- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 July 2017 18:09
- Hits: 2636
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'Oil Play'
CNS Daily Strategy : คาดตลาด แกว่งขึ้น ในกรอบต้าน 1591/1600 จุด และรับ 1573/1569จุด ฟื้น ราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นแรงกว่า 3% สูงสุดรอบ 2 เดือน ตอบรับสต๊อกน้ำมันดิบ US ที่หดตัวมากกว่าคาด หนุน ENERG & PETRO นำตลาดแกว่งขึ้นต่อ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คืนนี้จับตา FOMC Meeting คาด FED คงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ดังนั้นวันนี้จึงแนะนำธีม “Oil Play”เลือก *Daily Top Pick: PTT, PTTGC, PM*
Nomura : Key Factors
(+) OIL: สต๊อกน้ำมันดิบUS จาก API ลดลง -10.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ -2.6 ล้าน
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +3.34% สู่ $47.89/bbl / BRT +3.29% สู่ $50.2/bbl
(+) US Econ: ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค. ที่ 121.1 จุด จาก 116.5 และมากว่าคาดที่ 118.9
(*) Fund Flow:วานนี้ต่างชาติขาย1607ลบ., Long Future 8120 สัญญา,ขายBond612ลบ.
(*) Ex Factor: คืนนี้จับตาประชุม FOMC คาด FED คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
Nomura Daily Top Picks: PTT, PTTGC, PM
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ แกว่งขึ้น ในกรอบต้าน 1591/1600 จุด และรับ 1573/1569จุด จากการรายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จาก API วานนี้ ที่พบว่าปรับตัวลดลงสูงถึง -10.2 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงภาวะอุปทานน้ำมันของสหรัฐฯที่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ประกอบกับผลการประชุม OPEC & Non-OPEC ที่มีข้อสรุปเชิงบวกเพิ่มเติมในการควบคุมกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC ช่วยผลักดันการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้เร่งตัวขึ้นเด่นกว่า +3% โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กลับมายืนเหนือระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรลได้อีกครั้ง ถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งเป็น Trigger Point ที่เราประเมินว่า ENERG & PETRO จะนำตลาดเร่งตัวขึ้น จากภาพราคาน้ำมัน 3Q17 ส่งสัญญาณเด่นกว่า 2Q17 ผสานพัฒนาการเชิงบวกในประเทศ ผ่านการเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งวานนี้ ครม. อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ วงเงิน 1.01 แสนล้านบาท และอนุมัติงบพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา & ท่าเรือสัตหีบ เพื่อรองรับโครงการ EEC ถือเป็นปัจจัยฟื้นความเชื่อมั่น(AMATA, CK) หนุน SET ขึ้นทดสอบ 1600จุดได้ ส่วนปัจจัยที่ต้องตาม คือ ผลประชุม FOMC คืนนี้ Nomura คาด FED จะคงดอกเบี้ยที่เดิม
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Daily Strategy : 6 Theme เด่น วันนี้ เน้น Oil Play เป็นหลัก
1. สต๊อกน้ำมันดิบ API ที่ลดลงมากกว่าคาด สะท้อนความต้องการใช้น้ำมันเริ่งขึ้น หนุนราคาน้ำมันดิบโลกบวกกว่า 3% และยืนเหนือ 50เหรียญฯ จะกลุ่ม ENERG& PETRO นำตลาดเร่งตัวขึ้น แนะ PTT เด่น ผสาน Laggard PTTGC, BCP, IVL
2. Pair Trade Strategy: ที่แนะไป 25/7/2017 คือ Long PTTGC และ Short TOP น่าจะเด่นขึ้นอีกหลัง GRM เริ่มย่อลงหลังแตะ 8เหรียญฯ ทำให้ PTTGC ที่ Laggard เด่นกว่า TOP (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Eagle Eye หน้า 7)
3. กลุ่ม 1H17F High Dividend Yield : LH, ADVANC, BCP, BEC, PSH, INTUCH, RATCH, PM, SNC
4. กลุ่มคาดกำไร 2Q17 เด่น แนะสะสม : PM, PSTC, MONO, ERW, AMATA, IVL, IRPC
5. นักท่องเที่ยว UAE ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่เข้ามารักษาพยาบาลในไทยฟื้นตัวเด่น ผสานหน้าฝนที่มาเร็ว จะเป็นแรงหนุนกลุ่ม รพ. ฟื้นตัวรอบใหม่ เน้น BH, BDMS, CHG และ BCH
6. การแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรม ICT ที่เบาบางลง ผสานประโยชน์จากค่า USO ที่น้อยลง กระตุ้นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่ม ICT แนะสะสม ADVANC, INTUCH
Weekly Strategy :
Weekly Outlook : Up กรอบแนวต้าน 1585/1595จุด แนวรับ 1570/1565 จุด เลือก PTTGC, BCP, CHG เป็น weekly top picks
Mr. Market: BCP : สะสมหุ้นที่ตลาดปรับมูลค่าพื้นฐานขึ้น และราคายังคง Laggard
Quant Value : แนะทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ 2017F-18F เติบโตต่อเนื่อง เลือก TMB เป็น Top Pick
Monthly Strategy : คาดกลุ่ม Domestic ในประเทศจะโดดเด่น รับกระแส Fund Flow คาด SET แกว่งขึ้นในกรอบ 1610-1560จุด จึงคงพอร์ตหุ้น 70% ที่เพิ่มมาในกรอบ 1550-1530จุด แนะนำ กลุ่ม รับเหมาฯ(CK, STEC) ผสาน ธนาคาร (SCB, TCAP), ท่องเที่ยว (AOT, MINT, ERW), นิคมฯ(AMATA, WHA), ค้าปลีก(BJC) และ อสังหาฯ(BLAND, AP, SIRI) ผสานกลุ่ม Mid-Small Cap ที่พื้นฐานเด่น PM, PSTC, SPA, MONO, PLANB, ANAN, SNC สำหรับ Portfolio Top Picks JULY 2017 แนะนำ IVL, CK, BJC, BLAND, PM, PSTC
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTT (NOMURA TP410): Support 380/376 Resistance 390/396
Theme : Oil recovery
Earnings Outlook : Nomura คาดกำไรปี 2017F จะเพิ่มขึ้นราว 14% ตามทิศทางราคาน้ำมัน รวมถึง ธุรกิจปิโตรเคมี ประคองตัวในระดับสูง โดยกำไรระยะสั้นงวด 2Q17F คาดยังลดลง q-q จากฐานที่สูงงวด 1Q17 รวมถึง คาดปริมาณการขายอาจลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงบางโครงการ แต่โดยรวมกำไรทั้งปียังเป็นภาพการฟื้นตัวที่ดี
Valuation : ปัจจุบันเทรดที่ PER17F 9.95x เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1ปีที่ 10.52x ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในกลุ่ม Big cap
Catalyst : ที่ประชุมโอเปควานนี้ จะลดการส่งออกน้ำมันเหลือ 6.6 ล้านบาร์เรล ลดลง 1 ล้านบาร์เรลจากช่วงปีก่อน หนุนราคาน้ำมันฟื้นตัว WTI +3.3%
PTTGC (NOMURA TP84): Support 69.5/68.5 Resistance 72.5/74.0
Theme : Refinery Play
Earnings Outlook : คาดกำไรปี 2017F ยังเป็นขาขึ้น +14% y-y จากจากแนวโน้ม Utilization rate ที่ปรับตัวสูงขึ้นของทั้งธุรกิจโรงกลั่น และปิโตรเคมี รวมถึง ค่าการกลั่นและสเปรดปิโตรเคมีที่ยังยืนในระดับสูง โดยระยะสั้นงวด 2Q17F คาดดีขึ้น q-q จากโรงงานกลับมาเดินเครื่องตามปกติ ขณะที่ กำไรปี 2018F ยังเพิ่มต่อเนื่อง จากธุรกิจเดิม และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบ.ที่มีอยู่ หลังปรับโครงสร้างโอนย้ายจาก PTT หนุน PTTGC เป็นแกนหลักในปิโตรเคมีครบวงจร
Valuation : ราคาปัจจุบันเทรดที่ P/BV น้อยกว่ากลุ่มเพียง 1.21x + Div yield 17F สูงราว 4.5% upside 20% และ Laggard TOP ที่เพิ่มขึ้นมากว่า 13% vs PTTGC +4.4% สามารถทำ Pair trade ได้ (Long PTTGC, Short TOP)
Catalyst : คาดหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ได้อานิสงส์บวกจาก ค่าการกลั่นสิงค์โปร์สูงถึง 7.44 เหรียญต่อบาร์เรล สูงกว่า 3Q16 ที่เฉลี่ยเพียง 5.5 เหรียญต่อบาร์เรล (เพิ่มขึ้นกว่า 35% y-y) คาด 3Q17F ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัว q-q
PM (TP17.4*): Support 11.0/10.2 Resistance 12.0/12.6
Theme : Earnings Play
Earnings Outlook : แนวโน้มกำไรช่วง 3 ปีนี้จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี จากกลยุทธ์ที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น เริ่มนำ Taro บุกตลาดต่างประเทศ รวมถึง ตัดธุรกิจขาดทุนทิ้ง เน้นธุรกิจหลัก โดยคาดกำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้น +55% y-y
Valuation : ภาพของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 7% และมี Valuation น่าสนใจ โดยมี PER ปี 2017F เพียง 12.8x เท่า ยังต่ำกว่า TKN ซึ่งสูงถึง 32 เท่า
Catalyst : คาดผลประกอบการ 2Q17F ที่ 148.5 ลบ. เติบโต +97.1% y-y พร้อมคาดประกาศจ่ายเงินปันผลราว 0.35-0.4 บาทต่อหุ้นหรือ Dividend yield ที่ 3.5% จำกัด Downside ราคาหุ้น ผสานกับรอยอดตัวเลขส่งออก TARO สู่ต่างประเทศใน ฐานหนักตั้งแต่ต้นปี โดย BH มีกลุ่มตะวันออกกลางสูงสุดอยู่ที่ 5-6%
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
Fundamental Investment Analyst on Securities and Technical
[email protected] 0-2287-6871
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783