- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 July 2017 17:41
- Hits: 1161
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1,580 จุดได้ตามคาดและทะลุผ่านขึ้นมาได้นำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นรวมไปถึงหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่นๆ ขณะที่สถานะของนักลงทุนต่างชาติแม้จะขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.6 พันลบ. แต่ยังคงซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์สติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ราว 1.6 พันลบ.เช่นกัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ต่อเนื่องและขึ้นทดสอบระดับ 1,585 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างสดใสจากตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี ขณะที่กลุ่มพลังงานบ้านเราน่าจะยังหนุนตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นอีกกว่า 3% ส่วนประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม FOMC ซึ่งคาดว่ายังคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ผลประกอบการหุ้นขนาดใหญ่อย่าง SCC PTTEP และ ADVANC ที่จะประกาศในช่วง 2 วันนี้หากออกมาดีกว่าคาด น่าจะสร้างความมั่นใจแก่ตลาดมากขึ้น ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติเรามองว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้า
กลยุทธ์ : ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, HANA, IT, KBANK, MTLS
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$427ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$350ล้าน อินโดนีเซีย US$124ล้าน และไทย US$48ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$61ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางพลิกกลับมาไหลเข้าภูมิภาคภายหลังการประชุม Fed ที่จะแล้วเสร็จในวันนี้ ซึ่งคาดว่า Fed น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> EPG <<
แม้กำไร 1Q18 (เม.ย.-มิ.ย. 2017) จะไม่สดใส คาด -12.2% Q-Q และ -37.2% Y-Y เพราะกำลังซื้อในประเทศชะลอ เงินบาทแข็งค่า และขาดทุนค่าเงิน แต่เชื่อเป็นกำไรต่ำสุดของปีและจะเร่งตัวขึ้นในครีงปีหลัง
ยอด short sales ที่สูงผิดปกติเมื่อต้น ก.ค. 17 (เฉลี่ย 12.3 บาท) ปัจจุบันลดลงมาก ขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของครอบครัววิทูรปกรณ์ยังเท่าเดิมตั้งแต่เข้าตลาดฯ ยืนยันว่าไม่ใช่การขายของครอบครัวผู้ก่อตั้ง
PE ปัจจุบันที่ 18 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 25 เท่า ถือเป็นโอกาสซื้อลงทุน ราคาเป้าหมาย 16 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) เงินบาทเริ่มอ่อนค่า จากดอลล่าร์ฯที่เริ่มแข็งหลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ก.ค. 17 ออกมาดีสุดในรอบ 4 เดือนที่ 121.1 มากกว่าตลาดคาดที่ 116.9 และใกล้จุดสูงสุดในรอบ 16 ปีที่เคยทำไว้เมื่อ มี.ค. 17 ที่ 124.9 ทำให้หุ้นพึ่งพาส่งออกที่ถูกกดดันก่อนหน้านี้ผ่อนคลายลงชั่วคราว เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาหารเครื่องดื่ม ยานยนต์ รวมถึง EPG TASCO VNG STA TWPC และ MBAX
(+) กลุ่มรับเหมา ครม.เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงินลงทุน 1.01 แสนล้านบาท มี 17 สถานี้ทั้งใต้ดินและบนดิน เป็นบวกกับ CK (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 40 บาท) ในฐานะผู้ชำนาญการก่อสร้างทั้งใต้ดินและบนดิน และ BEM (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.70 บาท) ที่จะทำให้จำนวนผู้โดยสารทั้งสีม่วงเหนือและสีน้ำเงินเพิ่มขึ้น คาดเปิดประมูล ต.ค. นี้ และ SEAFCO (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 16.60 บาท) ที่ได้ประโยชน์จากงานฐานราก
(+) SEAFCO ผู้นำงานก่อสร้างฐานรากที่ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนลำดับแรกๆ แม้คาดกำไร 2Q17 ชะลอตามฤดูกาล แต่งานในมือที่เป็นสถิติสูงสุดใหม่ 2.1 พันลบ. จะทำให้การรับรู้รายได้เร่งตัวขึ้น 2H17 คาดกำไรปีนี้โต 47% Y-Y และโตต่อเนื่องอีก 23% Y-Y ในปีหน้า เราเริ่มต้นด้วยคำแนะนำซื้อ โดยใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 16.60 บาท
(+) BEAUTY คาดกำไร 2Q17 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 223 ลบ. +12% Q-Q, +60% Y-Y จาก SSSG ที่คาดเพิ่มขึ้นถึง 20% Y-Y เพราะทัวร์จีนกลับมาด้วยคุณภาพที่สูงขึ้น ซึ่งกำไรต่อหุ้น 12 เดือนล่าสุดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ยังไม่สอดคล้องกับราคาหุ้นที่ยังไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ PEG เมื่อเทียบการเติบโตปี 2018-2020 ที่ 28% ต่อปี ยังต่ำเพียง 1.4 เท่า ค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีกอยู่ที่ 1.7 เท่า แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.60 บาท
(0) CENTEL คาดกำไรปกติ 2Q17 ลดลง 53.1% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล และโตเพียง 9.7% Y-Y แม้ธุรกิจโรงแรมจะโตดี แต่ถูกถ่วงจากธุรกิจร้านอาหารที่หดตัวตามการบริโภคที่ชะลอ ส่วนแนวโน้ม 2H17 คาดว่าจะค่อยๆดีขึ้น โดยทั้งปียังคาดกำไรปกติโต 4.3% Y-Y อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับขึ้นนับตั้งแต่เราแนะนำให้ซื้อครั้งก่อน จน Upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 42 บาท จึงลดคำแนะนำเป็นถือ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
25-26 ก.ค. - สหรัฐ: FOMCประชุม (ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1-1.25%)
27 ก.ค. -ไทย:ประกวดราคารถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบ, FTE เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.95 บาท)
- เกาหลีใต้: 2Q17 GDP
28 ก.ค. - ไทย:ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต (มิ.ย.)
- ไต้หวัน: 2Q17 GDP
- สหรัฐ:2Q17 GDP (คาดการณ์ครั้งแรก)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
31 ก.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.
- จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ก.ค.)
1 ส.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.),Business Sentiment Index (ก.ค.)
- ยูโรโซน: 2Q17 GDP
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวก โดยทั้ง Nasdaq และ S&P500 สามารถปิดทำนิวไฮได้ เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการที่ค่อนข้างสดใส กอปรกับตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ที่สูงกว่าคาด
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หลังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีที่แข็งแกร่ง โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนก.ค.ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลก และ ราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นต่อ นำโดยตลาดญี่ปุ่นที่ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนอ่อนค่า
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งทรงตัวเคลื่อนไหวในกรอบแคบแถว 33.46-33.47 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดบวก 1.55 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.89 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังได้ปัจจัยบวกจากการประชุมผู้ผลิตน้ำมันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อีกทั้ง ตลาดยังคาดว่าตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล โดยภายหลังตลาดปิด API ระบุสต๊อกน้ำมันอาจลดถึง 10.2 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 2.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,252.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ปรับตัวเลขเล็กน้อยจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น ทั้งนี้ นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการประชุม FOMC
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research