- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 July 2017 16:18
- Hits: 26473
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,568-1,590
กลุ่มหุ้นที่คาดกำไรออกมาดี หนุน SET +0.28% ที่ 1,575.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้าน ต่างชาติขาย 121 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
แม้ SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideways ระยะสั้นช่วงประกาศกำไร 2Q17 กรอบ 1,568-1,590 จุด แต่เป็นโอกาสในการ "ซื้อ" มอง SET จะให้ผลตอบแทนดีขึ้นในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้าจาก 1) Consensus ปรับเป้าหมายหุ้นขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (ดูรายงาน The Revision วันที่ 18 ก.ค.ประกอบ) 2) แรงกดดันเงินเฟ้อต่ำ ส่งผลให้ดอกเบี้ยในประเทศต่ำนาน เอื้อต่อการลงทุน 3) PE premium ของ SET กับ MSCI Ex-JP ลดลงเหลือ 10% เทียบกับในอดีตที่ 22% 4) valuation ของ SET ที่ PE18 14x และ Earnings yield gap ที่ 4.6% น่าสนใจลงทุนมากขึ้น
ทำอะไรดี:
"ซื้อ" DTAC (TP 70) ต่อจากเมื่อวาน ยังมอง EV/EBITDA ปี 2017 ที่ 6.6x ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนหน้าที่ 7.3x ขณะที่คาดการณ์กำไรปี 2018-19 จะเติบโตสูง 27-390% และกระแสเงินสดแข็งแกร่งด้วย EBITDA 2.9-3.0 หมื่นล้านบาท/ปี ประเมินแนวต้านระยะสั้นที่ 58/60 บาท ...รวมถึง "ซื้อ" BEAUTY (คาดกำไร 2Q17 +57% y-y), KAMART MTLS EA WHAUP (Initiate คาดกำไร 2Q17 แข็งแกร่ง) ขณะที่หุ้นเงินปันผลระหว่างกาลสง "ซื้อ" KKP (คาด 2.7%) และ SPRC (คาด 3.6%) ต่อไป
Tactical Portfolio (1-3 months):
"ถือ" BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK ต่อไป (ไม่เปลี่ยนแปลง)
Fundamental:
WHAUP : "ซื้อ" พื้นฐาน 7.0 บาท (Initiation)...กำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 415MW ในปัจจุบัน และเพิ่มอีก 127MW ช่วง 2H17-2019 สนับสนุนการเติบโตกำไร 63% ต่อปีช่วง 2016-19 ราคาปัจจุบันคิดเป็น PEG 0.4x.ขณะที่ในทางเทคนิคอิง TradeCode อยู่ที่ "Let Profit Run" เป้าหมายระยะสั้นที่ 6.15/6.45 บาท ตามลำดับ
Today's News:
PTTEP : ได้รับเอกสารฟ้องร้องจากอินโดฯ กรณีน้ำมันรั่วจากแหล่งมอนทารา มูลค่า US$2.1 พันล้าน (คิดเป็น 18 บาท/หุ้น) อย่างไรก็ดีทาง PTTEP ยืนยังไม่มีความเสียหายด้านสภาพแวดล้อมอย่างที่ฟ้องร้อง และเราไม่คิดว่าคดีฯ จะถูกตัดสินเร็วๆ นี้
BOJ และ ECB : วันนี้ คาดคงนโยบายการเงินเหมือนเดิม โดย BOJ ยังใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย และ ECB คงการซื้อพันธบัตร แต่คาดว่าจะเริ่มส่งสัญญาณลดในการประชุม ก.ย.นี้
การสร้างบ้านในสหรัฐฯ: เดือน ม.ย.เพิ่มขึ้น 8.3% และการอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้น +7.4% ดีกว่าตลาดคาด
Technical Story: Technical SET range: 1,568-1,585
ค่อยๆ ลุ้นตังหลักต่อขึนไป: (รายงาน The Technical Story)
SET รีบาวด์ขึ้นมาจากเขตแนวรับ มีด่านระยะสั้นที่ 1,578 จุด ทะลุได้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,585 จุด ส่วนแนวรับกรณีแกว่งตัวมีที่ 1,573 จุดและถัดไปที่ 1,568 จุด แนะนำแบ่งขายหุ้นหากปิดหลุด 1,569 จุดลงมา
หุ้นแนะนำ:
IHL เข้าซื้อ เป้าหมาย 12.40 บาท...Stoploss ถ้าหลุด 9.90 บาท
KBANK ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 206 และ 215 บาท
DTAC ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 59 และ 62.50 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
"ถือ" Long S50U17 เป้าหมาย 998 จุด...Trailing Stop 988 จุด
"Long" BlockTrade DTAC เป้าหมาย 58.50 / 60...Leverage 13.5x
TradeCode: Buy >DELTA, DTAC, BLAND
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ให้ผลตอบแทน +2.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดีกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน +0.5% โดยกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มเงินเฟ้อลดลง และโอกาสที่ Fed จะลดความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ยให้ผลตอบแทนสูง ได้แก่ LIT +7.1% w-w, KKP +5.6% y-y, THANI +5.3% w-w, SAWAD +4.4% w-w ขณะที่ WORK ปรับลดลง 5% w-w หลังตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาเดือน มิ.ย.อ่อนแอ...ทั้งนี้เรายังแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 9 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ EA ESSO LIT MTLS KKP (ปันผลระหว่างกาล 2.8% และทั้งปี 8.5%) SAWAD SUSCO
THANI และ WORK
THANI ประกาศกำไร 2Q17 ที่ 258 ล้านบาท +19% y-y และ +5% q-q ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ แม้จะมีการตั้งสำรอง (provision) สูงขึ้นเตรียมความพร้อมต่อการใช้มาตรฐานบัญชี IFRS 9 ก็ตาม ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การขยายสินเชื่อ +9% YTD และ +4% q-q 2) ต้นทุนการเงินต่ำลง เหลือ 3.06% ใน 2Q17 จาก 3.1% ใน 1Q17
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA : เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP : หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT : ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979