- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 July 2017 15:49
- Hits: 8643
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
การเมืองสหรัฐถ่วงตลาด
คาดหุ้นไทยไม่ไปไหนวันนี้ พรรค Republican ประสบความล้มเหลวในการจะแก้ไขหรือยกเลิก กฎหมาย Obamacare ซึ่งอาจทำให้กฎหมายอื่น ๆ ของ Trump โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายที่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาไม่ได้ไปด้วย ทำให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงซบเซา อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจแข็งแกร่งของจีนที่หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ มีส่วนช่วยหุ้นเอเซียอยู่บ้าง ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เราปรับประมาณการกำไร TMB ขึ้นจากสัญญาความร่วมมือธุรกิจประกันกับ FWD ฉบับใหม่ ยืนยันคำแนะนำซื้อสำหรับ TMB
หุ้นเด่นวันนี้ : ERW (ราคาปิด 5.35 บาท; NR; IAA Consensus 6.00 บาท)
ERW มีแนวโน้มสดใสมากตามอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ททท.คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาในปีนี้จะเกินกว่า 35 ล้านคนเติบโตขึ้น 5-6% YoY นักท่องเที่ยวชาวจีน รัสเซียและอินเดียเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงมากในช่วง 1H60 นักท่องเที่ยวภายในประเทศเติบโตดีขึ้นมากในช่วง 1H 60 ด้วย รายได้หลักของ ERW จากการดำเนินกิจการโรงแรมเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี ERW เปิดดำเนินการในชั้นประหยัด Hop lnn ในเมืองบุรีรัมย์ในไตรมาส 1/60 ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวน Hop lnns ในประเทศไทยเป็น 23 แห่ง และมีโรงแรมในต่างประเทศอีก 19 แห่ง มีจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 6,464 ห้องในไตรมาส 1/60 ขณะนี้บริษัทกำลังพัฒนาโรงแรมขนาดกลางและโรงแรมประหยัดอีก 2 แห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ ไอบิสและโนโวเทลสุขุมวิท 4 (รวม 300 ห้อง) และไอบิสและเมอร์เคียวสุขุมวิท 24 (รวม 500 ห้อง) ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/61 และปี 2562 ตามลำดับ ไตรมาสที่สองโดยปกติจะเป็นช่วง low season สำหรับการท่องเที่ยวและ ERW ที่มีผลขาดทุนตามปกติ อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2/60 นี้
เราคาดว่า ERW จะมีกำไรสุทธิราว 25 ล้านบาท lAA consensus ประมาณการว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 44% ในปี 2560 และ 16% ในปี 2561 ขณะนี้ ERW มีPER 30 เท่า PEG ต่ำเพียง 0.68 เท่า ERW จึงยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่า Price Pattern ของ ERW ยังคงมีแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Weekly, & Monthly Buy Signal แต่ในระยะสั้นยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานเนื่องจากยังคงเกิด Daily Sell Signal โดย Price Pattern ของ ERW จะกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่เมื่อสามารถปรับตัวขึ้นและปิดตลาดเหนือ 5.75 บาท เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ ERW ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายสำคัญที่ 5.10 บาทไปได้แล้ว จึงมีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 5.65 บาท (Resistance: 5.45, 5.55, 5.70; Support: 5.25, 5.10, 4.98)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
มูดี้ส์คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยไว้ที่ Baa1 เมื่อวานนี้ Moody,s lnvestors Service ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลไทยสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและสกุลเงินบาทที่ระดับ Baa1 และคงมุมมองความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ (Moody,s)
อนุมัติงบพัฒนาบุคลากร EEC ครม.วานนี้เห็นชอบงบจำนวน 619.4 ล้านบาท สำหรับกลยุทธ์ 5 ปีเพื่อพัฒนาบุคลากรสำหรับโครงการเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและไทยแลนด์ 4.0 (บางกอกโพสต์/เดอะ เนชั่น)
กองทุนรวมไทยโตในครึ่งแรกปี 60 ยอดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมไทยเพิ่มขึ้น 3.6% YoY ที่ระดับ 4.82 ล้านล้านบาทในครึ่งแรกปี 60 เนื่องจากการไหลเข้าเงินทุนสุทธิจำนวน 1.383 แสนล้านบาท (บางกอกโพสต์)
TMB (ราคาปิด 2.28 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 2.70 บาท) คาดจะบันทึกค่าธรรมเนียมการเข้าถึงช่องทางการให้บริการของธนาคาร (access fee) จากเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ที่ถูกบันทึกเป็นรายได้รับล่วงหน้า จำนวน 1.96 หมื่นล้านบาทในช่วง 14.5 ปีที่เหลือ จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นมานี้ การเติบโตของเงินฝากปี 60 คาดว่าจะลดลงเป็น 5-7% จาก 8-10% และการเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น20-30% จาก 10-20% (TMB)ความเห็น: เราปรับลดการคาดการณ์เติบโตเงินฝากปีนี้ลงจาก 9% เป็น 7% และปรับสมมติฐานการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจาก 15% เป็น 25% ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ของเราเพิ่มขึ้น 4.5% อยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท (+13.1% YoY)
ต่างประเทศ :
ผู้นำเสียงข้างมากวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน นายมิทช์ แม็คคอนเนลล์ ประกาศการลงมติในต้นสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับการยกเลิกโอบามาแคร์โดยทันที ซึ่งจะมีผลเป็นเวลา 2 ปี หลังจากเป็นที่ชัดเจนเมื่อคืนวันจันทร์ว่าเขาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะผ่านการยกเครื่องกฎหมายประกันสุขภาพ ความพยายามของพรรครีพับลิกันที่จะยกเลิกโอบามาแคร่พังทลายเมื่อวันอังคาร และความล้มเหลวดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับโอกาสในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในประเทศอื่น ๆ ที่มีความสำคัญ ได้แก่ การปฏิรูปภาษี ผ่านสภาที่มีความเห็นแตกแยก (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับต่ำสุดเทียบกับเงินยูโรเมื่อวันอังคารโดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือน จากเหตุร่างพรบ.ประกันสุขภาพฉบับใหม่ล่ม ซึ่งดัชนีดังกล่าวแตะระดับต่ำสุดนับแต่ต้นเดือนก.ย. ปีก่อน ที่ระดับ 94.476 (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร จากเหตุดราม่าทางการเมืองล่าสุดเกี่ยวกับการออกกฎหมายประกันสุขภาพ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปีปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีไหลลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดผสมผสานเมื่อวันอังคาร โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์หนุนดัชนีแนสแดคจนปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ผลประกอบการของโกลด์แมน แซคส์ ได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ นักลงทุนในตลาดหุ้นดูเหมือนจะไม่แสดงปฏิกิริยาต่อความล้มเหลวในการยกเลิกโอบามาแคร์เมื่อคืนก่อน (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปร่วงวานนี้ เนื่องผลการดำเนินงานของ Ericsson และ Lufthansa ที่ออกมาผิดหวัง ขณะที่การคาดการณ์เรื่องการลดการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางหลายๆ แห่งกระทบตลาดเช่นเดียวกัน (Reuters)
เอเชีย :
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ผลิตและผู้ให้บริการญี่ปุ่นคงมีเสถียรภาพอยู่ในระดับสูง ในเดือนก.ค. จากผลสำรวจของ Reuters/Tankan เมื่อวันพุธ ซึ่งย้ำถึงมุมมองเศรษฐกิจของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่สดใส (Reuters)
ตลาดหุ้นจีนยังมีการเทขายหุ้นต่อเป็นวันที่ 2 โดยมีหุ้นจำนวนมากที่ร่วงลงราว 10% หลังข่าวจากการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์เกี่ยวกับกฎระเบียบและการลดหนี้ ทั้งนี้ การประชุม National Financial Work Conference ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน จะมีคณะกรรมการพิเศษที่จะกำกับดูแลกฎระเบียบและการปรับลดหนี้ในระบบการเงินในอีก 5 ปีข้างหน้า (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อยวานนี้ เนื่องจากซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมัน และอุปสงค์น้ำมันที่อยู่ในระดับสูงช่วยดูดซับน้ำมันที่ล้นตลาด ราคาเบรนท์เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ อยู่ที่ 48.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 38 เซนต์ อยู่ที่ 46.40 ดอลลาร์ (Reuters)
ราคาทองแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันอังคาร เนื่องจากดอลลาร์ที่ร่วงลง จากการที่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 1,240.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 1,239.80 ดอลลาร์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 0-2680-5056
MISS. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042