- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 July 2017 17:18
- Hits: 16209
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> LPN, MINT, WHAUP
Stock S R Comment
LPN 11.70 12.10 โครงการ Low rise หนุน Backlog ปี 2561 แกร่ง
MINT 40.25 41.50 ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวและเติบโตเร็วกว่าคาด
WHAUP 5.85 6.05 คาดกำไร 2Q ทะลุ 300 ล้านบาท
Inflation under pressure
เมื่อคืนวันศุกร์ (14 ก.ค.) CPI ของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยต้วเลข CPI ในเดือน มิ.ย. ที่ออกมานั้นเพิ่มขึ้น 1.6% เท่านั้น ลดลงจากตัวเลขในเดือน พ.ค. ที่เพิ่มขึ้น 1.9% หากไม่รับรวมหมวดอาหารและ พลังงาน Core CPI อยู่ที่ระดับ 1.7% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเดือน พ.ค. ตัวเลข CPI ที่ออกมานั้นสัญญาณทิศทางของอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ Fed ตั้งเป้าไว้ที่ 2%
ดัชนีภาคการผลิตลดลงเหลือ 9.8 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 19.8 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 15 ในเดือน ก.ค. จากดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจทั้งในส่วนของ CPI และดัชนีภาคการผลิตที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้แนวโน้มที่ Fed จะไม่เร่งรีบดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด (Tightening Monetary Policy) ซึ่งเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging markets)
หลังแนวโน้ม อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ Fed ตั้งเป้าไว้ที่ 2% ทำให้นักลงทุนเริ่มลดความคาดหวังที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ โดยFed Fund futures บ่งบอกว่านักลงทุนมองโอกาศที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้อีกครั้ง ลดลงจาก 51.9% เหลือเพียง 43.4%
BANK : เมื่อวานนี้ TMB ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/60 ซึ่งออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด สำหรับธนาคารอื่นๆ คาดว่าจะทยอยประกาศผลประกอบการภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งภาพรวมคาดว่าจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากแนวโน้มสินเชื่อที่ชะลอตัว และปัญหาคุณภาพหนี้ที่กดดัน เราจึงมองว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารจะไม่ใช่ปัจจัยหนุนตลาดในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่าผลประกอบการของกลุ่มธนาคารเช่าซื้อยังมีทิศทางที่ดี จึงเลือก TCAP เป็น Top Pick ของกลุ่มฯ แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 55 บาท
ในคืนนี้ให้จับตาดูประธานธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) นายมาร์ค คาดนีย์แถลง ซึ่งหากมีการแถลงในโทน Hawkish ก็จะส่งผลให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น
ในสัปดาห์นี้ ให้ติดตามการแถลงของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรปถึงนโยบายการเงินของทั้งสองในวันพฤหัสที่ 20 มิ.ย.2560
Strategy: ในช่วงที่เข้าสู่ Preview ผลประกอบการไตรมาส 2 นั้น เราจึงได้ทำการศึกษา EPS Revision กับ Price Performance ตั้งแต่ต้นปี เราพบว่ามี 3 Sector ที่มีความน่าสนใจ คือ AGRI, FIN และ PETRO โดย AGRI ได้มีการปรับลงมากกว่า EPS Revision ที่ปรับลง (Market Over-Reaction) ในขณะที่ FIN และ PETRO ปรับตัวน้อยกว่า EPS Revision ที่ปรับขึ้น (Market Under-Reaction) ได้แก่หุ้น VNT, IVL, KTC,SCC และ PTTGC
คาดการณ์ SET Index ปรับตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1540 - 1600 จุด เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยที่มีแนวโน้มผลักดันดัชนีไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน แนะนำกลยุทธ์ขึ้นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวต้านแนวรับดังกล่าว และถือหุ้นกลุ่มแนะนำต่อไป ได้แก่
1) กลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนต่ำและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ส่วนหุ้นที่มี Dividend Yield ในระดับสูงและคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลคือ GLOW, EGCO, RATCH
2) กลุ่มสินค้าและบริการที่จำเป็น ได้แก่ กลุ่ม Consumer staples (CPALL, BJC) และกลุ่ม Healthcare (BCH, CHG) ที่มีแนวโน้มทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อต่ำ
กลุ่มพลังงาน ที่ราคายังคง Laggard ประกอบกับค่าการกลั่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เลือก PTT, PTTEP สำหรับกลุ่ม Upstream และ BCP, SPRC, TOP สำหรับกลุ่มโรงกลั่น มองว่าตลาดรับรู้ประเด็น Inventory loss ของกลุ่มในไตรมาส 2/60 ไปพอสมควรแล้ว
แนวรับ 1,566 แนวต้าน 1,586
บทวิเคราะห์วันนี้
TMB (ถือ ราคาเป้าหมาย 2.40 บาท) กำไร 2Q60 ได้แรงหนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียม
Today's Event :
EVER ลูกหุ้นเข้า 1,758 หุ้น
SCB ลูกหุ้นเข้า 6,433 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
ธนภัทร ฉัตรเสถียร (ID: 49194)
E-mail: [email protected]