- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 04 August 2017 12:10
- Hits: 5198
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Market waits and sees for…
วันนี้คาด ดัชนีฯแกว่งในกรอบ 1,575-1,585 จุด ปัจจัยที่ต้องตาม (+/-) ประชุม โอเปก นอกรอบ 7-8 สค. นี้
(+/-) MSCI quarterly review 13 สค. (+/-) การประกาศงบ บจ.โค้งสุดท้ายสัปดาห์หน้า คาดตลาดจะแกว่ง
ออกข้างเพื่อรอดูความชัดเจนในประเด็นต่างๆ ข้างต้น ทำให้กลุ่ม Earnings resilient ยังคง Outperform
ตลาด
แนวโน้มสัปดาห์นี้คาด Sideways 1,573-1,590 จุด คงคาด ชุดหุ้น Utilities (ปลอดภัย รายได้แน่นอน
สัปดาห์นี้คาด BEM BTS outperform) และ Commodity (ไม่กระทบจากเศรษฐกิจในประเทศ) ยังคงเล่นวน
รายตัว และ แข็งกว่าตลาด แต่จะเริ่มบวกน้อยลง โดยเม็ดเงินคาดจะเริ่มหมุนกลับ เข้าเล่นเก็งกำไรหุ้นตัวเล็ก
ที่ราคาหุ้นปรับฐาน ก่อนหน้านี้ แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน, หุ้นส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ราคาหุ้นลงเพราะ
วิตกค่าเงินบาทแข็ง แต่เงินบาทในระยะสัปดาห์คาดเริ่มกลับมาอ่อนค่า และจะมีทิศทางอ่อนค่าชัดเจนช่วง
เดือน กย.เป็นต้นไป หลัง เฟด เริ่มลดงบดุลลง และตอบรับสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธค.
ส่วนหุ้น Underperform คาดได้แก่ กลุ่มค้าปลีก จากแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q17 ที่คาดยังแย่ลง จาก
SSSG ที่ติดลบ, กำลังซื้อผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมภาคอีสาน หุ้นรับเหมาระยะสั้น คาดมีแรงขาย
Sell on fact หลังรู้ผลประมูล เช่นโครงการล่าสุด รถไฟทางคู่ ประจวบ-หัวหิน ที่ ITD ชนะด้วยการแข่งขัน
ด้านราคาที่ต่ำกว่าราคากลางถึง 20%, กลุ่มแบงก์ จากกระแสการปรับลดกำไรลง
หุ้นแนะนำวันนี้
GIFT แนวรับ 5.85 บ. ต้าน 6.30/6.50 บ. Stop loss 5.6 บ.
TPOLY แนวรับ 4.66 บ. ต้าน 5 บ. Stop loss 4.36 บ.
รายงานวันนี้
PSL (Earnings Results): 2Q17 miss; 3Q17 high season ahead
รายงานขาดทุนสุทธิ 2Q17 ที่ 5 ล้านบาท ขาดทุนน้อยลงทั้ง YoY และ QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ
กำไรจากการขายเรือ, หนี้เสีย และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ขาดทุนหลักอยู่ที่ 33 ล้านบาท ขาดทุน
น้อยลง YoY และ QoQ ผลประกอบการที่ออกมาแย่กว่าที่เราและตลาดคาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไร
26-38 ล้านบาท จากค่าเฉลี่ย Freight rate ที่ต่ำกว่าคาดและต้นทุนการดำเนินงานที่สูงกว่าคาด
อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าผลประกอบการใน 3Q17 จะฟื้นตัวต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ โดยดัชนี BDI ใน
3Q17-to-date ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 25% YoY หนุนโดยแทบทุกขนาด เราเชื่อว่า BDI จะกลับมาเป็น
ขาขึ้นในเวลาอันใกล้จาก 1) ฤดูกาล Grain-trading สำหรับอเมริการเหนือ และ 2) การนำเข้าถ่านหิน
จากจีนก่อนที่จะเข้าฤดูหนาว โดยรวมเรามีการปรับประมาณขาดทุนสุทธิลงจาก 154 ล้านบาทเป็น 21
ล้านบาท และขาดทุนหลักจาก 154 ล้านบาทเป็น 60 ล้านบาท และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 12.30
บาท (จาก 12.20 บาท) สะท้อนกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นใน 1H17 และความคาดหวังในเรื่องของอุปสงค์ที่
จะเพิ่มขึ้นอย่างมากไปจนถึงสิ้นปี เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
VGI (Quick Take): Key takeaways from analyst meeting
แม้ว่ารายได้ใน 1Q17 คิดเป็น 21% ของเป้าหมายทั้งปี FY17/18 ที่ 4 พันล้านบาท แต่บริษัทยังคง
เป้าหมายเดิมไว้ เนื่องจากเชื่อว่ารายได้จะมีการเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งมีปัจจัยหนุนจาก
Synergy ที่จะเกิดขึ้นระหว่างสื่อนอกบ้านที่มีในมือและกลุ่ม Rabbit, Office building ที่มากขึ้น, ราคา
ปรับตัวสูงขึ้น และสื่อนอกบ้านในคลังที่มากขึ้นจาก MACO และการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณา (ตั้งแต่
ช่วงปลายเดือน ต.ค. เป็นต้นไป) ในขณะที่ดีล M&A ใหม่คาดจะไม่มีในงวด FY17/18 นี้ เนื่องจากมีการ
ดำเนินงานในมือที่ครบวงจรแล้ว เรามองว่าผลการดำเนินงานที่จะฟื้นตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้
แต่ราคาหุ้นตอนนี้เทรดระดับ PE ที่ 55 เท่า ใกล้ค่าเฉลี่ยระยะยาวและค่าเฉลี่ยของกลุ่ม เรายังคง
คำแนะนำ ถือ แต่มีอัพไซด์ต่อผลการดำเนินงานระยะยาวจากการขยาย BTS เส้นทางใหม่
IRPC (Result Review): 3Q17 bounce, but FY17 street forecast still
set for a cut
บริษัทรายงานกำไร 2Q17 ที่ 1,227 ล้านบาท ลดลง 48%QoQ และ 67%YoY ผลประกอบการสูงกว่า
เราคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 30% กำไรหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น 180%QoQ เป็น 2,101 ล้านบาท (แต่
ลดลง 20%YoY) สูงกว่าเราคาด 33% เพราะอัตราการเดินเครื่องสูงกว่าคาดและอัตราภาษีต่ำกว่าคาด
แนวโน้ม 3Q17 เราคาดกำไรจะปรับตัวขึ้น เพราะ QTD product crack spreads หนุน GIM ปรับตัวขึ้น
สูงเป็นประวัติการณ์ เราคงประมาณการกำไรที่ 8.7 พันล้านบาท แต่เรามองว่าตลาดมีโอกาสปรับกำไร
ลงเนื่องจากประเด็นความล่าช้าในการรับเงินประกันการ COD ที่ล่าช้าของโครงการ UHV เราแนะนำ ถือ
โดยในกลุ่มโรงกลั่นและเคมีคอล เราชอบ PTTGC มากกว่า เพราะ valuation ถูกกว่า
BBL: Heavier LLPs; lower profit forecast
เราเชื่อว่าการเติบโตของสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 4-6% โดยคาดอัตราการเติบโของสินเชื่อจะดี
ขึ้นใน 2H17 หนุนโดยการปล่อยสินเชื่อภาครัฐ และโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็
ตามคาด NPL จะยังคงปรับตัวขึ้นต่อใน 2H17 เนื่องจากโดยปกติธนาคารไม่มีนโยบายตัดหนี้เสียหรือ
ขาย NPLs ออกไป ทำให้เรามีกาปรรับประมาณการการตั้งสำรอง LLP ขึ้น 20% มาที่ 1.8 หมื่นล้านบาท
และปรับประมาณการกำไรลง 6.8% มาที่ 3.45 หมื่นล้านบาท (ยังคงเติบโต 8% YoY) และปรับราคา
เป้าหมายลงมาที่ 207 บาท (จาก 213 บาท) อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่าสินเชื่อจะยังเติบโตได้ดีใน
2H17 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
Model Portfolio: Add PSL
เรามีการปรับพอร์ต ถอด AP ออก และเพิ่ม PSL เนื่องจากเข้าสู่ High season ของ Baltic dry freight
ITEL: กสทช.เผยผลประมูลโครงการเน็ตชายขอบฯ โดย ITEL ชนะสัญญาที่ 4 เสนอราคาต่ำสุด
1,868.2 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1,888.2 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 20 ล้านบาท
โครงการเน็ตชายขอบฯ เป็นโครงการที่จัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์เน็ต
ความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน ในส่วนของการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
(Broadband Internet Service) ซึ่งใช้โครงสร้างพื้นฐานคือโครงข่าย Fiber Optic ที่ ITEL มีให้บริการ
อยู่
เรามองว่าการได้งานดังกล่าวเข้ามาเป็น Positive Surprise ซึ่งเราและตลาดยังไม่รวมในประมาณการ
กำไร คาดจะมี flow ของการปรับประมาณการกำไรขึ้นเพื่อสะท้อนกำไรของโครงการนี้
คาดการได้งานนี้จะช่วยหนุนรายได้ และเพิ่ม utilization rate ของโครงข่าย อีกทั้งมีโอกาสที่จะเป็น
รายได้ต่อเนื่อง (Recurring income) ในอนาคต เพราะเรามองว่าการให้บริการอินเตอร์เน็ตจะต้องมี
อย่างต่อเนื่อง และบริษัทซึ่งชนะการประมูลโครงการครั้งนี้ จะได้เปรียบด้านต้นทุนในโครงการถัดๆไป
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท นอกจากปัจจัยหนุนราคาหุ้นจากการชนะการประมูลแล้ว ในเชิง
พื้นฐานเราคาดราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นสะท้อนกำไร 2Q17 ที่จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกำไรในไตรมาสนี้
จะเป็นฐานใหม่สำหรับครึ่งปีหลังให้เติบโตเร็วขึ้น ปัจจุบันหุ้นเทรดบน PEG เพียง 0.56 เท่า จากคาด
กำไรเติบโตเฉลี่ย 72%/ปี ในช่วง 2016-18 (CAGR) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) JMT บสก.คาดว่าธนาคารพาณิชย์จะเร่งขาย NPL ออกมาอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือ
ของปี เนื่องจาก “สถาบันการเงินส่วนใหญ่” ยังคงมีนโยบายที่จะต้องเร่งระบาย NPL ออกเพื่อลดสำรองหนี้
เสีย (ที่มา โพสต์ทูเดย์) คาดว่า JMT จะมีดีลซื้อ หนี้จาก สถาบันการเงินเข้ามาบริหารเพิ่มอีกในช่วง ไตรมาส
3 ปีนี้ ซึ่งเป็นภาพที่สอดคล้องกับทิศทางอุตสาหกรรมฯ
(-) ค้าปลีก ธปท.เตรียมสรุปตัวเลขความเสียหายจาก อุทกภัยภาคอีสาน วันที่ 16 สค. นี้ ธปท.ยอมรับมี
ส่วนทำให้กำลังซื้อโดยรวมแผ่ว (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
(+) TPOLY TPCH: TPCH ทุ่ม 4 พันล้านบาท สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลใต้ 4 แห่ง / เราคาดการทยอย
สร้าง จะใช้เงินสดที่ได้รับจากโครงการที่เสร็จแล้วก่อนหน้านี้ และ เงินกู้ยืม ซึ่ง DE ยังมีช่องให้กู้เพิ่ม โดย
ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
(+) SPP Hybrid 300MW จะประมูล ตค. นี้ ซึ่งเราคาดว่ากลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีโอกาสได้งานสูงสุดจะ
เป็นกลุ่มโรงงานน้ำตาล และหุ้นอื่นที่เชื่อมโยงได้แก่ TPCH GPSC ECF PSTC EPCO TPIPP TSE (ที่มา
กกพ.
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) งาน "ตลาดนัดกองทุนรวม" เลือกช้อปกองทุนเด็ดกว่า 1,000 กอง จาก 14 บลจ. ชั้นนำ พร้อมแนะนำ
เครื่องมือตัวช่วยลงทุนที่โดนใจ และบริการวางแผนลงทุนในกองทุนรวมจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมฟังสัมมนา
Showcase เข้มข้นตลอด 2 วันเต็ม รับโปรโมชั่นพิเศษเมื่อลงทุนในงาน 5-6 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00-17.00
น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ
(+/-) สภาครองเกรสสหรัฐฯยังคงไม่สามารถผ่าน กม.หลักๆตามที่ ปธน.หาเสียงได้สำเร็จ เช่น การแก้ กม.
ประกันสุขภาพ และ Tax reform ที่คาดว่าจะทำไม่ได้ โดยเหลือ แค่การปรับลดอัตราภาษีเล็กน้อย ซึ่งใน 1-
2 เดือน ข้างหน้าครองเกรสจะพิจารณาเรื่อง US Debt ceiling อีกครั้ง และ จะเป็นประเด็นที่จับตามองของ
ตลาดหุ้นและอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า แต่จะส่งผลลบจำกัดต่อหุ้น
ไทย ตรงข้ามมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ Laggard หุ้นสหรัฐฯมาตั้งแต่ต้นปี
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค