- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 August 2017 17:16
- Hits: 992
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Bottom Fishing/Defensive
Smart Pick
1. เก็งกำไร SIRI : ราคาปิด 2.12 บาท ราคาเหมาะสม อิงด้านเทคนิคแนวต้าน 2.30 บาท **(ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) รายงานผลประกอบการ 2Q60 ในวันที่ 15 ส.ค. คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดย Consensus คาดการณ์กำไรที่ 740-750 ล้านบาท +20% YoY & +45% QoQ และคาดว่ามีโอกาสที่งบจากออกมาดีกว่าคาดการณ์ของตลาดเป็น Positive Surprise
b) คาดการณ์เงินปันผล 1H60 หุ้นละ 0.05-0.06 บาท คิดเป็น Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ 2.4-2.8%
c) มุมมองทางเทคนิคหากปรับตัวผ่าน 2.20 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 2.30 บาท และด้านพื้นฐานมี Valuation ที่น่าสนใจ ซื้อขายระดับ PER2560 ที่ 8.8 เท่า และให้ Dividend Yield 5-6% ต่อปี
2. เก็งกำไร ERW : ราคาปิด 5.45 บาท ราคาเหมาะสม 5.90 บาท
a) ERW จะรายงานงบ 2Q60 วันที่ 10 ส.ค. คาดกำไรปกติที่ 24 ล้านบาท เติบโตสูง YoY จากฐานกำไรทีต่ำเพียง 1 ล้านบาท ใน 2Q59 เชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำให้ผลประกอบการมีเสถียรภาพมากขึ้น เทียบกับในอดีตที่มักมีผลขาดทุนในไตรมาสที่ 2 ของปี
b) คาดกำไรปกติ 2H60 เติบโต +44% YoY จากการเข้าสู่ High Season และได้ประโยชน์โดยตรงจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนเนื่องจากเป็นฐานลูกค้าต่างชาติอันดับ 1 ของ ERW ช่วยหนุนรายได้ให้กับโรงแรมในเครือ เช่น Grand Hyatt และ IBIS
c) ซื้อขายที่ระดับ EV/EBITDA 12 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงแรมที่ 15 เท่า และมี Upside Risk หากโรงแรมใหม่ 5 แห่งมีผลการดำเนินการที่ดีกว่าคาด จะส่งผลให้เรามีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2561 ขึ้น จากปัจจุบันที่คาดการณ์กำไรปี 2561 ที่ 495 ล้านบาท +15% YoY
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.09 จุด ยืนเหนือ 1580 จุด ได้เล็กน้อยที่ 1580.54 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.2 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล (+1.9%) อาทิ BDMS +3.16% และ BH +2.26% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพียงรายเดียวราว 2.2 พันล้านบาท นับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน แต่มีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นถึง 6.7 พันสัญญา ในส่วนของสถาบันในประเทศ และบัญชี บล. ซื้อสุทธิราว 1.6 พันล้านบาท และ 497 ล้านบาท ตามลำดับ และมีสถานะ Long สุทธิเล็กน้อยราว 130 สัญญา
กลยุทธ์วันนี้
แม้ SET INDEX ฟื้นตัวกลับไปทดสอบแนว 1580 จุดวานนี้ แต่เรามองว่า ยังคงขาดปัจจัยบวกใหม่ที่มีน้ำหนักให้ผ่าน 1585 จุดได้ โดยเรายังมองว่า SET INDEX จะแกว่งตัวออกข้าง และเราเริ่มเห็นสัญญาณการหมุนกลุ่มหุ้น (Sector rotation) เข้าสู่หุ้นที่ Underperform ในช่วงก่อนหน้า เช่น ธนาคาร, โรงพยาบาล และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ทำให้เกิด Technical rebound ระยะสั้นๆในหุ้นกลุ่มเหล่านี้
กลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี จะช่วยประคับประคองตลาดหุ้นไทย ด้วยแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวแข็งแกร่ง วานนี้ เกือบ 1% หลังจาก EIA รายงานความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯทำสถิติสูงสุด 9.84 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ วันนี้ให้ติดตามการรายงานผลการดำเนินงาน 2Q60 ของ IRPC คาดกำไรปกติเติบโตแข็งแกร่งราว 35% QoQ
กลยุทธ์วันนี้ แนะนำเก็งกำไรผลประกอบการ 2Q60 (Earnings plays) ผสมผสานกับการสะสมหุ้นปันผลเด่น (Dividend plays) ในกลุ่มโรงไฟฟ้า/ อสังหาฯ/ กองทุน REIT-กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.นี้ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่ SET INDEX ยังไม่ไปไหนไกล
ปัจจัยสำคัญวันนี้
EIA รายงานความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2.1 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 9.842 ล้านบาร์เรล/วัน และรายงานปริมาณน้ำมันดิบใน สต๊อกลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล
ประธาน FED สาขาซานฟราซิสโก และ เคลฟแลนด์ มีความเห็นว่าการลดขนาดงบดุลน่าจะเริ่มได้ในเดือน ก.ย. และขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ สวนทางกับ ประธาน FED สาขา เซนต์หลุยส์ ที่มีความเห็นว่า ยังไม่ควรขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ทั้ง 3 รายไม่มีสิทธิออกเสียง
ติดตามการรายงานผลประกอบการ IRPC (3 ส.ค.) THCOM (4 ส.ค.)
ติดตามการประชุม BOE วันที่ 3 ส.ค.
ติดตามการรายงานภาวการณ์จ้างงานสหรัฐฯ วันที่ 4 ส.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Assistant Strategist