% YoY หากออกมาดีกว่าคาด จะช่วยเสริม Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้
กลยุทธ์ Selective Buy หุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัว เช่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง (BANPU) และเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q60 (AMATA) มุมมองระยะกลาง เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นปันผลเด่น (Dividend Plays) เน้นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลสูงเกิน 2% เช่น LH, PSH, INTUCH
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สหรัฐฯ พร้อมเจรจากับเกาหลีเหนือ หากยุติการทดสอบยิงขีปนาวุธ
ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
วันนี้ PTTEP ขึ้น XD จ่ายปันผลหุ้นละ 1.50 บาท กดดัน SET ราว 0.6 จุด
ติดตามผลการประชุม OPEC/Non-OPEC และมูลค่าการนำเข้าส่งออกจีน โดยตลาดคาดการส่งออกจะขยายตัว 11% YoY
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีน วันที่ 9 ส.ค.
ติดตามการประมูลรถไฟทางคู่และ MSCI index reviewในวันที่ 10 ส.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ วันที่ 11 ส.ค
Strategist Team
Mayuree Chowvikran , Head of Research ,662-009-8050
Padon Vannarat , Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol , Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Assistant Strategist