- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 July 2017 18:10
- Hits: 876
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปิดบวกได้เล็กน้อยโดยแกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1,585 จุดในระหว่างวันได้ตามคาดก่อนที่จะอ่อนตัวลงมา โดยกลุ่มที่หนุนตลาดยังเป็นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ขณะที่สถานะของนักลงทุนต่างชาติแม้จะยังขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกราว 900 ลบ. แต่ยังคงซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์สติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ถึง 2.2 พันลบ.รวมถึงซื้อพันธบัตร 2.8 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways Up ต่อเนื่องหลัง FED คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณว่าจะเริ่มมาตรการลดขนาดงบดุลในไม่ช้านี้ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ก.ย. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีก 1.8% ซึ่งยังคงช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีและต้องจับตา PTTEP ที่จะประกาศกำไร 2Q17 ในช่วงเที่ยงวันนี้ ส่วน ADVANC จะประกาศช่วงเย็น ขณะที่แนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติเรามองว่ายังคงอยู่ในทิศทางไหลเข้าสังเกตได้จากค่าเงินบาทเช้านี้เทียบกับสกุลเงินหลักที่เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, HANA, IT, KBANK, MTLS
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$398ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$301ล้าน ไต้หวัน US$77ล้าน และไทย US$27ล้าน ขณะที่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$14ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค การประชุม FOMC เมื่อคืนนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดและส่งสัญญาณลดขนาดงบดุลในการประชุมครั้งถัดไป ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> LPH <<
กลุ่มโรงพยาบาลเริ่มขยับ จากการกลับมาระบาดของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเขตบางกะปิพื้นที่ใกล้ LPH มักติด 1 ใน 5 เขตที่มีผู้ป่วยหนาแน่นของกทม.
ได้ประโยชน์จากการปรับเพิ่มเงินประกันสังคมมากที่สุด เพราะมีสัดส่วนถึง 45% ของรายได้รวม หนุนกำไรให้เร่งตัวขึ้นใน 2H17 (ประมาณการเดิมคาดทั้งปี +11% Y-Y)
ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท ยังไม่รวม Upside จากการการขายที่ดินและการลงทุนใน รพ. อื่น แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี น่าจะกลับมาได้รับความน่าสนใจในการถูกใช้เป็นแหล่งพักเงินช่วงหยุดยาว โดยตัวที่เราคาดกำไรจะออกมาดีทั้ง Q-Q และ Y-Y ได้แก่ ASEFA BCH BEAUTY FSMART IT MTLS MBAX ORI SYNEX และ TACC
(0) FTE เริ่มซื้อขายวันแรกใน SET ราคา IPO 2.95 บาท เราประเมินราคาเหมาะสมปีนี้ 4 บาท อิง PE เฉลี่ยของ HARN และกลุ่มค้าปลีกที่ 22.5 เท่า กำไรสุทธิ 1Q17 เพิ่มขึ้นถึง 82% Y-Y อยู่ที่ 27 ลบ. ส่วนทั้งปีนี้คาดโต 22% Y-Y อยู่ที่ 106 ลบ. และคาดโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 12% ในปี 2018-19 จากการลงทุนภาครัฐฯที่จะทำให้ยอดขายอุปกรณ์ดับเพลิงเพิ่มขึ้น และการรับรู้งานวางระบบป้องกันอัคคีภัยให้สถานีไฟฟ้าของ กฟผ.
(-) EA เราคาดกำไรสุทธิ 2Q17 -0.6% Q-Q, -2% Y-Y แม้มีโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้ามา 2 แห่งปลายไตรมาส แต่ฝนที่มาเร็วกระทบโรงไฟฟ้าโซลาร์ และแม้ว่ากำไร 2H17 มีแนวโน้มดีขึ้นและโตต่อเนื่อง 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ย 31% CAGR แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นเกือบ 40% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา เกินราคาพื้นฐาน 33 บาท (ไม่รวม Energy storage ซึ่งยังอีกไกล) ลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมซื้อ (อ่อนตัวซื้อใหม่)
(-) KTC เกณฑ์ใหม่ของธปท.เรื่องบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ให้ลดวงเงิน และลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตทุกประเภทเหลือ 18% จาก 20% มีผล 1 ก.ย. นี้ กระทบ KTC ซึ่งมีพอร์ตบัตรเครดิตราว 5 หมื่นล้านบาทค่อนข้างมาก คาดเบื้องต้นว่ากำไรปีนี้ -8% ปีหน้าคงที่ ราคาเป้าหมายอาจปรับลงเหลือ 100 บาท แนะนำขาย
(0) AAV คาดกำไรปกติ 2Q17 -33% Q-Q, -28% Y-Y จาก Low Season, ต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น, และการแข่งขันที่ยังรุนแรง แม้คาดกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H17 ตามนักท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดี ซึ่งจะหนุนให้กำไรทั้งปี +12% Y-Y แต่ Upside เริ่มจำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 6.80 บาท จึงแนะนำถือ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
27 ก.ค. -ไทย:ประกวดราคารถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบ, FTE เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.95 บาท)
- เกาหลีใต้: 2Q17 GDP
28 ก.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต (มิ.ย.)
- ไต้หวัน: 2Q17 GDP
- สหรัฐ:2Q17 GDP (คาดการณ์ครั้งแรก)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
31 ก.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ก.ค.)
1 ส.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.),Business Sentiment Index (ก.ค.)
- ยูโรโซน: 2Q17 GDP
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวก จากการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่ง และ การประชุม FOMC ที่มีมิตคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง และ ตัวเลข GDP ของอังกฤษที่ขยายตัว ขณะที่นักลงทุนเฝ้าจับตาผลการประชุม FOMC
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลก โดยมีปัจจัยหนุนจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ค่อนข้างผันผวน โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 33.32-33.37 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดบวก 0.86 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.75 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 7.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดกันที่ 2.6 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 2.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,249.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุม FOMC
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research