- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 July 2017 15:36
- Hits: 6533
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัว จากแรงขายในกลุ่ม ธนาคาร และอิเล็กทรอนิกส์ ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,571 (-2.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อหุ้นไทยที่ 2,335 ล้านบาท และพลิกมา short สุทธิ SET50 Index Future ที่ 1,473 สัญญา
Investment theme
มีปัจจัยกดดันการลงทุนต่อเนื่อง : หากเราดูจากทิศทางของค่าเงินบาท และราคาสินค้าเกษตรหลักของประเทศไทย เช่นยางพารา, ข้าว และมันสำปะหลัง จะพบว่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังของไทยมีโอกาสที่จะออกมาต่ำกว่าในช่วง 5 เดือนแรก และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดไว้ ประกอบกับจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า EPS ของ SET มีโอกาสถูกปรับประมาณการลงมากกว่าปรับขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับเรามองว่าปัญหาตั๋ว B/E ซึ่งส่งผลกระทบให้ทั้งผู้ถือตั๋วและนักลงทุนได้รับผลกระทบ ประกอบกับในอนาคต เราเชื่อตลาดฯและกลต. อาจพิจารณาออกกฏคุมเข้มการออกตั๋ว B/E ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯอาจต้องปรับตัวไปใช้เครื่องมือทางการเงินประเภทอื่นแทนเช่น กู้ธนาคาร, เพิ่มทุน และ warrant ระยะสั้น ซึ่งอาจส่งผลให้เผชิญปัญหากับ cost of fund และ liquidity รวมถึง EPS ของบาง sector อาจได้รับผลกระทบโดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ
Investment theme: สัปดาห์นี้เรามองว่า SET จะมีแนวต้านที่บริเวณ 1,583 และแนวรับบริเวณ 1,560 อย่างไรก็ตามเราคงมุมมองว่า SET ยังขายปัจจัยสนับสนุนจากทั้งในและต่างประเทศที่จะทำให้ทะลุ 1,600 ฉะนั้นเราคงคำแนะนำเก็งกำไรรายตัว และไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุน
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ 1.30 จากการรายงานเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 2.6% (คาด 2.9%) / หุ้นธนาคารของสหรัฐปรับตัวลงกดดันตลาดหุ้น / ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง กังวลการส่งออก / TCAP งบไตรมาส 2 ตามคาด / PTTEP ได้รับคำฟ้องเหตุน้ำมันรั่วจากอินโดฯ เรียกค่าเสียหาย 2.1 พันล้านเหรียญฯ
เรื่องเด่นวันนี้
บทวิเคราะห์ SPALI
Stock pick : BJC
BJC: ซื้อเก็งกำไร @ THB 59.00
คาดผลประกอบการ 2Q60 ที่ 1,109 ล้านบาท (+9%QoQ,+57%YoY) จากกำไรของ BIGC ทีฟื้นตัว QoQ ตามผลของฤดูกาล ขณะที่คาดดอกเบี้ยจ่ายลดลงประมาณ 800 ล้านบาท (-43%YoY)
เราเริ่มเห็นพัฒนาการของ BIGC จาก SSSG(%) ที่คาดว่าจะดีขึ้น QoQ เป็นผลมาจากการยกเลิกการขายสินค้าที่ Margin ต่ำ (Wholesale)
แผนการขยายสาขาของบริษัทฯ ยังเดินตามแผน และคาดว่าจะเห็น Synergy จากการประหยัดค่าใช้จ่ายรวม มากกว่า 600 ล้านบาทในปีนี้ (Logistic , Supply chain management , IT system, etc)
Trading idea – เรามองว่าจะเห็นแรงขายของกลุ่มกองทุนในประเทศในเดือนนี้ / ทยอยสะสะม IVL บริเวณ 36.00 จากส่วนต่างราคา PTA, MEG, PET ที่ปรับตัวเด่น /
Technical view
1556-1570 ควรเริ่มเห็นการชะลอลง กราฟ 120 นาที ดัชนียังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงทดสอบ 1566-1570 ขณะที่ Slow Stochastic เริ่มเข้าเขต Oversold แล้ว จึงมองว่าระยะสั้นดัชนีอาจพยายามสร้างฐานที่แนวรับดังกล่าว นักลงทุนที่ชอบความเสี่ยง อาจใช้ 1566-1570 เป็นจุดเล่น Rebound ระยะสั้นไปที่แนวต้าน 1575 แต่หากผิดคาดหลุด Low 1564 แนะนำ Stop Loss ทันที เพราะอาจปรับตัวลงไป 1555 กลยุทธ์การลงทุน (1) ลดพอร์ตการลงทุนระยะสั้น และดูแนวโน้มบริเวณแนวรับ 1556-1570 (2) เล่น
Rebound กรอบ 1566-1575
แนวรับ : 1554-1566, 1555 แนวต้าน : 1575-1580
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาการประชุม ECB , BOJ ในวันพฤหัส /
ปัจจัยในประเทศ : จับตาปัญหาแรงงานต่างด้าวคาดกระทบเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะธุรกิจก่อสร้าง (อาจส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึน้ ) / KTB, SCB
, KBANK , BBL ประกาศงบวันพรุ่งนี ้
ห้นุ เทคนิค:
KBANK (B 195.50, Tp 200, Cut 195)
AOT (B 47.50-48, Tp 49-50, Cut 47)
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000