- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 August 2017 17:17
- Hits: 1035
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่งและปันผลสูง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways Up ขึ้นมาที่บริเวณ 1,580 จุดตามคาดจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นบวก โดยแรงซื้อส่วนใหญ่ยังคงมาจากฝั่งสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติแม้จะยังขายสุทธิในตลาดหุ้นกว่า 2.2 พันลบ. แต่เริ่มพลิกมาซื้อฟิวเจอร์สกว่า 1.3 พันลบ. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,575-1,585 จุดหลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือนก.ค.ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งการประชุม BoE ที่อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปี รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯที่จะเปิดเผยในคืนพรุ่งนี้ ส่วนฝั่งบ้านเรายังต้องติดตามการประกาศกำไร 2Q17 ของบริษัทจดทะเบียน ทำให้คาดว่าหุ้นที่คาดมีกำไร 2Q17 แข็งแกร่งและปันผลดียังน่าจะเป็นเป้าในการถูกเก็งกำไร
กลยุทธ์ : ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่งและปันผลสูงหุ้นเด่นเดือน ส.ค. : EKH, EPG, ITEL, MTLS, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$367ล้าน นำโดยไต้หวัน US$295ล้าน และเกาหลีใต้ US$139ล้าน ขณะที่ไหลออกจากประเทศไทย US$68ล้าน และอินโดนีเซีย US$16ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเพื่อรอการเปิดเผยตัวเลข PMI จีน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสหรัฐในวันพรุ่งนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> FTE <<
PE2017 ยังต่ำเพียง 19 เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวของ HARN ซึ่งทำธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 27 เท่า และค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกที่ 25 เท่า
คาดกำไรสุทธิปี 2017-2019 โตเฉลี่ย 15% ต่อปี ทั้งจากงานขายอุปกรณ์ดับเพลิงที่โตตามโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐฯ และการส่งมอบงานวางระบบป้องกันอัคคีภัยสถานีไฟฟ้าของ กฟผ.
กำไร 1Q17 คิดเป็น 25% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 106 ลบ. (+22% Y-Y) ดีกว่าอดีตที่กำไรไตรมาส 1 คิดเป็นเพียง 19% ของทั้งปี
วานนี้เป็นครั้งแรกที่ราคาหุ้นปิดไม่ติดลบ ถือเป็นโมเมนตัมที่ดีต่อการฟื้นกลับระยะสั้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4 บาท
(FSS เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ FTE)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯแย่กว่าคาด โดยตัวเลขงวด ก.ค. 17 อยู่ที่ 178,000 คน ชะลอต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 187,000 คน กลุ่มที่แย่คือภาคการผลิต เหมืองแร่ และการก่อสร้าง ตลาดคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรศุกร์นี้จะออกมาแย่ตาม (คาด 181,000 คน งวดก่อน 222,000 คน) Dollar Index ยังถูกกดดันต่อเนื่อง (กดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่น) หนุนเงินบาทกลับมาแข็งค่าในระยะสั้น ส่งผลลบต่อกลุ่มส่งออก เช่น เกษตรอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์
(+) หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี ยังมีโอกาส Outperform ตลาดในช่วงสั้น โดยตัวที่เราคาดกำไรจะออกมาดีทั้ง Q-Q และ Y-Y ได้แก่ ASEFA BEAUTY FSMART LIT MTLS MBAX ORI PLANB SYNEX และ TACC
(-) VGI กำไรสุทธิ 1Q18 -44% Y-Y แต่กำไรปกติ +23% Y-Y จากการรวมงบของ MACO และ Rabbit เข้ามา กำไรใกล้เคียงคาดและคิดเป็นประมาณ 20% ของประมาณการทั้งปีที่เราคาด ยังแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 5.05 บาท
(0) IRPC ประกาศผลประกอบการ 2Q17 วันนี้ เราคาดกำไรปกติที่ 1.5 พันลบ. -13% Q-Q, -64% Y-Y จากทั้งส่วนต่างปิโตรเคมีที่ลง และมีขาดทุนสต็อกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H17 เพราะไม่มีหยุดซ่อมใหญ่เหมือน 1H17 และจะ COD โครงการขยายกำลังการผลิต PP อีก 3 แสนตันต่อปี คาดกำไรปีนี้ -21% Y-Y แต่จะกลับมาโต +25% Y-Y ในปีหน้า ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท
(+) SIS ค้าส่งสินค้าไอทีคล้าย SYNEX แต่ถนัดตลาด Enterprise และ Commercial ส่วน SYNEX ถนัด Consumer และ Smart phone แม้ราคาปัจจุบันจะซื้อขายบน PE เพียง 11 เท่า ต่ำกว่า SYNEX ที่ 20 เท่า แต่เมื่อคิดเป็น PEG เทียบการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ ~1 เท่าใกล้เคียงกัน ขณะที่ กระแสบิทคอยท์แทบไม่บวกกับ SIS เพราะขายการ์ดจอน้อย กำไร 2Q17 จึงมีแนวโน้มทรงตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y ต่างจาก SYNEX ที่คาดกำไร 2Q17 +62% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท (งบออก 8 ก.ค.)
(+) SWC คาดกำไร 2Q17 ที่ 50 ลบ. +11% Q-Q, +34% Y-Y จาก High Season ซึ่งปีนี้ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากฤดูฝนที่มาเร็ว และต้นทุนที่ลดลงจากทั้งการอ่อนตัวของราคาน้ำมันดิบและเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่วนการทำเทนเดอร์ของกลุ่ม TOA เรามองบวกจาก Synergy ในการเพิ่มช่องทางจำหน่าย และยังไม่น่าทำให้ SWC ต้องออกจากตลาด เพราะมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ต้องการขายทันทีเพียง 28.93% รวมกับของ TOA เดิมแล้วจะเป็น 64.93% อีกทั้งราคาในกระดานก็ใกล้ราคาเสนอซื้อที่ 13.25 บาท ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.70 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 ส.ค. - อังกฤษ: ประชุม MPC ตลาดคาดคงดอกเบี้ย 0.25%
- ออสเตรเลีย: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- สหรัฐฯ: ดัชนีภาคการผลิต ISM (ก.ค.)
- จีน: PMI ภาคบริการ (ก.ค.)
- ไทย: IRPC ผลประกอบการ 2Q17
4 ส.ค. - ออสเตรเลีย: ธนาคารกลางเปิดเผยผลประชุม RBA
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ก.ค.)
- ฟิลิปปินส์: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- ไทย: LPN ผลประกอบการ 2Q17
- ไทย: BIG ผลประกอบการ 2Q17
7 ส.ค. - อินโดนีเซีย: 2Q17 GDP
8 ส.ค. - ไทย: SYNEX ผลประกอบการ 2Q17
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกโดยดาวโจนส์ปิดเหนือ 22,000 จุดเป็นครั้งแรก จากแรงซื้อในหุ้น Apple หลังประกาศงบที่แข็งแกร่ง ขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน (ADP) แม้ต่ำกว่าคาดแต่ยังอยู่ในระดับที่ดี ทั้งนี้ ตลาดเฝ้าจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรวันศุกร์นี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยมีแรงขายนำเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารภายหลังการประกาศผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบโดยนักลงทุนเฝ้าจับตาตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนที่จะประกาศในวันนี้ และ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันพรุ่งนี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.26-33.29 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดบวก 0.43 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรายงานของ EIA ที่ระบุถึงอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นที่สูงขึ้นสะท้อน Demand ที่แข็งแกร่ง และ สต๊อกน้ำมันดิบที่ลด 1.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งแม้จะน้อยกว่าที่คาดที่ 2.9 ล้านบาร์เรล แต่ยังสวนทางที่ API ระบุว่าจะเพิ่ม 1.8 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 1.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,278.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการพุ่งขึ้นของดาวโจนส์เหนือ 22,000 จุดเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าช่วยสกัดการปรับลดลง
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research